ส่อเค้าบานปลาย เหตุประท้วงการตายของ "จอร์จ ฟลอยด์" ลามไปกว่า 20 เมืองทั่วสหรัฐฯ
สื่อต่างประเทศรายงานว่า การประท้วงต่อกรณีที่นายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีวัย 46 ปีเสียชีวิตในระหว่างการเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตานั้น ขณะนี้ได้ลุกลามไปยังเมืองต่างๆ กว่า 20 แห่งทั่วสหรัฐแล้ว ซึ่งรวมถึงลอสแอนเจลิส, เมมฟิส, นิวยอร์ก, เดนเวอร์, ฮิวสตัน, แอตแลนตา, ดีทรอยต์ และ ลุยส์วิลล์
ทั้งนี้ การประท้วงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายฟลอยด์ในเมืองต่างๆ ยังคงดำเนินต่อไป แม้มีรายงานว่า ดีเรค ชอวิน ตำรวจผิวขาวที่ก่อเหตุได้ถูกจับกุมตัวในข้อหาฆาตกรรมนายฟลอยด์แล้วก็ตาม
สถานการณ์ในเมืองมินนีแอโพลิสก็ยังคงตึงเครียด แม้นายจาค็อบ เฟรย์ นายกเทศมตรีได้ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 20.00 น. ถึง 06.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นระหว่างวันศุกร์ถึงวันเสาร์นี้ (30 พ.ค.) แต่ผู้ประท้วงส่วนใหญ่ต่างก็เพิกเฉยกับคำสั่งดังกล่าว โดยยังคงเดินหน้าประท้วง และปะทะกับตำรวจปราบจลาจล พร้อมทั้งทำลายทรัพย์สินสาธารณะ รวมถึงการเผารถยนต์ และการทุบกระจกร้านค้า
ทั้งนี้ การเสียชีวิตของนายฟลอยด์ได้กลายเป็นข่าวโด่งดังในโลกโซเชียล โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา พนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ หลังสงสัยว่านายฟลอยด์พยายามจะซื้อของในร้านด้วยธนบัตรปลอม และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้จับนายฟลอยด์ใส่กุญแจมือ และผลักเขาให้นอนคว่ำลงกับพื้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งใช้เข่ากดลงบนคอของนายฟลอยด์และทิ้งน้ำหนักตัวลงไป ซึ่งขณะนั้นนายฟลอยด์พยายามร้องบอกตำรวจว่า “ผมหายใจไม่ออก ได้โปรด ผมหายใจไม่ออก” ก่อนที่เขาจะหมดสติไป และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
โดยรายงานระบุว่า นายฟลอยด์ได้เสียชีวิตก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล คลิปวิดีโอที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกดเข่าลงบนคอของนายฟลอยด์จนเขาหมดสตินั้น ได้กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็วบนโลกโซเชียล โดยก่อให้เกิดเหตุประท้วงรุนแรงตามมาในรัฐมินนิโซตา และลุกลามไปยังเมืองอื่นๆ ของสหรัฐด้วย