"อู๊ด เป็นต่อ" เดินหน้าเปิดร้านชาบู สู้กับวิกฤตโควิด-19 ไม่ท้อแม้สูญเงินนับล้าน

"อู๊ด เป็นต่อ" เดินหน้าเปิดร้านชาบู สู้กับวิกฤตโควิด-19 ไม่ท้อแม้สูญเงินนับล้าน

"อู๊ด เป็นต่อ" เดินหน้าเปิดร้านชาบู สู้กับวิกฤตโควิด-19 ไม่ท้อแม้สูญเงินนับล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าพูดถึงนักแสดงสายฮาที่มีวลีฮิตติดปากว่า พี่น้องครับ ต้องคิดถึง อู๊ด เป็นต่อ ซึ่งหลังๆ จะเห็นเจ้าตัวรับงานน้อยลง แต่ที่เพิ่มขึ้นก็คือ ชาบูอู๊ดเป็นต่อ ที่มีแทบทุกที่ในประเทศไทย เป็นที่กล่าวขานไปทุกภาค รายการต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 เลยต้องพามาคุยถึงความขยัน และพลังในการต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19 ที่ถึงแม้จะสูญเงินนับล้านบาทกับร้านชาบูที่ตัวเองต้องสู้เพราะห่วงพนักงานที่ร้าน

อู๊ด : "ใช่ เราห่วงเพราะพนักงานเราเยอะ พนักงานแต่ละสาขาเขาก็เยอะ หนึ่งสาขาเนี่ยต่ำๆก็น่าจะมี 10 คน แล้วเขาฝากความหวังไว้กับเราแล้ว เราก็ต้องเข้าใจกันภายในตรงนั้นว่า ยูต้องสู้นะ ยูต้องช่วยตัวเองให้มากที่สุดก่อน แล้วไอจะช่วยยูเหมือนกัน เงินเดือนตอนที่ยังไม่ได้ทำงานกันเนี่ยเอาไปครึ่งนึงก่อนไหม?"

คือเป็นแฟรนไชส์นั่นเอง มี 50 สาขา เจอโควิดเข้าไปมึนไหม?

อู๊ด : "หูย...อย่าว่าแต่มึน ทั้งมันทั้งเมาเลย เพราะโควิดเนี่ยมันหยุดทุกอย่างจริงๆนะ หนึ่งเลยคือสั่งร้านอาหารปิดทุกร้านแบบฟ้าฝ่าเลย สายฟ้าแล่บ พวกเราไม่ได้ตั้งหลักกันเลย คือเงินตอนนั้นอะไม่ต้องไปคิดเลยว่าใครจะจ่าย ตกงานกันเพียบ ร้านอาหารขายไม่ได้ เราจะไปเก็บเขายังไง เราก็ต้องมีความเห็นอกเห็นใจกัน มีความเข้าใจกัน ผมก็ไม่มี คุณก็ไม่มี ผมก็เลยคิดว่า เราพักก่อนเราหยุดก่อนท้อเลย ปิดดีไหมวะ เพราะว่ามันเป็นแล้วมันตายเลยในข่าวใช่ไหม"

คิดถึงขนาดจะปิดร้านเลยหรอ ปิดก่อนหรือว่าจะเลิกเลย

อู๊ด : "ปิด ไม่ต้องขายกันเลย เพราะว่าเขาระบุว่าร้านชาบูให้นั่งคนเดียว คือตอนนั้นมันคิดอะไรไม่ออก เครียดปิดดีไหมวะ นอนคิดทุกวัน จุดประสงค์ของเราที่ทำร้านชาบู คือ หนึ่ง ทำกิจกรรมกับครอบครัว พ่อแม่ลูกปู่ย่าตายาย เด็กๆมาคีบตะเกียบ เพื่อนฝูงมาเสวนากันอะไรงี้ เราก็ไม่ต้องเน้นดื่ม เราเน้นกินชาบูแล้วก็ได้คุยกัน แล้วอีกอย่างสั่งทีเดียวมากินพร้อมกันเลย หลังจากที่เราคิดไปคิดมาแล้ว ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน เราก็เลยต้องเปิดต้องสู้ แล้วก็ทำตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข จะต้องวัดไข้ ล้างเจล มีระยะ แต่ก็ต้องนั่งโต๊ะละคน" 

แล้วชาบูมาได้ยังไง น้ำจิ้มมันต้องเด็ดมากเลยนะ ไปเอาสูตรมาจากไหน?

