พลังประชารัฐเดือด! "สิระ" ซัดแรงโต้กลับ "วัชระ" หลังจุดประเด็นขาลงกลุ่มสามมิตร
พรรคพลังประชารัฐเดือดอีกรอบ “สิระ” ตอกกลับแรง หลัง “วัชระ” จุดประเด็น “หมดเวลาของกลุ่มสามมิตร” ชี้แค่คนมาอาศัยชายคาพรรค แต่มาทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ถึงได้เป็นแค่ ส.ส.สอบตก
หลังจากที่ นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงพลังงาน และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า หมดเวลาของกลุ่มสามมิตร อ้างอิงที่เรื่องที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำทีมกลุ่มสามมิตรมากกว่า 20 คน เข้าพบกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ โดยระบุว่า กลุ่มสามมิตรน่าจะอยู่ในช่วงขาลง หมดลายแล้ว
ทั้งนี้ เนื้อหาที่นายวัชระโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
“หมดเวลา..สามมิตร”
เพื่อน ๆ ชาวเฟซบุ๊ก เห็นข่าวนี้ไหมครับ เนื้อข่าวที่ว่า “คุณสุริยะ” นำทีมกลุ่ม “สามมิตร” กว่า 20 คน เข้าพบ “ลุงป้อม” ที่สภาฯ เมื่อวันวาน เห็นว่าบรรยากาศชื่นมื่นดีจัง
บางคนอ่านข่าวนี้แล้ว อาจจะรู้สึกว่ากลุ่ม “สามมิตร” ทรงพลังเหลือเกิน แต่สำหรับผม ผมอ่านข่าวนี้แล้วรู้สึกตกใจครับ!!!
กลุ่ม “สามมิตร” ท่าทางจะอยู่ในช่วงขาลงอย่างเขาว่ากันจริง ๆ กระมังครับ!?! หลายคนเคยพูดให้ฟังผมก็ไม่เคยเชื่อ แต่ครั้งนี้คงต้องเชื่อและยอมรับความจริงเสียที
กลุ่ม “สามมิตร” หมดลายแล้วสิ้นมนต์ขลังแล้วจริงๆ กระมัง เอาตั้งแต่ชื่อ “สามมิตร” เลยจากจุดเริ่มต้น คำว่า “สามมิตร” ประกอบด้วยผู้ยิ่งใหญ่ตัวอักษร 3 ส. คือ สมคิด สุริยะ และสมศักดิ์
วันนี้ใคร ๆ ก็รู้ว่าพี่ใหญ่สุดที่ชื่อว่า “ส.สมคิด” ที่เคยเป็นเกราะคุ้มครองและสร้างภาพลักษณ์ให้ ก็ถอยฉากออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือ ๆ อยู่ก็ไม่ต้องสาธยายสรรพคุณอะไรมากมายนะครับ ที่บอกว่า “สามมิตร” เป็นขาลงอีกข้อหนึ่งก็คือ จำได้ไหมครับว่าก่อนเลือกตั้งพลพรรค “สามมิตร” เคลมกำลังในมือกันเป็นหลักเหยียบๆ ร้อยคน ไม่ต้องไปไกลหรอกครับแค่ตอนนัดรวมพลกินข้าวที่โรงแรมกลางเมืองเมื่อสองสามเดือนก่อนก็ยังว่ากันที่หลัก 40 – 50 คนอยู่เลย
วันนี้เหลือแค่แตะๆ 20 กว่าคน แว่วว่ายังต้องโทรตามจิกกันนาทีต่อนาทีเลย เห็นว่าคนโทรตามเหนื่อยแทบรากเลือด เพราะฉะนั้นก็จงดูกันเอาเองนะครับว่า “สองมิตร”ที่เหลือจะลากกันไปต่ออย่างไร???
ส่วน “ข่าวปล่อย” ที่อ้างเรื่องนัดหมายที่ห้อง 417 แล้วบอกว่ามีคนมาไม่ถึง 10 คนนั้น เอาเรื่องจริง ๆ นะครับ ตอนแรกจะมีนัดหมายกันจริงครับ สาระสำคัญก็ไม่มีนัยยะทางการเมืองอะไรครับ แค่จะติว ส.ส.ที่หลายคนที่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจกับเรื่อง พ.ร.ก.ที่กำลังอภิปรายในสภาฯ อยู่ในขณะนี้ ไม่มีนัดเล่นเกมอะไรหรอกครับ พรรคพลังประชารัฐ ก็มีส.ส.น้ำดีหลายคนนะครับ ที่เขารักดี เขาอยากจะทำหน้าที่ในสภาฯ ให้สง่างาม ก็เลยอยากรู้เนื้อหาให้ลึกซึ้ง แต่พอมีข่าวออกไป ผู้ใหญ่ก็กลัวว่าจะเข้าใจผิดกัน จึงประกาศยกเลิก แต่ก็อาจจะมีบางคนที่ตกค้างไม่ทราบข่าวแวะเวียนกันมา…ก็เท่านั้นเองครับ ไม่นึกว่าเรื่องแค่นี้.. ก็จะถูกนำไป “ตีกิน” หรือไปหลอกเด็กได้
วันวาน…ถ้าจะนัดกันจริง ๆ ผมกล้าประกาศเลยว่าจะมี ส.ส.แห่มาร่วมมากกว่ากลุ่ม “สองมิตร” เป็นเท่าตัว
แต่เพราะความที่เราเป็น “เด็กดี” เกรงใจท่านนายกรัฐมนตรี เกรงใจประชาชนเจ้าของประเทศที่กำลังเดือดร้อน เราจึงไม่ทำอะไรให้มันวุ่นวายปั่นป่วน ผมจะคอยดูครับว่า “เด็กดี” เมื่อ “ทำดี” แล้วจะได้ดีหรือไม่!?!
“เวลาจะเป็นตัวพิสูจน์ครับ”
สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
#โฆษกกระทรวงพลังงาน
ล่าสุด (30 พ.ค.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เป็นแค่ความคิดของ ส.ส.สอบตก คนหนึ่ง พร้อมตั้งคำถามว่า เป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ ที่จะออกมาพูดเช่นนี้ ในช่วงเวลานี้ มาสร้างความแตกแยกภายในพรรค ทั้งๆ ที่ เป็นช่วงเวลาของการอภิปรายพิจารณาพ.ร.ก. กู้เงิน 3 ฉบับ
นายสิระ บอกด้วยว่า ด้วยพฤติกรรมเช่นนี้ของนายวัชระ เลยไม่แปลกใจแล้วว่า ทำไมนายวัชระถึงสอบตก และยังไม่สมควรจะดำรงตำแหน่งโฆษกกระทรวงพลังงาน รวมทั้งนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่่าการกระทรวงพลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ควรที่จะรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะไม่ควบคุมพฤติกรรมของนายวัชระ
“เขาไม่ได้มาจาก ส.ส. เป็นเพียงแค่มาคนที่มาอาศัยชายคาของพรรคพลังประชารัฐ แต่สุดท้ายกลับมาสร้างความแตกแยกภายในพรรค การที่มาด่ากลุ่มสามมิตรเช่นนี้ นายวัชระคงต้องย้อนกลับไปดูพฤติกรรมของตัวเอง พูดไปเพื่ออะไร หรือเพราะรู้ว่ากำลังจะถูกไล่ออกจากบ้าน จึงต้องการเผาบ้านทิ้งเพื่อเป็นการทิ้งทวน อีกทั้งนายวัชระไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะมาพูดก้าวร้าวกับกลุ่มสามมิตรเช่นนี้” นายสิระ กล่าว