#BlackLivesMatter จุดชนวน “เดอะ ร็อค” อัดคลิปถาม “ผู้นำที่มีเมตตาอยู่ที่ไหน”
นักแสดงกล้ามโต “ดเวนย์ จอห์สัน” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เดอะ ร็อค” โพสต์คลิปส่งถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนผิวดำทั่วประเทศ พร้อมหยุดการจับกุมและความรุนแรงที่กระทำโดยตำรวจ จากกรณีการจับกุม “จอร์จ ฟลอยด์” ด้วยวิธีการรุนแรงของตำรวจ จนส่งผลให้ฟลอยด์เสียชีวิต
“เดอะ ร็อค” แถลงผ่านคลิปวีดิโอบนโซเชียลมีเดีย เรียกร้องให้ทรัมป์หันมารับฟังเสียงของประชาชนชาวอเมริกัน โดยหลังจากที่กระแสการเคลื่อนไหว Black Lives Matter เริ่มมีพลังมากขึ้น ทรัมป์กลับข่มขู่ผู้ประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงโดยตำรวจ ว่าจะมีการใช้กองกำลังทหารเข้าปราบปรามการชุมนุมครั้งนี้
ในคลิปวีดิโอดังกล่าว จอห์นสันถามหาผู้นำประเทศที่มีความเห็นอกเห็นใจประชาชน ในห้วงเวลาที่หลายคนคุกเข่าขอร้อง เจ็บปวด โกรธ คับแค้นใจ เพียงเพื่อจะให้มีคนรับฟัง รวมทั้งเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง
“คุณอยู่ที่ไหน ผู้นำที่มีเมตตาของเรา ที่จะพาประเทศก้าวไปข้างหน้าอยู่ที่ไหน” จอห์นสันกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วมกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ โดยเขาสัญญาว่าจะทำทุกทาง เพื่อที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง ทำให้ความเท่าเทียมเป็นเรื่องปกติจนลมหายใจสุดท้ายของเขา เพราะ “ชีวิตคนดำก็สำคัญ”
“แม้ว่าทุกชีวิตจะสำคัญ แต่ในเวลานี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สถานการณ์กำลังลุกเป็นไฟ ประชาชนคุกเข่าขอร้อง เราจำเป็นต้องพูดว่าชีวิตคนดำนั้นสำคัญ ผู้นำของเราอยู่ที่ไหนกัน”
นอกจากนี้ นักแสดงและอดีตนักมวยปล้ำอาชีพผู้นี้ ยังกล่าวตำหนิเจ้าหน้าที่ที่ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม ซึ่งนอกเหนือจากกลุ่มอาชญากรและผู้ที่เข้าปล้นธุรกิจต่างๆ ยังมีกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ รวมอยู่ด้วย
“ผมไม่ใช่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่เป็นประชาชนคนหนึ่ง เป็นพ่อที่ห่วงใยครอบครัว ลูกๆ และโลกที่ลูกของผมจะอาศัยอยู่อย่างสุดหัวใจ ผมเป็นห่วงประเทศของเรา และคนทุกคนที่อยู่ที่นี่ ดังนั้น ผมเลยโมโห ผิดหวัง และโกรธมาก แต่ก็จะพยายามที่จะโฟกัสและทำใจให้สงบที่สุด เพื่อที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับครอบครัวและประเทศให้ดีที่สุด”
คลิปวีดิโอของจอห์นสัน เป็นอีกหนึ่งการแสดงออกของคนในวงการบันเทิงทั่วโลก หลังจากที่ “จอห์น โบเยกา” นักแสดงจากภาพยนตร์มหากาพย์ “Star Wars” ได้ประกาศจุดยืนเคียงข้างคนผิวดำ แม้จะต้องแลกด้วยหน้าที่การงาน รวมถึงคนบันเทิงอื่นๆ ที่ออกมาแสดงจุดยืนในปรากฏการณ์ครั้งนี้