Sanook คลุกข่าวเช้า 8 มิ.ย. 63 ปู ไปรยา เจอวิจารณ์ยับ! ในฐานะทูต UNHCR

Sanook คลุกข่าวเช้า 8 มิ.ย. 63 ปู ไปรยา เจอวิจารณ์ยับ! ในฐานะทูต UNHCR

Sanook คลุกข่าวเช้า 8 มิ.ย. 63 ปู ไปรยา เจอวิจารณ์ยับ! ในฐานะทูต UNHCR
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อัปเดตข่าวสารยามเช้า ประจำวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563 ติดตามสถานการณ์ข่าวน่าสนใจที่เกิดขึ้นในรอบวันที่ผ่านมา ด้วยการอ่านหรือจะใช้บริการกดฟังเสียงอ่านข่าว หรือเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์ Sanook โดยสังเกตสัญลักษณ์รูปลำโพง แล้วให้ระบบ AI อ่านเนื้อหาให้ฟังได้อีกด้วยนะครับ

เริ่มกันด้วยการอัปเดตสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 กันก่อนเลย เพราะช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาในบ้านเรา เว็บไซต์ Worldometers ซึ่งอัปเดตสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ทั่วโลกแบบเรียลไทม์ รายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก ณ ขณะนี้อยู่ที่ 7,078,988 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 404,975 ราย

โดย 3 ประเทศแรก ยังคงเป็น สหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้มียอดผู้ป่วยสะสมคือ 2,007,058 ราย และเสียชีวิตรวม 112,466 ราย โดยมี บราซิล เป็นอันดับ 2 ด้วยตัวเลขผู้ป่วยสะสมรวม 690,309 ราย และเสียชีวิตรวม 36,411 ราย ขณะที่ รัสเซีย มียอดผู้ป่วยสะสม 467,673 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 5,859 ราย

ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 81 มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 3,112 คน เสียชีวิต 58 ราย

สืบเนื่องจากกรณีที่ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยที่พักอาศัยอยู่ประเทศกัมพูชา ถูกอุ้มหายตัวไปจากบริเวณหน้าคอนโดมิเนียม ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะเดินลงมาซื้อลูกชิ้นหน้าคอนโดฯ 

เมื่อวานนี้ ครอบครัวของ วันเฉลิม ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่นายวันเฉลิม หรือต้าร์ ได้ถูกลักพาตัว โดยการถูกบังคับให้สูญหาย (Enforced Disappearance) ในประเทศกัมพูชา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2563 เวลา 17.00 น. โดยประมาณ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างอุกอาจท่ามกลางประชาชนจํานวนมาก บริเวณหน้าที่พักของนายวันเฉลิม

ซึ่งหลังจากผ่านมากว่า 65 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีใครทราบชะตากรรมที่กำลังเกิดขึ้นกับนายวันเฉลิม

ครอบครัวนายวันเฉลิมจึงขอเรียกร้องให้องค์กรภาครัฐของไทย และองค์กรนานาชาติใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดําเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน เพื่อทําให้ความจริงปรากฏ เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และทําให้สังคมไทยตกอยู่ในความหวาดกลัว หวาดระแวง สิ้นหวัง เนื่องจากเหตุการณ์เช่นนี้อาจจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวที่เรารักก็ได้

พร้อมกับชี้แจงอีกด้วยว่า เหตุที่นายวันเฉลิมจําต้องลี้ภัยทางการเมืองอย่างไม่เป็นทางการไปสู่ประเทศกัมพูชา และประเทศอื่นๆ เป็น ระยะเวลามากกว่า 6 ปีนั้น เพราะเขาแสดงจุดยืนทางการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร การปกครองภายใต้ทหาร และการยึดอํานาจ ทําให้เขาต้องถูกไล่ล่าและกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรมด้วยการออกหมายจับ และ ยกเลิกหนังสือเดินทาง รวมถึงการคุกคามอื่นๆ

ก่อนจะปิดท้ายว่ายังหวังและปรารถนาให้นายวันเฉลิมยังคงปลอดภัย และกลับมาโดยสวัสดิภาพ

กลายเป็นดรามาที่ต่อเนื่องจากประเด็นที่นายวันเฉลิมถูกอุ้มหายตัวไป เมื่อชาวเน็ตจำนวนมากพากันเข้าไปคอมเมนต์และวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง ทูตสันถวไมตรีสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ของ ปู-ไปรยา ลุนด์เบิร์ก

หลังจากดารานักแสดงสาวโพสต์แสดงความเสียใจที่ช่วยเหลือกรณีอุ้มหายวันเฉลิมไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องการเมือง แนะนำติดต่อ UNHCR โดยตรง

ซึ่งปู ไปรยา โพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวที่มีข้อความว่า "I am aware of the incident and personally, I am sorry for what happened. The situation is highly sensitive and complicated. Should there be more inquiries, please send email to support.th@unhcr.org" พร้อมระบุข้อความใต้ภาพว่า "ปูเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากค่ะ"

ทำให้ผู้ติดตามหลายคนมาคอมเมนต์ตำหนิเธอในฐานะทูตสันถวไมตรี UNHCR ที่รณรงค์เกี่ยวกับเรื่องผู้ลี้ภัยโดยตรง แต่กลับไม่เคลื่อนไหวกรณีการอุ้มหายของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมชาวไทยในประเทศกัมพูชา ซึ่งเธอตอบกลับว่า '"I'm sorry. I genuinely am"

ปิดท้ายกันด้วยเรื่องวุ่นๆ เกี่ยวกับกรณีการใช้เฮลิคอปเตอร์ของนายตำรวจไปยังวัดแห่งหนึ่ง จนถูกวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมอย่างมาก

เมื่อวานนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีตามที่เพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้านโพสต์ข้อความในลักษณะที่ว่า เฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โผล่แก้บนประทัด 3 ล้านนัด วัดไอ้ไข่ โดยมีผู้มาแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ กันอย่างแพร่หลายในเพจดังกล่าว ว่า พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นการตรวจราชการดังกล่าว โดยให้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ภายใน 7 วัน

พร้อมกับมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.กฤษศักดิ์ สูงมูลนาค ผบก.ทท.3 ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.บช.ทท. โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม และให้ พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบช.ทท. รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผบก.ทท.3 ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 63 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริง เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตลอดจนเร่งคลี่คลายข้อสงสัยและให้ความกระจ่างแก่สังคม

สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่วันพรุ่งนี้ครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook