หลานชายตามหาลุง ก่อนเจอศพเน่าอยู่ในโอ่งน้ำ เร่งส่งศพพิสูจน์หาสาเหตุ

หลานชายตามหาลุง ก่อนเจอศพเน่าอยู่ในโอ่งน้ำ เร่งส่งศพพิสูจน์หาสาเหตุ

หลานชายตามหาลุง ก่อนเจอศพเน่าอยู่ในโอ่งน้ำ เร่งส่งศพพิสูจน์หาสาเหตุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา17.45น.วันที่ 9 มิถุนายน2563 พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง สว.สอบสวนสภ.คลองหลวง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุอยู่ภายในโอ่งขนาดใหญ่ ที่เกิดพื้นที่ป่ารกร้างริมคันนา ติดกับเหตุถนนเลียบกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 ฝั่งตะวันตก ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง ร.ต.อ.ณพัทธ์พล ศรีพลอย รองสว.สส.สภ.คลองหลวง กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แพทย์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

ที่เกิดเหตุเป็นป่ารกร้างต้องเข้ามาจากถนนเลียบกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 มาอีกประมาณ 200เมตร ภายในโอ่งน้ำขนาดใหญ่พบผู้เสียชีวิต 1 รายอยู่ภายใน ทราบชื่อ นายอดุลย์ อายุ 45 ปี ซึ่งมีอาชีพเผาถ่านขาย เสียชีวิตในลักษณะนอนขดตัวอยู่ภายใน ส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ โดยภายในพบมีผ้าห่ม 1 ผืน ขวดน้ำอัดลมพลาสติก 2 ใบ ถังน้ำมันขนาด 20 ลิตรจำนวน 1 ใบ และมีน้ำซึมอยู่ที่ก้นโอ่ง ห่างกันเล็กน้อยพบเพลิงไหม้หลังคาทำจากพลาสติก 1 หลัง และยังพบพลาสติกม้วนใหญ่วางอยู่ 1 ม้วน จากการชันสูตรของแพทย์เบื้องต้น พบว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชม. ไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย

นายนครินทร์ อายุ 17 ปี หลานชายผู้ตายให้การว่า ผู้ตายมีศักดิ์เป็นลุงตนเอง มีอาชีพเผาถ่านขาย โดยปกติจะอยู่กับตนเอง 2 คน โดยลุงชอบเข้าไปนอนภายในโอ่ง เพราะเพิงพักที่ทำไว้พักแรม ไม่สามารถกันฝนและยุงได้ และเวลาลุงดื่มสุรา ก็ชอบลงไปนอนในโอ่ง ใช้ม้วนพลาสติกขนาดใหญ่ปิดด้านบน เพื่อไม่ให้ฝนสาดและไม่ให้ยุงเข้า ส่วนตนเองจะนอนที่เปลด้านนอก

ซึ่งตนเจอลุงครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ออกพักที่บ้านเพื่อนมาสองวัน จนบ่ายวันนี้ เวลาประมาณ 13.00 น. กลับมาที่บ้านไม่พบลุง จึงเดินหา ก็พบว่าที่ปากโอ่งมีแมลงวันตอม จึงชะโงกหน้าลงไปมอง ก็พบว่าลุงเสียชีวิตแล้ว

ทางด้าน พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ได้ให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำหลานชายอย่างละเอียด พร้อมทั้งสอบพยานแวดล้อมและให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook