คดีพลิก! แม่ค้าหอยเปิดปาก โอนเงินให้ตำรวจเพราะเป็นแฟนเก่า ไม่ใช่ค่าปรับฝ่าเคอร์ฟิว

 

แม่ค้าหอยสารภาพคืนนั้นตำรวจไม่ได้ตั้งด่านเคอร์ฟิว โอนเงินให้ตำรวจเพราะเป็นแฟนเก่า ใช้หนี้สมัยคบกัน 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากกรณีที่กระแสโซเซี่ยลเผยแพร่ข่าวของ แม่ค้าขายอาหารทะเลสดรายหนึ่ง ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนจากกรณีที่โดนตำรวจจับกุม ขณะกลับมาจากรับ หอยและ ปู ปลาทู ในพื้นที่จังหวัดตรัง และเดินทางกลับบ้านที่พัทลุง ในช่วงเคอร์ฟิว โดยเหตุเกิดพื้นที่ อ.เมืองพัทลุง เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. คืนวันที่ 2 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่กลุ่มตำรวจได้นำส่ง สภ.เมืองพัทลุงแล้ว ก็ได้ถูก ตร.ชุดจับกุมบอกให้ผู้เสียหายไปเคลียร์การถูกจับกุม กับนายตำรวจระดับสารวัตรนายหนึ่ง

หลังจากที่พูดคุยกันก็ถูกนายตำรวจรายนี้ก็ได้เรียกเงิน 80,000 บาท ต่อมา ตร.ได้ลดเหลือแค่ เหลือ 40,000 บาท และสุดท้ายลดลงเหลือแค่ 10,000 บาท โดยผู้เสียหายได้ขอยืมจากญาติของสามี มาได้ 5,700 บาท ซึ่งทาง ตำรวจชุดจับกุมได้ให้ผู้เสียหายโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม แต่ทำไม่ได้เพราะผู้เสียหายไม่มีบัตรเอทีเอ็ม จึงได้โอนเงินทางโทรศัพท์ โดยผ่านบัญชีดาบตำรวจชุดจับกุมรายหนึ่ง

• แม่ค้าอาหารทะเลปิดบ้านหนี หลังแฉตำรวจไถเงิน แลกการปล่อยตัวข้อหาฝืนเคอร์ฟิว

ต่อมา พ.ต.ท.สมชาย ช่วยบำรุง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทลุง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว พร้อมได้มีคำสั่งย้ายให้ 3 ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาว 3 นาย เข้ามาปฏิบัติราชการที่ กก.ภ.จว.พัทลุง โดยให้ขาดจากหน้าที่และตำแหน่งเดิม พร้อมมีคำสั่งให้สารวัตรคนดังกล่าวปฏิบัติราชการประจำศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เนื่องจากไม่กวดขัน กำกับดูแล สอดส่องความประพฤติ และพฤติกรรมของตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชา 

ผู้สื่อข่าวรายงานจังหวัดพัทลุงล่าสุด (8 มิ.ย.63) เมื่อเวลาประมาณ 16.45 น. ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทลุง พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้เข้ามาสอบปากคำ น.ส.สา (นามสมมุติ) แม่ค้าหอยผู้อื้อฉาวในข่าวดังกล่าว โดยในเบื้องต้น น.ส.สา (นามสมมุติ) ได้กล่าวยืนยันกับ พล.ต.ต.กฤษฎา ว่า ในคืนวันเกิดเหตุนั้นไม่มีการตั้งจุดตรวจแต่อย่างใด เงินจำนวน 5,700 บาท ที่ตนโอนให้กับ ด.ต.ไชยา ผบ.หมู่ (สืบสวน) สภ.เมืองพัทลุง 1 ใน 3 ตำรวจที่โดนย้ายในครั้งนี้ เป็นเงินค่าหนี้สินที่ตนยืมจาก ด.ต.ไชยา เพื่อนำไปเสียค่าปรับต่อศาลจังหวัดพัทลุง ในช่วงที่ตนกับ ด.ต.ไชยา เป็นแฟนเก่า สมัยที่ตนยังไม่แต่งงานกับสามีคนปัจจุบัน โดยปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับสื่อมวลชน

ทางด้าน พล.ต.ต.กฤษฎา เผยว่า ทางด้าน ผบช.ภ.9 และ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตนเร่งคลี่คลายในคดีดังกล่าวด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม เพื่อให้เป็นธรรมกันทั้ง 2 ฝ่าย หลังจากที่ น.ส.สา (นามสมมุติ) ได้ออกมาปฏิเสธว่ามิได้ถูกเรียกเงิน หรือถูกจับกุมมารีดเงินและปล่อยตัวไปในเวลาต่อมานั้น หลังจากจากนี้ตนก็จะตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึกกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย พร้อมทั้งจะสอบปากคำตำรวจผู้เกี่ยวข้องในคดีอื้อฉาวทั้ง 4 รายด้วยตนเองอีกด้วย  เรื่องดังกล่าวนี้จะได้ข้อยุติที่แน่นอนในเร็วๆ นี้ ตนขอยืนยันอีกว่าจะไม่เข้าข้างผู้กระทำความผิดคนใดคนหนึ่งโดยเด็ดขาด