เปิดจดหมายล่าสุด "ครูบาบุญชุ่ม" เขียนเตือนภัย 3 ประการ เป็นโรคตายกันเป็นล้าน

เปิดจดหมายล่าสุด "ครูบาบุญชุ่ม" เขียนเตือนภัย 3 ประการ เป็นโรคตายกันเป็นล้าน

เปิดจดหมายล่าสุด "ครูบาบุญชุ่ม" เขียนเตือนภัย 3 ประการ เป็นโรคตายกันเป็นล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดจดหมายครูบาบุญชุ่ม เตือนภัย 3 ประการ “กาบโหลงสามปา” ทำคนเป็นโรคตายเป็นล้านทั่วทุกประเทศ สอนให้สร้างสมคุณงามความดี มีสติ อย่าประมาท

เพจเฟซบุ๊ก พระครูสมุห์นทีเทพ จิรวฑฺฒโณ วัดหนองปึ๋ง จังหวัดเชียงใหม่ แชร์เรื่องราวจากเพจเฟซบุ๊ก นะโม โพธิสัตโต ญาณสํวโร โดยโพสต์ภาพจดหมายที่พระครูบาบุญชุ่มเขียนในถ้ำ เป็นภาษาไทใหญ่ และมาแปลเป็นภาษาไทย โดยระบุว่า

“ธรรมะจากถ้ำ 5 มิถุนายน 2563 จาก พระครูบาพ่อบุญชุ่ม ญาณสํวโร”

“ปีธรรม 2564 (ปีไทใหญ่)

ข้อธรรมะเมตตา พระครูบาพ่อบุญชุ่ม ขอเมตตาถึงลูกศิษย์ทั้งหลาย พร้อมด้วย พ่อแม่ญาติธรรมศรัทธาทั้งหลายทุกบ้านทุกเมือง ได้รับรู้ ได้เข้าใจ กันทุกๆคน

เราขอกราบไหว้ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ คุณทาน ศีล ภาวนา สมาธิ ในโลกธาตุทั้งหลาย ขออธิฐานให้มาปกปักรักษาลูกศิษย์ ลูกรักทั้งหลาย ให้อยู่ดีมีสุข โรคภัยทั้งหลายขออย่ามากล้ำกลาย ขอให้มีเงิน มีทอง มีศีล มีธรรม ให้ถึงพระนิพพาน ด้วยเทอญ

ขออวยพร ให้มี ทาน ศีล ภาวนา ที่ได้ถวายข้าวน้ำ อาหาร ดอกไม้ ผลไม้ กล้วย อ้อย ส้ม ฟาด หวาน เผ็ด ขม ทุกๆสิ่ง ที่ได้ร่วมบารมีกับ เรา พระครูบาพ่อศีลธรรมบุญชุ่ม ขอให้บุญทั้งหลายได้กลับไปปกปักรักษาลูกหลานทั้งหลาย ให้อยู่ดีมีสุข ให้เจริญรุ่งเรือง ให้มีความสุขทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยเทอญ

อ่อ กาสะ วันนี้เป็นวันดีเป็นมงคล เราพระครูบาพ่อบุญชุ่ม ขอเมตตาธรรมะถึง ศรัทธาลูกศิษย์ทั้งหลาย ให้ได้รับรู้เหมือนกันทุกๆ คนด้วยเทอญ

เราพระครูบาพ่อบุญบุญชุ่ม มีความสุขดี สุขภาพร่วงกายแข็งแรงดี ฉันท์อาหารเป็นปกติ ได้ปฏิบัติวิปัสสนาดีขึ้นเรื่อยๆ เห็นในสภาวะ รูป นาม ขันธ์ทั้งห้า ได้รู้ถึงอนิจจัง ได้รู้ถึงทุกขัง ได้รู้ถึงอนัตตา สุญญตา ความว่างเปล่า เป็นของสูญ คือความไม่มีตัวตน กินข้าวรอความตาย ดังนี้แล

เราพระครูบาพ่อ ได้ปฏิบัติ ทางสายกลาง มัชฌิมาปฏิปทา เอาสติตาม รูป นาม ขันธ์ทั้งห้า

อันว่าสังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ อัตตาไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ไม่เหมือนดังใจเรา ในสภาวะธรรม ดังนั้นแล

อันว่าสัตว์เกิดมาในโลกนี้ มีทุกข์เหมือนกันทั้งนั้น เป็นไปตามกุศล และ อกุศล ของใครของมัน

เราพระครูบาพ่อ มีสติ อยู่ทุกขณะ ไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนใจอันใด ไม่อยากได้อะไร ไว้ใจเป็นกลาง โลภะ โทสะ โมหะ มานะตัญหาอวิชา อุปทาน ก็ เบาบาง จางหาย เห็นถึง ขณิกมรณะ ขณิกนิพพาน เห็นในสภาวะธรรม ทั้งหลายเป็นธรรมะสอนใจ เราอยู่ทุกขณะลมหายใจเข้าออก

ธรรมะที่แท้จริง คือ ธรรมะสัจจะ ทุกสิ่งในโลกล้วนสอนใจเราทั้งสิ้น หากว่าปัญญาญาณ มีศรัทธา มีวิริยะ ปฏิบัติตาม สติปัฏฐานสี่ หากเราปฏิบัติตามคำสอนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะถึงซึ่งพระนิพพาน ดังนี้แล

อันว่าใจเกิดปิติในธรรมะ เป็นมงคลยิ่งแล้ว หากเราเห็น สัจจะธรรมะทั้งหลายใจเราก็ไม่มีความทุกข์อันใด ทุกๆ วัน ทุกๆ คือ ให้มีสติ มีธรรมะ เห็น รูป นาม ขันธ์ทั้งห้า น้อมใจเราให้เข้าถึงพระนิพานแล บุคคลใดเห็นธรรมะ บุคคลผู้นั้นก็เห็น พระพุทธเจ้า ธรรมะนี้เป็นคำสอนที่จะทำให้เราพ้นจากทุกข์ได้จริง หากเรามีศีลธรรม จะได้ถึงซึ่งพระนิพานในไม่ช้าแล บุคคลผู้ปฏิบัติตามคำสอน พระพุทธเจ้า ก็จะพ้นทุกข์ได้อย่างจริงแท้

เราพระครูบาพ่อ ไม่อยากเกิดอีกแล้วในโลก เพราะการเกิดก็เป็นทุกข์ แก่ก็เป็นทุกข์ เจ็บก็เป็น ตายก็เป็นทุกข์ ในโลกไม่อะไรสุขแท้แน่จริง เราเกิดมาเป็นแขกของโลกชั่วคราวเท่านั้น อีกไม่นานเราก็จะตายคืนสู่ธรรมชาติ จะได้หลับตาลาจาก บ้านเรือน พ่อแม่ พี่น้อง ลูกหลาน เมียผัว จะได้ทิ้งไว้แค่นั้น มีแต่ กุศล ทางดี อกุศลทางบาป จะติดตามเราไปชาติหน้า หากเรายังสร้างบารมีไม่พอที่จะนิพพาน จะต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร หาที่สุดมิได้

เราพระครูบาพ่อ ได้มาอธิษฐาน ภาวนาที่ในถ้ำเมืองแก๊ส นี้ สุขกายสุขใจดี ได้ภาวนา ได้พักผ่อนกายใจ อายุเราก็เฒ่าแก่แล้ว อีกปีกว่าอายุก็จะถึง 60 ปีแล้ว อายุจะยาวนั้นแค่ไหนไม่มีใครรู้ เอาบุญกุศลเป็นที่ตั้ง คนเราใกล้ถึงความตายมาทุกวันแล้ว วันเวลาไม่รอใคร เมื่อยังมีลมหายใจอยู่ให้รีบสร้างบารมีของใครของมัน

เราได้เห็นนิมิต หลายอย่าง มีเรื่องดีทั้งหมด ได้อยู่กับธรรมชาติในป่าไม้ และสัตว์ นก หนู กา ไก่ป่า นกยุง ลิง เห็น กระรอก ไหน่ เสือ มาอยู่พึ่งบารมีเรา ได้เลี้ยงเขาเหมือนดังลูกหลานเรา อยู่กับ นกหนูตามธรรมชาติ ทุกสิ่งเป็นธรรมะสอนใจทั้งสิ้น

อันว่าธรรมะต้นไม้ ดอกไม้ ดอกหญ้า ป่าไม้อันเขียวขจี น้ำ หิน ดิน ผา ถ้ำ มีค่ายิ่งแล้ว เป็นที่พักพิงสบายใจ มองดูทางไหนก็สบายใจที่สุด เสียงนกร้อนดังไปทั่วดอย เสียงไก่ป่าขัน และเสียงฟานป่า เสียงน้ำรินไหลใสเย็นเห็นเม็ดทราย อยู่ทุกวัน ได้เมตตาภาวนาอยู่ทุกเช้า ค่ำ สบายใจยิ่งนัก

อันว่าวันเวลาพ้นไปไวมาก เหมือนสายน้ำที่ไหลผ่าน อีกสองปีแล้ว จะเต็มสามปีแล้ว รูป นาม ก็แก่เฒ่าแล้ว เส้นผมก็ออกยาว ตาก็ฝ้าฟางแล้ว ฟันก็หลุด หนังก็เหี่ยวแห้งมาแล้ว เป็นสังขารธรรม อะไรก็ไม่เที่ยงแท้แน่นอน แต่ใจเมตตาเป็นที่สุด ในผีสางสัตว์คน สัพพะสัตว์ทั้งหลาย หาที่สุดมิได้ มีใจกว้างเมื่อดังท้องฟ้า อันนี้แล

ขออธิษฐานให้เป็นเจ้าเรือสำเภาทอง นำพาสัพพะสัตว์ทั้งหลายข้ามพ้น เกิด แก่ เจ็บ ตายในวัฏสงสาร ให้ถึง สัตติสุขพระนิพพาน ขอให้เป็นดังคำอธิฐานบารมี สมปรารถนา ด้วยเทอญ

นิพพานะปัจโยโหตุ

อันว่าวันเวลาข้ามล่วงพ้น ใกล้มาแล้ว มรณะความตาย อย่าให้วันเวลาล่วงเลยเปล่า ให้พากันรีบสร้างคุณงามความดี ไว้เยอะๆ ให้มีใจเมตตา นับถือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ให้เว้นจากบาปทั้งปวง ให้พากันสร้างคุณงามความดีมีกุศลไว้เยอะๆ ทำใจให้ขาวใสบริสุทธิ์ อย่าให้ โลภะ โทสะ โมหะ ตัญหา มานะอวิชา มาครอบงำใจเรา ให้พากันปฏิบัติ ทาน ศีล ภาวนา สมาธิ ปัญญา วิมุติ ให้ถึงซึ่ง พระนิพพาน ด้วยเทอญ

เราทั้งหลายมีบุญกุศลอย่างยิ่ง ที่ได้เกิดมาเป็นคนดี มีปัญญา สัมมาทิฏฐิ มีบุญกุศลที่สุดที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ให้ช่วยบำรุง พระพุทธศาสนา ให้พากันเคารพนับถือฟังคำสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้มีใจดี ใจเมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา สัพพะสัตว์ทั้งหลาย ให้มีแรงศรัทธา แรงวิริยะ แรงสติ แรงสมาธิใจนิม แรงปัญญา เสมอกัน ให้พากันขวนขวายธรรมะในตัวเรา หาทางพ้นทุกข์ มีสุขถึงพระนิพพานด้วยเทอญ

อันว่าในโลกนี้ มีแต่ทุกข์เท่านั้น ไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งอิง นอกจาก คำสอนพระพุทธเจ้า ให้พากันพิจารณาสัติปะฏฐานสี่ ให้มีสติรู้ตัวอยู่ตลอด อย่าประมาทในชีวิต คนที่ขาดสติก็เหมือนดังคนที่ตายแล้ว ในโลกนี้ที่จะพึ่งอิงได้เหมือนดัง พระรัตนตรัย แก้วสามประการนี้ ไม่มีอะไรอีกแล้ว

คุณแห่ง พระพุทธเจ้า นี้ยิ่งใหญ่กว่าท้องฟ้า มหาสมุทร ไม่มีอะไรมาเทียบได้อีกแล้ว

ในขณะนี้ ภัย 3 ประการ (กาบโหลงสามปา) เกิดขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่น่ากลัวยิ่ง เป็นโรคตายกัน เป็นล้านทั่วทุกประเทศในโลกนี้ เป็นทุกข์แก่คนทั้งหลาย น่าสงสารจริงๆ เราแผ่เมตตาภาวนา ให้ทุกๆ วันอธิษฐานให้หายจากโรคร้าย ในเร็ววันด้วยเทอญ ให้มีตั้งสติให้ดีกันทุกๆคนด้วย

ขอเมตตาแค่นี้ก่อน

พระครูบาพ่อบุญชุ่ม ญาณสํวโร

แปลโดย พระครูสมุห์นทีเทพ จิรวฑฺฒโณ วัดหนองปึ๋ง เชียงใหม่

อย่างไรก็ตาม ภัย 3 ประการ ได้แก่ ทุพภิกขภัย (ข้าวยากหมากแพง) อมนุษยภัย (ภัยจากพวกอมนุษย์) และพยาธิภัย (ภัยที่เกิดจากโรคระบาด) ตามความเชื่อในสมัยพุทธกาล เล่าขานว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระสูตร "รัตนสูตร" ขึ้นมาก็เพื่อโปรดชาวเมืองเวสาลีให้รอดพ้นจากภยันตรายทั้งหลวงทั้งปวงที่กำลังรุมเร้าและมีดวงตาเห็นธรรม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook