สาวท้องอ่อนเปิดใจทั้งน้ำตา ใจสลายขับรถฝ่าฝนตามหาสามีที่คอนโดเมียน้อย

จากกรณีกระแสดราม่าในโซเชียล สาวอุ้มท้องอ่อน 3 เดือน โดนสามีกระทืบที่ลานจอดรถ โดยเธอได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิดลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ทำให้ชาวโซเชียลต่างแชร์กันไปอย่างแพร่หลาย และวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของผู้ชายคนดังกล่าวกันอย่างมาก

• สาวสุดช้ำ! โพสต์แฉวีรกรรมผัว จับได้มีเมียน้อย-ถูกทำร้ายทั้งที่ยังท้อง

ล่าสุด วันนี้ (9 มิ.ย. 63) ทีมข่าวอีจันได้สอบถามกับ น.ส.อรณี หรือบี วัย 24 ปี สาวอุ้มท้องอ่อน 3 เดือนรายดังกล่าว โดยเธอเล่าเรื่องราวชีวิตให้ทีมข่าวอีจันฟังด้วยด้วยแววตาที่ดูเข้มแข็งแต่แฝงไปด้วยน้ำตา

โดยเธอเปิดใจกับจันว่า ชีวิตที่ไม่เคยรักผู้ชายมาก่อน เป็นหญิงรักหญิงมาตลอด ช่วงจังหวะชีวิตที่มีปัญหากับสาวทอมแฟนเก่า เคยตบตีกันอย่างรุนแรงจนต้องเลิกรากันไป และด้วยรับปากกับทางบ้านไว้ว่า “หากเลิกกับสาวทอมแล้ว จะสร้างครอบครัวมีลูกหลานให้” จนมาพบเจอกับชายคนนี้ คิดว่าเลือกถูกแล้ว ที่จะสร้างครอบครัวร่วมกันได้ 2 ปี จนมีลูกในท้องได้ 3 เดือน แต่ไม่นานท่าทีของสามีกลับดูเปลี่ยนไป

จนกระทั่งเมื่อช่วงดึกของวันที่ 7 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา เธอต้องอุ้มลูกในท้องเข้าไปตามสามี หวังจะให้เห็นกับตาว่าเขาไปอยู่กับใคร ที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป โดยวันนั้น เขาได้พาเธอกับลูกไปส่งที่บ้านพี่สาว แล้วเขาก็บอกให้เธออยู่บ้านพี่สาว เขาจะเอารถไปจูนเครื่องที่อู่แต่งรถยนต์

แต่ด้วยที่มีความระแคะระคายใจ ที่พฤติกรรมของสามีนั้นเปลี่ยนไป จึงยืมรถของน้องขับไปดูที่อู่ ซึ่งก็เป็นดังคาด สามีไม่ได้อยู่ที่อู่ จากนั้นเธอจึงขับรถตามหาเพียงลำพัง ทั้งที่ขณะนั้นมีฝนตกหนัก พร้อมทั้งไม่รู้ด้วยว่าสามีอยู่ที่ใด ขับรถไปเอามือลูบท้อง คุยกับลูกในครรภ์ไป ขอให้ลูกดลใจให้พบเจอตัวสามี

ต่อมาสักพักเธอนึกขึ้นได้ว่า มีในคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กของสามีพูดถึงคอนโดแห่งหนึ่งในตำบลมาบยางพร เธอจึงขับรถไปก็พบรถยนต์ของสามีจอดอยู่ที่ลานจอดรถจริง ในตอนนั้นหัวใจแทบตกลงไปอยู่ที่พื้น รู้สึกโมโหแบบสุดขีด มือไม้สั่นน้ำตาคลอ

ในใจคิดจะเข้าไปเคาะประตูทุกห้องแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นพื้นที่ที่ส่วนบุคคล เธอจึงไปยืนรออยู่ที่หน้ารถของสามี สักพักสามีคงมองเห็นว่าเธอมาตามกลับบ้าน สามีจึงเดินลงมาหา วินาทีนั้นมันเหมือนหัวใจแทบแตกสลาย และมีปากเสียงกัน ก่อนจะทะเลาะกันรุนแรงจนเป็นเหตุการณ์ดังคลิปที่ปรากฏ

หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น น.ส.บี เปิดใจอีกว่า เจ็บตัวยังไม่เท่าเจ็บในหัวใจ กับความชอกช้ำที่คิดว่า ตัดสินใจเลือกดีแล้ว จนมีลูกในท้องได้ 3 เดือน เขาก็แปรเปลี่ยนไป ทั้งที่มีภาระหนี้สินที่ช่วยกันสร้างมาด้วยกัน แต่เขาจะขอหย่าไปมีรักใหม่มันช่างดูโหดร้ายกับเธอจริงๆ

โดยเบื้องต้น เธอได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.จันทร์ติ วรรณูปถัมภ์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง ว่าถูกสามีทำร้ายร่างกาย เพื่อขอให้สามีของเธอออกมารับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น จึงได้ให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลปลวกแดง ก่อนจะเรียกตัวสามีมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป