สหรัฐฯ เผชิญศึกหนัก "ประท้วง-โรคระบาด-เศรษฐกิจถดถอย" รับเดือนใหม่
การประท้วงในสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีที่เสียชีวิตขณะถูกตำรวจจับกุมที่นครมินนีแอโปลิส ยังคงลุกลามไปในหลายเมือง ท่ามกลางการระบาดของโคโรนาไวรัส รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจถดถอย คนตกงาน และความแตกแยกทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีนี้
ความตึงเครียดบริเวณทำเนียบขาวรุนแรงขึ้นในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและระเบิดควันในการสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่มีจำนวนกว่า 1,000 คน หลังจากที่กลุ่มผู้ประท้วงนำป้ายจราจรและสิ่งของต่าง ๆ มากองรวมกันเพื่อจุดไฟเผา ขณะที่มีรายงานว่า กองกำลังสำรอง หรือ เนชันแนลการ์ด ของกรุงวอชิงตัน ประมาณ 1,700 คนถูกเรียกตัวเข้าช่วยควบคุมสถานการณ์
ขณะเดียวกัน เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจในหลายเมือง รวมทั้งที่นครแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย ที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายผู้ชุมนุม และที่นครลอสแอนเจลีส รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ซึ่งตำรวจรับรถพุ่งใส่กลุ่มผู้ประท้วงทำให้มีผู้บาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม ผู้ประท้วงหลายพันคนต่างเดินขบวนอย่างสงบในหลายเมือง ทั้งเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ จอร์จ ฟลอยด์ และขอให้ยุติการปล้นร้านค้า การเผาและทำลายทรัพย์สิน โดยบอกว่าเป็นการทำลายความพยายามเรียกร้องความยุติธรรมและการปฏิรูปที่แท้จริง
- เปิดเบื้องหลังวาทะ ปธน. ทรัมป์ “เมื่อการปล้นเริ่มขึ้น การยิงตอบโต้ก็จะเริ่มขึ้น”
- ผู้เชี่ยวชาญหวั่น ประท้วงในสหรัฐฯ เสี่ยง COVID-19 ระบาดรอบสอง
- สื่อแฉ ทรัมป์ หนีผู้ประท้วงกรณี จอร์จ ฟลอยด์ ลงหลุมหลบภัย! หลังลุกฮือใกล้ทำเนียบขาว
- พี่ชาย “จอร์จ ฟลอยด์” เผย “ทรัมป์” โทรแสดงความเสียใจกับครอบครัวแบบ “ลวกๆ”
- กระแสการชุมนุมประท้วงกรณี จอร์จ ฟลอยด์ ลามไปหลายประเทศทั่วโลก