อู๊ด : "ตอนนั้นคนเขาทำชาบูกันเยอะมาก เมื่อประมาณ2-3ปีมาแล้วไม่รู้อะไรมากมายไปหมด ชาบูสไตล์เกาหลี ฮ่องกง จีน อะไรก็ว่ากันไป แต่เราเป็นชาบูสายเลือดไทยเลย ชาบูสายเลือดไทยที่ผมอยากจะให้เป็นตัวตนของผมก็คือการใช้เครื่องไทย ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนูอะไรพวกนี้  ผมมีน้ำซุป 6 น้ำซุปให้คนเลือก"

ยังมีลูกค้ากลับเข้ามาทานไหมคะ?

อู๊ด : "ถามคนที่เขานั่งกินคนเดียวเขาบอกว่าเหงานะ บางร้านเขาก็ใจดีนะเขาบอกนั่ง 2 คนได้แต่คนละมุมนะ นั่งห่างกันเป็นกิโลเลย ผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการป้องกันหรือว่าการแพร่กระจายเชื้อมันก็มีโอกาสน้อย แต่มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีสำหรับธุรกิจร้านอาหาร ผมไม่ได้แค่ว่า เราแค่โดนตัวเองนะ คนที่ทำธุรกิจแบบนี้ตายสนิท"

พี่อู๊ดได้ทำเป็นเดลิเวอรี่ยัง?

อู๊ด : "ทำฮะ เราก็เลยปรึกษากับการตลาด ทีมงานก็มาคุยกันเลยวันนั้น ยังไม่ต้องปิดดีกว่า เราทำเป็นเดลิเวอรี่ก่อน แต่ก่อนนี้บางสาขาถึงจะมี แต่ตอนนี้เราก็บังคับว่าคุณต้องทำแบบนี้นะถึงจะอยู่ได้ เราก็ปรับตามกระบวนการเดลิเวอรี่ ส่งให้เร็วที่สุด แล้วก็ให้เพียงพอต่อความต้องการของคน จริงๆแล้วอนาคตผมจะใช้แบบหม้อใครหม้อมันด้วย แต่เป็นหม้อเล็กๆ จานรวมก็เหมือนเดิม" 

นอกจากจะเป็นหัวเรือใหญ่ดูแลพนักงานในร้านชาบูต้องสู้กับสถานการณ์และอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่นี้แล้ว อู๊ด เป็นต่อ หัวใจยังหล่อไปถึงบ้านเกิดของตัวเอง เมื่อเจ้าตัวขอเป็นจิตอาสาช่วยภัยแล้งไปขุดน้ำบาดาลขึ้นมาให้ประชาชนที่เดือดร้อน แต่ไม่วายงานเข้าโดนกระแสดราม่าว่าสร้างภาพขึ้นมาในการทำความดีครั้งนี้ 

อู๊ด : "มันมาพูดเข้าหูแถวบ้านชาวบ้าน ซึ่งผมบอกแล้วว่าผมทำมา 10 ปีแล้ว ไม่ได้พึ่งทำ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องคิดมาก ดั่งเดิมเลยผมไปอยู่ที่ต่างจังหวัด ที่เพชรบูรณ์เนี่ยมา 10 กว่าปีแล้ว และผมก็ทำมาตลอด อะไรที่ช่วยเหลือสังคมได้ อะไรที่เราพอหยิบยื่นมีน้ำใจกันแบ่งปันให้กันได้เนี่ยผมทำมาตลอด 10 ปี ตอนแรกเลยผมจะทำน้ำดื่ม อยากมีน้ำดื่มเป็นของตัวเอง รู้สึกว่ามันได้กินน้ำของตัวเองแล้วมันเท่ เหมือนคนรวย มีน้ำขายอะไรงี้ เราก็เลยไปขุดบ่อน้ำบาดาล ขุดลึกลงไปประมาณ 100 เมตร มันมีตาน้ำซึ่งน้ำบาดาลทั่วไปเนี่ยมันจะสักประมาณ 20-30 เมตรเนี่ย มันก็จะเจอน้ำแล้ว เอาไว้โยกน้ำบาดาลกันแล้ว ถ้าน้ำดื่มมันต้องลึกไปเขาเรียกว่าลำธารใต้พิภพ แล้วเราก็ใช้ในการรดน้ำต้นไม้นิดๆหน่อยๆ เพราะไม่มีโอกาสได้ทำน้ำดื่ม ผมขุดไว้ประมาณ 3-4 ปีก็ไม่ได้ใช้น้ำเท่าไหร่ ตอนนี้เจอภาวะภัยแล้งช่วงโควิดนี่แหละ เราก็นอนอยู่บ้านไม่ได้ไปไหนมาไหน ทุกคนก็ช่วยกันแจกอาหารแจกข้าว แจกนู้นแจกนี่แจกนั่น เป็นการแบ่งปัน เหมือนเราดูหนังสงครามแล้วเราฮึกเหิมอยากรบช่วยชาติอะไรแบบนี้ เห็นเขาแจกกันของก็ เฮ้ย อยากไปแจกมั่ง แต่ว่าโควิดทำยังไงดีเลยเอาน้ำไปแจกให้กับทุกคนได้ใช้ เอาไข่ไก่ไปแจกให้ทุกคนได้ทาน ผมไม่ได้มาหาเสียง บางคนมาบอกทำดีเอาหน้าเหรอ ทำแล้วมาโพส ก็ผมอยากทำให้เป็นตัวอย่างกับคนอื่นๆ ไง"

อู๊ด : "เสียใจเหมือนกันฮะ คิดว่าอยากได้หน้าเหรอ หน้าเดียวก็ขี้เกียจล้างแล้วคืออย่าไปคิดว่าเป็นหน้าที่คุณ หน้าที่ผมเลย ต้องช่วยกัน ผมรู้ว่าภาครัฐเนี่ยเวลาที่ชาวบ้านเขาขอความช่วยเหลือมันผ่านกระบวนการหลายอย่าง อย่างผมน่ะคือเราสามารถช่วยได้เลยไง ใครช่วยได้ก็ช่วยกันก่อน ผมอยากให้รู้ว่าเราเริ่มจากบ้านเราก่อน เราช่วยบ้านเราก่อน ช่วยตัวเองก่อนเลย พอช่วยตัวเองได้ค่อยช่วยคนข้างๆ บ้านเรามันมีน้ำใช้เหลือเฟือมันไม่ได้ต้องซื้อ ค่าน้ำมันก็ถูก ที่เหลือมีแต่ใจอย่างเดียวที่พวกผมในกลุ่มของลูกหลานหรือว่าชาบูอู๊ดเป็นต่อเนี่ยที่เขาอยากทำจริงๆ อยากเสียสละมีแต่เด็กๆทั้งนั้นเลยที่ไปแจกน้ำแจกอะไร นี่เราทำจากใจเราไม่ได้หวังอะไรแต่เราหวังว่าเราจะได้บุญ ถ้าสมมุติว่าชาติหน้ามีจริงผมสบายเพราะว่าอธิษฐานตลอดขอให้หล่อและรวยมาก แต่ถ้าชาติหน้าไม่มีจริงเราก็เสมอตัวไป"

เล่ามาแค่นี้ก็ปลื้มในน้ำใจที่นักแสดงอารมณ์ดี มีให้กับทุกคนแบบไร้ข้อสงสัยค้างคาในใจแล้ว ไปฟังเรื่องราวดีๆของ อู๊ด เป็นต่อ ได้แบบเต็มๆ ในรายการ ต้มยำอมรินทร์ 

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ "อู๊ด เป็นต่อ" เดินหน้าเปิดร้านชาบู สู้กับวิกฤตโควิด-19 ไม่ท้อแม้สูญเงินนับล้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook