เริ่มพรุ่งนี้ กทม.ผ่อนคลายระยะ 3 อนุญาตเปิดคลินิก ฟิตเนส ร้านนวด

กทม. แถลงผลประชุมแนวทางผ่อนคลายมาตรการ 17 สถานที่ อนุญาตเปิดคลินิก, ฟิตเนส, ร้านนวด แต่ขอความร่วมมือใส่หน้ากากอนามัย

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร แถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 13/2563 ซึ่งมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม โดยวาระสำคัญของการประชุม ประกอบด้วยการพิจารณาแนวทางการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ระยะที่ 3 ว่าจะมีการให้กิจการประเภทใดเปิดเพิ่มเติมหรือไม่

โดย จากการหารือ กทม. มีมติให้กิจการ 17 ประเภท เปิดให้บริการได้ในวันที่ 1 มิ.ย. 63 โดย ใน 16 กิจการดังกล่าว รวมถึงกิจการที่ได้อนุญาตให้เปิดบริการได้ก่อนหน้านี้ แต่จะปรับแนวทางให้ผ่อนคลายมากขึ้น เช่นร้านอาหาร ที่ก่อนหน้านี้ มีการขอความร่วมมือให้จัดโต๊ะแบบเว้นระยะห่าง 1 โต๊ะต่อ 1 คน ส่วนนี้ก็จะอนุญาตให้ผู้มาใช้บริการ นั่งร่วมโต๊ะกันได้ แต่ยังคงต้องจัดให้นั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร

สำหรับสถานที่ ที่ กทม. จะเปิดให้บริการ รวมถึงปรับมาตรการให้ผ่อนคลายมากขึ้น ประกอบด้วย

1.ร้านอาหาร

2.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอล์ เปิดได้ถึง 21.00 น.

3. ร้านเสริมสวยทั้งบุรุษและสตรี ให้เปิดได้เหมือนปกติ สามารถทำสีผมได้ แต่ต้องใช้เวลาภายใน 2 ชั่วโมง ห้ามนั่งรอในร้าน

4. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง เว้นบริเวณใบหน้า และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า

5.สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส ทั้งนอกและในห้างสรรพสินค้าทำได้ทั้งหมด แต่จำกัดเวลาการใช้ จำกัดผู้เข้าเล่นแบบรวมกลุ่ม งดอบตัวและอบไอน้ำแบบรวม

6.ศูนย์การแสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ จำกัดเข้าพื้นที่รวมไม่เกิน 20,000 ตร.ม. และเปิดได้ถึง 21.00 น.

7.สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง งดการจัดกิจการที่มีผู้คนมาชุมนุมหนาแน่นและไร้ระเบียบ

8.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน ให้เจ้าหน้าที่มาประกอบอาหารและเครื่องดื่มสำหรับให้ผู้ปกครองมารับไปให้เด็กเท่านั้นกิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพและสันทนาการ

9.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา สถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า โดยใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง (งดการอบตัว อบสมุนไพร อบไอน้ำ และกิจการอาบน้ำ

10. สถานที่ฝึกซ้อมมวย, โรงยิมหรือค่ายมวย ให้เปิดเฉพาะฝึกซ้อมนักมวย โดยให้ชกลม ชกเป้าได้แต่ยังห้ามชกคนด้วยกันเอง

11. สนามกีฬาเพื่อออกกำลังกายหรือฝึกซ้อม ได้แก่ ฟุตบอล ฟุตซอล บาสเกตบอล และวอลเวย์บอล ไม่มีการแข่งขัน มีผู้ร่วมกิจกรรมไม่เกิน 10 คน ไม่นับผู้เล่น

12.สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง สเก็ต โรลเลอร์เบลด หรือการละเล่นอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ให้เฉพาะการออกกำลังกายหรือการฝึกซ้อม

13.สถาบันลีลาศ หรือสอนลีลาศ

14.สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬา หรือกิจกรรมทางน้ำในบึง เช่น เจ็ตสกี ไคท์เซิร์ฟ บานาน่าโบ๊ต แต่ต้องไม่เป็นการแข่งขันและจำกัดผู้เล่น

15.โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ จำกัดไม่เกิน 200 คน โดยโรงมหรสพเปิดเฉพาะลิเก ลำตัด การแสดงพื้นบ้าน (งดแสดงดนตรี คอนเสิร์ต) ทั้งนี้ โรงภาพยนตร์ สามารถนั่งเป็นคู่ได้ แต่ต้องสวมใส่หน้ากาก

16.สวนสัตว์ หรือสถานที่จัดแสดงสัตว์ จำกัดผู้ร่วมกิจกรรมที่เป็นการรวมกลุ่ม

และ 17. ในส่วนสถานศึกษาต่าง ๆ แม้ว่าขณะนี้ จะยังไม่อนุญาตให้เปิดทำการเรียนการสอน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการแพร่ระบาด เช่นที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษา กทม. ได้อนุญาตให้เปิด เพื่อให้คุณครู อาจารย์ สามารถประชุมเพื่อตัดเตรียมทำแผนการเรียนการสอนได้

อย่างไรก็ตาม โฆษกของกรุงเทพมหานคร ยังได้ขอความร่วมมือให้ประชาชน สวมใส่หน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้าอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงให้ความร่วมมือ แสกนคิวอาร์โค้ด”ไทยชนะ” ก่อนเข้าใช้บริการสถานประกอบการต่าง ๆ ทุกครั้ง