จราจรหึงโหด กระหน่ำยิงเมียสาวดับอนาถคาบ้านพักย่านลาดกระบัง
ตำรวจจราจร บางรัก หึงโหด กระหน่ำยิงใส่เมียสาวดับอนาถ หลังเมียสาวมาถึงบ้านช้า เกิดไม่พอใจรื้อค้นกระเป๋า-โทรศัพท์มือถือ ก่อนชักปืนยิงใส่
เหตุการณ์ตำรวจจราจร หึงเมียสาวกระหน่ำยิงใส่ตายคาบ้าน รายนี้ถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 0030 น.วันที่ 24 สิงหาคม ร.ต.ต.ธิติพงศ์ วงศ์หนูพะเนาว ร้อยเวรสน.จรเข้น้อย ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตที่รพ.จุฬารัตน์ 8 จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต น.ส.ทรรศนีย์ เรือนดี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 738 ถ.ฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. ถูกยิงเข้าที่ลำตัว 4 นัด แขนด้านขวาอีก 2 นัด เบื้องต้นพบว่า พบน.ส.ทรรศนีย์ถูกยิงในพื้นที่ สน.ฉลองกรุง บริเวณบันไดด้านหลังบ้านเลขที่ 738 ถ.ฉลองกรุง ซึ่งเป็นบ้านของนางประภา เรือนดี อายุ 56 ปี และนายชำนาญ เรือนดี อายุ 57 ปี บิดาและมารดาของผู้ตาย
สอบสวนน.ส.วิไลวรรณ เรือนดี อายุ 29 ปี น้องสาวของผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายรู้จักกับ ด.ต.พีรวุฒิ ใหม่อ่อง อายุ 36 ปี ผบ.หมู่จราจร สน.บางรัก มาประมาณ 10ปีก่อนที่จะแต่งงานกันเมื่อปี พ.ศ. 2551 โดยด.ต.พีรวุฒิ ได้ให้ผู้ตายลาออกจากงาน เนื่องจากเกิดความหึงหวงผู้ตาย กลัวว่าจะไปคบหากับผู้ชายคนอื่น
น.ส.วิไลวรรณ กล่าวอีกว่า เมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว ด.ต.พีรวุฒิ ได้เกิดการทะเลาะกับผู้ตาย และได้ยิงปืนใส่ที่ขาด้านขวาของผู้ตายมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นได้สัญญาว่าจะไม่ทำพฤติกรรมดังกล่าวอีกแล้ว จนกระทั่งวันนี้ก่อนเกิดเหตุ ด.ต.พีรวุฒิ ได้ขับรถยนต์ มาที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อรอผู้ตาย เมื่อผู้ตายมาถึงโดยขับรถยนต์เก๋งมาที่บ้าน ทันทีที่เจอหน้ากับผู้ตาย ด.ต.พีรวุฒิ ได้ถามผู้ตายว่า "ไปไหนมา" โดยผู้ตายได้บอกว่า "บอกไปแล้วก็คงไม่เชื่อ"
"จากนั้นด.ต.พีรวุฒิ ได้รื้อค้นกระเป๋าถือของผู้ตาย เจอเครื่องสำอาง และยังได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ ระหว่างนั้น ด.ต.พีรวุฒิ ได้หยิบปืน 9 มม.ที่พกมาด้วยยิงใส่ผู้ตายทันทีประมาณ 8 นัด ตอนเกิดเหตุแม่ได้เข้ามาแย่งปืน ถูกยิงใส่ที่มือแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนพ่อที่กำลังทำกับข้าวได้วิ่งเข้ามาห้าม ถูกยิงเฉี่ยวเข้าที่ท้อง หลังจากยิงแล้ว ด.ต.พีรวุฒิ ได้เดินกลับไปอย่างใจเย็น ขึ้นรถหลบหนีไป" น.ส.วิไลวรรณกล่าว
หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.สุรสิทธิ์ หวังดี สบ. 2 สน.ฉลองกรุง ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้นำตัวนางประภา มารดาของผู้ตายมาสอบปากคำ สำหรับนางประภายังอยู่ในอาการตกใจและเศร้าโศกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมีการประสานงานไปยังผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.พีรวุฒิ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป