นักวิจัยชี้ สหรัฐฯ กำลังเผชิญหน้ากับ “วัฒนธรรมเน่าเฟะ”

การเสียชีวิตของ “จอร์จ ฟลอยด์” ชาวผิวดำในเมืองมินนิอาโปลิส สหรัฐอเมริกา เนื่องจากการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จุดประกายการชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนผิวดำไปทั่วสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตาม วิดีโอที่แสดงให้เห็นพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกส่งต่ออย่างแพร่หลายบนโลกอินเตอร์เน็ต ก็ทำให้การติดตามการประท้วงเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะผู้ติดตามข่าวจะไม่มีทางรู้บริบท สถานการณ์ หรือช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์จริงได้เลย

ด้วยเหตุนี้ นักวิจัยกลุ่มหนึ่งจึงได้จัดตั้งโครงการรวบรวมวิดีโอที่อ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมประท้วงให้ได้มากที่สุด เพื่อตรวจสอบความจริงและรวบรวมไว้ในกูเกิล ชีท ซึ่งมีมากกว่า 300 วิดีโอ รวมถึงวิดีโอที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมประท้วง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน

T.Greg Doucette อัยการจากเมืองนอร์ทแคโรไลนา และเป็นหนึ่งในนักวิจัยของโครงการดังกล่าว เล่าว่า เขาได้ติดตามกรณีการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหลายปี และจัดทำรายการทางพอดแคสต์ ชื่อว่า Fsck ‘Em All ที่เล่าประเด็นกรณีการใช้ความรุนแรงของตำรวจ ขณะเดียวกันก็แบ่งปันเรื่องราวลักษณะนี้ในโซเชียลมีเดียของเขามาเกือบ 15 ปี ซึ่งโครงการเก็บรวบรวมวิดีโอพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มขึ้น หลังจากที่เขาโพสต์รายชื่อวิดีโอในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมบนเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ หลังจากนั้น ก็มีคนส่งวิดีโอมาให้เขาอีกมากมาย

Doucette คาดหวังว่าโครงการนี้ จะแสดงให้คนได้เห็นว่า พฤติกรรมการใช้ความรุนแรงของตำรวจไม่ใช่ปัญหาของปัจเจกบุคคล แต่เป็นปัญหาที่กระจายอยู่ในกรมตำรวจทั่วสหรัฐอเมริกา

“คุณไม่สามารถกำจัดแอปเปิ้ลเน่ากว่า 350 ผลจากทั่วประเทศได้ภายใน 1 สัปดาห์หรอก มันแสดงให้เห็นวัฒนธรรมที่เน่าเฟะ ที่ดำรงอยู่ภายในองค์กรตำรวจในสหรัฐอเมริกา” เขากล่าว อย่างไรก็ตาม Doucette ก็หวังว่าจะได้เห็นการปฏิรูปองค์กรตำรวจเกิดขึ้นอย่างแท้จริง

“สิ่งที่โรงเรียนสอนก็คือ อำนาจทั้งหมดมาจากประชาชน ประชาชนเป็นผู้เลือกผู้แทนของพวกเขา ผู้แทนว่าจ้างข้าราชการ และข้าราชการก็ว่าจ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจ แปลว่าตำรวจคืออำนาจที่อยู่ใต้สุด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้กลับตรงกันข้าม ตำรวจประกาศสงครามกับประชาชนในประเทศ ขณะที่นักการเมืองก็เอาแต่นั่งเฉย ไม่ยอมทำอะไรเลยสักอย่าง”