ในหลวง รับสั่ง บ้านเมืองจะล่มจมถ้าทุกคนต่างคนต่างทำ
วช.ทูลเกล้าฯถวายสิทธิบัตรฝนหลวง และจดหมายเหตุสิทธิบัตรฝนหลวงในหลวง ในหลวงรับสั่ง บ้านเมืองจะล่มจมถ้าทุกคนต่างคนต่างทำ แต่ถ้าทุกคนร่วมมือกัน ก็จะสร้างให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าได้
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 21 สิงหาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี ในฐานะผู้แทนพระองค์ยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตรฝนหลวง นำนายอานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (เลขาธิการ วช.) และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรฝนหลวง ซึ่งออกโดยสำนักสิทธิบัตรของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป และสำนักสิทธิบัตรเขตบริหารพิเศษฮ่องกง รวม 11 ประเทศ พร้อมทั้งทูลเกล้าฯ ถวายจดหมายเหตุสิทธิบัตรฝนหลวงโดยคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติจัดทำขึ้น ซึ่งรวบรวมการดำเนินการการจดสิทธิบัตรฝนหลวง ตั้งแต่ปี 2545-2550 จำนวน 100 เล่ม และถือเป็นพระมหากษัตริย์ พระองค์แรกของของโลกที่ทรงได้รับสิทธิบัตร
โอกาสนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ทรงมีพระราชดำรัสถึงความร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาประเทศว่า "ข้าพเจ้าได้ยินมานานแล้วว่า การทำงานนั้นไม่ใช่ง่ายๆ โดยมากความก้าวหน้าจะต้องอาศัยคนที่มีความรู้ ความรอบรู้ ตั้งใจทำ โดยนำความรู้ของแต่ละภาคส่วนมาใช้ อย่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอื่นๆ รวมทั้งประชาชน มาร่วมมือกัน โดยไม่มีใครเอาเปรียบกัน อันนี้สำคัญที่สุด เราเชื่อว่าจะทำให้บ้านเมืองก้าวหน้าดี บ้านเมืองจะสามารถพัฒนาขึ้นมาได้ดี โดยเฉพาะในระยะนี้บ้านเมืองของเรา เรียกว่าบ้านเมืองกำลังล่มจม ไม่รู้ว่าจะไปไหน ไปอย่างไร เราก็รู้สึกเป็นห่วงว่า ประเทศไทยกำลังล่มจม แต่พวกท่านจะทำให้ไม่จมได้ ซึ่งต้องมีการพัฒนาสร้างให้ดีขึ้น สร้างบ้านเมืองให้ก้าวหน้า ประชาชนมีความเจริญ เราก็มีความหวังมีความรู้สึกว่า บ้านเมืองจะไม่ล่มจม เพราะระยะเวลาที่ผ่านมา เรารู้สึกว่า บ้านเมืองเรากำลังล่มจม เพราะต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างแย่งกัน ต่างคนต่างไม่เข้าใจว่าทำอะไร แต่ตอนนี้โชคดีที่มีผู้มีความรู้ต่างๆกัน มาร่วมมือกัน บัดนี้ขอยืนยันว่า ถ้าทุกคนที่มีความรู้ ความตั้งใจก็จะสามารถสร้างให้บ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างแท้จริง ขอให้ท่านจงช่วยกันทำให้สำเร็จตามที่มุ่งหวัง"
อนึ่ง สำหรับการดำเนินการจดทะเบียนสิทธิบัตรฝนหลวง ได้เริ่มขึ้นในปี 2544 โดย วช.ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตที่จะนำโครงการน้ำมันปาล์ม R.B.D. Palm Olien as Altenative Fuel และโครงการฝนหลวง The Royal Rainmaking Technics ไปร่วมจัดการแสดงในงานนิทรรศการ "Brussels Eureka 2001: 50th Anniversary of the World Exhibition of Innovation, Research and New Technology" ที่กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม และได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต ต่อมากองงานส่วนพระองค์ สำนักพระราชวัง ได้มีหนังสือถึงวช. เพื่อให้ดำเนินการจดทะเบียนสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ทั้ง 2 เรื่อง ดังกล่าวในต่างประเทศ เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่เนื่องจากโครงการน้ำมันปาล์มได้มีการยื่นจดทะเบียนขอรับสิทธิบัตรในประเทศแล้ว เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2545 และการยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตรในต่างประเทศต้องดำเนินการภายในเวลาไม่เกิน 12 เดือนนับจากวันที่ยื่นจดทะเบียนขอรับสิทธิบัตรในประเทศแล้ว ดังนั้น วช.จึงดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตรโครงการฝนหลวงทั้งในและต่างประเทศเพียงโครงการเดียว