รวบอดีต ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภราดรภาพ ลวงข้อมูลส่วนตัวไปใช้โอนเงิน กว่า 4 แสนบาท

รวบอดีต ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภราดรภาพ ลวงข้อมูลส่วนตัวไปใช้โอนเงิน กว่า 4 แสนบาท

รวบอดีต ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภราดรภาพ ลวงข้อมูลส่วนตัวไปใช้โอนเงิน กว่า 4 แสนบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 4 มิ.ย. ที่ บช.น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมคณะรอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.ห้วยขวาง แถลงผลการจับกุมแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัวของประชาชน ก่อนนำไปโอนเงินผ่านแอพพลิเคชั่น มีผู้เสียหายหลายราย มูลค่ารวมหลายแสนบาท โดยจับกุมนายอานนท์วัฒน์ วรเมธชยางกูร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภราดรภาพ อายุ 34 ปี ได้ที่บริเวณหน้าเรือนจำกลางจังหวัดสมุทรปราการ หมู่ 5 ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนายอานนท์วัฒน์กับพวก ได้ร่วมกันหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัวของประชาชนโดยการหลอกมอบรางวัลเป็นโทรศัพท์มือถือ โดยให้ผู้เสียหายเอาซิมโทรศัพท์ใส่ อ้างว่าเพื่อยืนยันการรับรางวัล จากนั้นแอบรับ SMS OTP ก่อนนำไปโอนเงินผ่านแอพลิเคชั่นต่าง ๆ

ด้าน นายกษิดิศ ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ตนพร้อมครอบครัวได้เข้าพักที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง จากนั้นมีโทรศัพท์โทรเข้ามาหา แต่ตนไม่ได้รับ จากนั้นก็มีสายโทรศัพท์โทรเข้าเครื่องมารดาของตนพร้อมขอสายผม โดยแจ้งว่าเป็นผู้โชคดีจากสุ่มจับรางวัลผู้เข้าพักในโรงแรม โดยได้รางวัลเป็นโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พร้อมแพคเกจที่พัก 3 วัน 2 คืน จากนั้นให้คนนำมามอบให้ที่บ้าน แต่มีการแจ้งว่าต้องใช้ซิมโทรศัพท์มือถือของตัวเองเปลี่ยนใส่เข้าเครื่องที่ได้รับรางวัลเป็นเวลา 2 ชั่วโมง เพื่อยืนยันสิทธิ จากนั้นไม่นานเงินในบัญชีส่วนตัวและเงินในบัญชีนิติบุคคลหายไปจากบัญชีเกือบ 4 แสนบาท จึงได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง

ด้าน พ.ต.อ.ภูริส กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่านายอานนท์วัฒน์ จบการศึกษาจากประเทศเยอรมัน มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ และจากการตรวจสอบประวัติพบนายอานนท์วัฒน์ มีคดีติดตัวอยู่ 9 คดี ส่วนใหญ่เป็นคดีฉ้อโกง เกี่ยวกับหลอกหลวงขายหน้ากากอนามัย นอกจากนี้ยังได้ออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 1 ราย เป็นผู้ร่วมขบวนการ อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนกรณีคนร้ายรู้ประวัติของผู้เสียหายและครอบครัว เชื่อว่าคนร้ายได้ข้อมูลจากคนใกล้ชิดของผู้เสียหาย คาดว่าน่าจะเป็นคนที่เคยทำงานในบริษัทของผู้เสียหาย พร้อมเตือนว่าหากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น หากโทรศัพท์มือถือไม่ใช่ของตัวเอง ขอให้มีการล้างข้อมูลในเครื่องก่อนใช้งาน เนื่องจาก อาจมีการฝังโปรแกรมดูดข้อมูล เพื่อสร้างความเสียหายไว้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook