Sanook คลุกข่าวเช้า 3 มิ.ย. 63 ผลชันสูตร เตี้ย มช. ตายทรมาน-สั่งแก้ภาพ "สิตางศุ์ส้มหยุด" บนผนังโบสถ์

Sanook คลุกข่าวเช้า 3 มิ.ย. 63 ผลชันสูตร เตี้ย มช. ตายทรมาน-สั่งแก้ภาพ "สิตางศุ์ส้มหยุด" บนผนังโบสถ์

Sanook คลุกข่าวเช้า 3 มิ.ย. 63 ผลชันสูตร เตี้ย มช. ตายทรมาน-สั่งแก้ภาพ "สิตางศุ์ส้มหยุด" บนผนังโบสถ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Sanook คลุกข่าวเช้า ประจำวันที่ 3 มิถุนายน 2563 พบกันเป็นประจำทุกวัน ทีมงานได้เสิร์ฟข่าวที่น่าสนใจมาให้คุณถึงหน้าจอมือถือและเดสก์ท็อป เรียกว่าครบจบในเนื้อหาเดียวและที่สำคัญคุณสามารถเลือกกดปุ่มฟังเพื่อความสะดวกได้แล้ว โดยสังเกตได้จากสัญลักษณ์รูปลำโพง รับฟังพร้อมอ่านกันได้ทุกบรรทัดคุณจะไม่พลาดในทุกเหตุการณ์เด่นๆ เริ่มต้นด้วยข่าวเด่นนี้เลย

สำนักพุทธฯ สั่งแก้ภาพจิตรกรรม "สิตางศุ์ส้มหยุด" บนผนังโบสถ์ ชี้นิ้วบิดเบือนพุทธประวัติ

จากกรณีที่โลกโซเชียลได้มีการแห่แชร์ภาพวาด สิตางศุ์ บัวทอง เน็ตไอดอลเจ้าของตำนาน ส้มหยุด ถูกวาดอยู่ที่ผนังโบสถ์วัดหนองเต่า ต.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยมีท่าทางกำลังใช้มือชี้ไปที่ลูกส้มที่อยู่ตรงพื้น ซึ่งภาพดังกล่าวมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาเยอะมาก ทำให้สำนักพระพุทธศาสนาไม่อาจนิ่งนอนใจได้เข้าตรวจสอบทันที โดย นายธรรมนันท์ จุฑาธนทรัพย์ นักวิชาการศาสนาชำนาญการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุทัยธานี พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภาพจิตกรรมฝาผนังโบสถ์ดังกล่าว พบเป็นภาพขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 3.30 เมตร กลุ่มคนที่มารอรับเสด็จพระพุทธเจ้าตามพุทธประวัติ ซึ่งได้แอบซ่อนภาพของ สิตางศุ์ ขนาดเล็กๆ กว้าง 15 ซม. สูง 11 ซม. และมีผลส้มตามเรื่องเล่าส้มหยุดไว้แต่ยังวาดไม่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งภาพดังกล่าวสำนักพระพุทธเผยว่าอาจจะเป็นการบิดเบือนข้อมูล เพราะการเฝ้ารับเสด็จพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่ตั้งตารอคอย ภาพต้องมีความเหมาะมากกว่านี้ แต่ภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ไม่เงยหน้า กลับก้มหน้าและชี้ไปที่ผลส้ม ซึ่งได้ให้คำแนะนำกับทางศิลปินว่าให้ดูถึงความเหมาะสม ภาพจะเป็นภาพของสิตางศุ์ไม่ได้ผิดอะไร แต่ได้แนะนำให้แก้ภาพให้เป็นลักษณะยกมือไหว้จะเหมาะสมกว่า ซึ่งทางศิลปินได้แก้ไขภาพจากภาพก้มหน้าชี้ผลส้ม เป็นเงยหน้ายกมือพนมไหว้แทนแล้ว

ผลชันสูตรฉบับใหม่ชี้ชัด "เตี้ย มช." ตายทรมาน ขัดแย้งคำให้การผู้ต้องหา

วอชด็อกฯ เผยผลการชันสูตรฉบับใหม่เพิ่มเติมการตาย พี่เตี้ย มช. ชี้ชัดสิ้นใจอย่างทรมาน ขัดแย้งคำให้การผู้ต้องหา วานนี้ (2 มิ.ย.) เฟซบุ๊กแฟนเพจมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand  WDT โพสต์ข้อความ รายงานผลการชันสูตรฉบับใหม่เพิ่มเติม กรณีการตายของ เตี้ย มช. ของคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่าจากข้อสงสัยในผลชันสูตรที่ปรากฏต่อสาธารณะชนในครั้งแรกทำให้เกิดการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงไม่ว่าจะเป็นการลงพื้นที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนใหม่ รวมทั้งความพยายามขอให้เปิดเผยผลชันสูตรที่แท้จริง

ล่าสุด ปรากฏผลชันสูตรอีกฉบับออกมา โดยคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ซึ่งบ่งชี้ไปในทางตรงกันข้ามกับผลชันสูตรฉบับแรกที่มีแนวโน้มการตายไปในทางอุบัติเหตุ มูลนิธิวอชด็อก ระบุว่า ผลชันสูตรฉบับล่าสุด หากบอกกล่าวเป็นภาษาชาวบ้าน คือ พยาธิสภาพที่ทำให้พี่เตี้ยต้องตายคือกระโหลกที่แตกทั้งสองด้าน ด้านหนึ่งแตกร้าว อีกด้านหนึ่งแตกละเอียดเป็นชิ้นๆ ถึงขั้นที่บอกได้ว่า ณ ขณะนั้นต้องมีสมองไหล เพราะไม่มีแผ่นกระโหลกรองรับอีกต่อไป พิสูจน์ว่าพี่เตี้ยสิ้นใจตายอย่างทรมาน ทั้งนี้ ผลชันสูตรล่าสุดจะนำไปสู่รายงานผลชันสูตรและคำวินิจฉัยของสัตวแพทย์ ที่ตรงกันข้ามกับคำให้การของผู้ต้องหา เพื่อให้ตำรวจสืบหาความจริงต่อไป 

เด็กหญิงตั้งครรภ์ 2 เดือน หมอถามกลับบอก "องค์เทพเป็นคนทำ" เค้นสอบพ่อเลี้ยงสุดท้ายรับสารภาพ

เรื่องราวสะเทือนใจของสังคมและสร้างความเคลือบแคลงใจเป็นอย่างมากจากข่าวเด็กหญิงม.2 ตั้งท้องและได้บอกว่าองค์เทพเป็นคนทำ เหตุเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.สระทอง  อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งชาวบ้านคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนในครอบครัว คือพ่อเลี้ยงของเด็ก และเป็นเรื่องประหลาดที่ไม่มีใครไปแจ้งความเอาผิด โดยเฉพาะเด็ก ม.2 ที่ตั้งท้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่า "องค์เทพเป็นคนทำ"

จากการตรวจสอบพบว่าครอบครัวดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ มีรั้วรอบขอบชิด ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 คน มีสามี-ภรรยา ลูกสาวติดมากับภรรยา 2 คน ลูกใหม่กับภรรยา 3 คน ไม่ค่อยสุงสิงกับใครในหมู่บ้าน มีอาชีพค้าขาย ตื่นเช้ามาก็ออกไปขายของ ตอนเย็นกลับมาก็ปิดบ้านเงียบ และจากการสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว บอกว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ซึ่งขณะนี้ทางบ้านพักเด็กฯ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.หนองหงส์ แล้ว  และเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพได้สอบถามเด็กผู้เสียหายว่าใครเป็นคนทำ ซึ่งเด็กแจ้งเพียงว่า "องค์เทพเป็นคนทำ" สร้างความตะลึงให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก

ส่วนในทางคดีขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.หนองหงส์  ก็ได้เรียกพ่อเลี้ยงที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนกระทำชำเราลูกเลี้ยงมาสอบปากคำเบื้องต้นแล้ว ล่าสุด พ่อเลี้ยงสารภาพแล้ว ข่มขืนเด็กหญิง วัย 14 ปี จนท้องจริง แต่อ้างองค์เทพประทับร่าง ญาติรับไม่ได้รุมประณามแฉพี่สาวเด็กก็โดน เชื่อแม่รับรู้แต่ไม่ยอมแจ้งความอาจเพราะกลัวหรือปกป้องสามี เรียกร้องตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด   

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook