มาร์ค อ้างได้กลิ่นความวุ่นวาย30ส.ค. เสื้อแดงปักหลักยืดเยื้อซ้ำรอยสงกรานต์เลือด!

นายกฯอ้างได้กลิ่นเจตนาก่อความวุ่นวาย 30 ส.ค. เสื้อแดงชุมนุมใหญ่ปักหลักยืดเยื้อ ห่วงเหมือนจลาจลสงกรานต์"เม.ย." ชง"กม.มั่นคง" เข้าครม.วันนี้ คุมม็อบ-ประชุมผู้นำอาเซียนหัวหิน "สันติบาล"ยอมรับน่ากลัว ทหารเตรียมพร้อม 21 กองร้อยช่วย ตร. "ประยุทธ์"การันตีไม่มีปฏิวัติ

ใช้กม.มั่นคงประชุมผู้นำอาเซียน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เตรียมประกาศใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2550 ในการประชุมผู้อาเซียนครั้งที่ 15 หลังจากเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการประชุมผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 15 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม นายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ ฯลฯ เข้าร่วมประชุม ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 สิงหาคม

นายอภิสิทธิ์กล่าวภายหลังว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 ตุลาคม ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยจะประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯในช่วงประชุมด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศไทยในการจัดการประชุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แน่นอนว่าถ้าฝ่ายที่อยากให้เกิดความวุ่นวายต้องการให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ซึ่งต้องถามกลับไปว่าคนที่คิดอย่างนี้ต้องการอะไร เพราะคนที่สูญเสียมากที่สุดคือประชาชน ถ้าประเทศเสียภาพลักษณ์ และไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ทำไม่ได้

"มาร์ค" รับมือ30ส.ค.ชี้มีกลุ่มป่วน

ผู้สื่อข่าวรายงาน นายอภิสิทธิ์ยังได้ใช้เวลาภายหลังการประชุมคณะกรรมการหารือกับนายสุเทพ และ พล.อ.ประวิตร ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ หลังพูดคุยกันได้ 5 นาที พล.อ.ประวิตรขอตัวกลับก่อนเพื่อนำผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าอวยพร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ก่อนจะครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ 89 ในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ โดยนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพยังหารือกันต่อประมาณ 30 นาที

นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังอีกว่า หารือถึงเรื่องการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในวันที่ 30 สิงหาคม เพราะทราบว่ามีบางกลุ่มเจตนาให้เกิดความวุ่นวาย จึงต้องระมัดระวังเต็มที่ หากมีเหตุการณ์วุ่นวายสิ่งสำคัญที่สุดคือจะกระทบต่อกระบวนการแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ และสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน จึงหารือกับนายสุเทพและ พล.อ.ประวิตรให้เตรียมแผนการรับมือการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยต้องมีประสิทธิภาพและมีความรัดกุม ซึ่งทั้ง 2 คน จะไปดูเรื่องรูปแบบและวิธีการที่จะดำเนินการต่อไป

เล็งกม.มั่นคง"กทม.-ปริมณฑล"

เมื่อถามว่า รัฐบาลจะประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ ในวันที่ 30 สิงหาคมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง ก็ต้องดูจากข้อเท็จจริงและการข่าวที่จะรายงานเข้ามา ส่วนจะประกาศก่อนถึงวันที่ 30 สิงหาคมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องผ่าน ครม.(คณะรัฐมนตรี) อยู่แล้ว โดยในวันที่ 25 สิงหาคม จะนำเรื่องไปหารือในที่ประชุม ครม. ส่วนจะประกาศใช้เฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ หรือปริมณฑลด้วย ยังไม่ทราบ ตามขั้นตอนของกฎหมายคือ 1.ต้องเลือกสถานที่ประกาศ 2.มีการมอบหมายอำนาจให้ใครเป็นผู้บัญชาสถานการณ์ และ 3.เป็นการใช้อำนาจว่าจะห้ามทำอะไรบ้าง

"ทั้งนี้ มั่นใจว่าการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯจะไม่มีผลต่อความเข้าใจของต่างประเทศ เพราะรัฐบาลเคยประกาศกฎหมายดังกล่าวในการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ จ.ภูเก็ต มาแล้ว ก็ถือเป็นการทำความเข้าใจกับต่างประเทศไปในตัวอยู่แล้วว่ากฎหมายฉบับนี้มีไว้เพื่อใช้ป้องกัน ไม่ได้หมายความว่ามีเหตุร้ายแรง แต่เป็นเครื่องมือป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวก็อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ กฎหมาย และการเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน ดังนั้น ต่างประเทศรับได้อยู่แล้ว"

ชี้มุ่งยืดเยื้อ-ห่วงเหมือนเม.ย.

เมื่อถามว่า จะให้ทหารเข้ามาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงจะมีการดำเนินการ กำลังให้นายสุเทพ และ พล.อ.ประวิตรดูว่าอยากทำในรูปแบบใด ส่วนการจัดวางกำลังดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายในทำเนียบรัฐบาลนั้น ไม่ขอพูดในรายละเอียด แต่ได้ซักซ้อมกันว่าเป้าหมายคือต้องไม่มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย เพราะต้องการให้การบริหารงานต่างๆ เป็นไปได้อย่างปกติ เมื่อถามว่า ได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่ไม่ให้มีการปิดล้อมทำเนียบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คนที่จะเข้ามาทำงานในทำเนียบต้องทำงานได้ตามปกติ ซึ่งไม่ได้เตรียมสถานที่ทำงานสำรองไว้แต่อย่างใด

เมื่อถามว่า มีการประเมินหรือไม่ว่ากลุ่มเสื้อแดงจะชุมนุมยืดเยื้อเพียงใด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็มีเจตนาของบางกลุ่มที่อยากให้เป็นการชุมนุมแบบยืดเยื้อ ซึ่งการชุมนุมยืดเยื้อหลายวันไม่มีปัญหา ถ้าไม่ได้เป็นอย่างเดือนเมษายนที่นำไปสู่ความวุ่นวายในเมือง และไปกระทบกับประชาชน

เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับเดือนเมษายน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็พยายามอย่างเต็มที่ เส้นแบ่งมันมีอยู่ การมาชุมนุมเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่เมื่อมาชุมนุมใช้สิทธิแล้วเกิดลุกลามบานปลาย รัฐบาลก็ต้องเข้าไปแก้ไข แต่ความจริงกระบวนการตามกฎหมายมีหลายอย่างที่ต้องดู เพราะหลายคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ยังมีคดีอยู่ ที่ได้รับการประกันตัวออกมาก็มีเงื่อนไขชัดเจนว่าต้องไม่มาก่อความวุ่นวายอีก เช่นเดียวกับการชุมนุมปิดล้อมทำเนียบ ที่ศาลเคยได้วินิจฉัยออกมาแล้วว่าจะมาขัดขวางการเข้ามาทำงานของข้าราชการไม่ได้

ยกครม.อวยพร"ป๋าเปรม"25ส.ค.

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานหรือไม่ว่านอกจากการชุมนุมที่ทำเนียบแล้ว กลุ่มคนเสื้อแดงจะไปชุมนุมบริเวณอื่นอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กำลังติดตามอยู่ เพราะแม้แต่ในความคิดของกลุ่มคนเสื้อแดงเองก็ยังไม่ลงตัว เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะตั้งโต๊ะเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าคุยแล้วจะมีความหมายอะไร เพราะขนาดสิ่งที่คนเสื้อแดงประกาศออกมาเอง เช่น เมื่อถวายฎีกาแล้วก็จะยุติการชุมนุม ก็ยังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เหมือนอย่างที่ตนได้ย้ำมาตั้งแต่ต้นว่าบางคนบางกลุ่มมีเป้าหมายแอบแฝงชัดเจน และพยายามเดินไปจุดนั้นซึ่งเสียหายต่อบ้านเมืองมาก แต่มั่นใจว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย
ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดแต่งดำในวันที่ 26 สิงหาคม วันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.เปรม จนหลายฝ่ายเกรงว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อจากวันดังกล่าวนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้ยินเช่นนั้น ทั้งนี้ จะนำ ครม.เข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิด พล.อ.เปรม ในเวลา 14.00 น. ของวันที่ 25 สิงหาคม
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นัดคนเสื้อแดงวิดีโอลิงก์ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัดดงมูลเหล็กย่านพระราม 7 และจะไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายอภิสิทธิ์หันมาตอบชัดเจนว่า "ผมชอบกินข้าวครับ"

เมิน"พท."ให้ทบทวนกม.มั่นคง

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวระหว่างพบกับคณะผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูงของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงข้อเสนอของนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งเป็นผู้เข้ารับการอบรมที่ต้องการให้รัฐบาลทบทวนการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯต่อกรณีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง วันที่ 30 สิงหาคม โดยนายพร้อมพงศ์ระบุหลังประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวกลับมีการแทรกซ้อนของมือที่ 3

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คราวที่แล้ว (เหตุการณ์สงกรานต์เลือด) เป็นการใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นคนละประเด็น เพราะ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯเป็นกฎหมายที่ประกาศใช้เมื่อปี 2551 โดยสภานิติบัญญติแห่งชาติ (สนช.) ตราขึ้นมา ถือว่าเป็นเครื่องมือก่อนที่จะไปถึง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะการใช้ พ.ร.ก.นั้นเมื่อเกิดเหตุแล้วจำเป็นต้องอาศัยอำนาจพิเศษ และการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขอให้ไปทบทวนดูว่าไม่ใช่ว่าก่อนประกาศใช้ไม่มีเหตุ เพราะมีการปิดถนนใน กทม. ตรงนี้ทำให้กฎหมายบ้านเมืองเดินต่อไปได้ แต่ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯไม่ได้ให้อำนาจรัฐบาลแบบเดียวกับ พ.ร.ก. มันเป็นเพียงการเข้าไปบริหารจัดการเพื่อให้เกิดการบูรณาการของเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปปฏิบัติงานเหมือนครั้งการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและคู่เจรจาที่ จ.ภูเก็ต เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ชี้เป็นความชอบธรรมของรัฐบาล

"หากประเมินว่าวันที่ 30 สิงหาคมนี้ จะมีปัญหาก็เป็นความชอบธรรมของรัฐบาลที่จะประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ และผมอยากถามกลับไปว่าวันนี้ที่เคลื่อนไหวกันอยู่และบางฝ่ายบอกว่าต้องการให้วุ่นวายนั้น เพื่ออะไร เพื่อใคร การทำงานในตอนนี้เราต้องการความเชื่อมั่นกลับคืนสู่ประเทศ เวลาที่เกิดเหตุวุ่นวายอาจคิดเพียงว่าเป็นการดิสเครดิตรัฐบาล ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ เพราะมันเป็นการดิสเครดิตประเทศ และผมก็ต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อชี้แจงกันอีกเท่าใด สำนักข่าวต่างประเทศเสนอข่าวว่าเศรษฐกิจไทยนั้นเหลือเรื่องเดียวคือการเมืองจะนิ่งหรือไม่เพราะมาตรการต่างๆ เป็นที่เข้าใจหมดแล้ว" นายอภิสิทธิ์กล่าว

"สุเทพ" ยันกระทบปท.น้อยที่สุด

ขณะที่นายสุเทพกล่าวว่า เชื่อว่าประชาชนคนไทยคงไม่อยากเห็นภาพความวุ่นวาย ที่มีคนมาก่อเหตุจลาจลต่างๆ ใน กทม. ซึ่งเป็นการซ้ำเติมภาพพจน์ของประเทศ ทำให้นักลงทุนนักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่น ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ต้องตัดสินใจที่จะวางแนวทางในการป้องกัน ไม่ให้เกิดปัญหา เช่น อาจจะประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินขึ้นใน กทม. แต่ต้องแจ้ง ครม.ก่อนว่ามีความจำเป็น เพราะต้องรักษาความความสงบเรียบร้อย และหารือกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (ส.ม.ช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว

เมื่อถามว่ามีการประเมินว่าจะเกิดความรุนแรงถึงต้องใช้กฎหมายใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ประเมินท่าทีของกลุ่มเสื้อแดงที่ได้ประกาศออกมา มีทีท่าที่จะทำอะไรบางอย่างซึ่งสันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจจะทำอะไรที่นำไปสู่ความยุ่งยากในบ้านเมือง เมื่อถามว่า มีการรายงานว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงจะเกิดเหตุรุนแรงใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า พูดไปเดี๋ยวจะกลายเป็นการกล่าวหา เอาเป็นว่าไม่ประมาท แต่ยืนยันว่าจะทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศ ในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯให้น้อยที่สุด

ทหารเตรียม21กองร้อยช่วยตร.

พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) กล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. สั่งการทุกอย่างไว้หมดแล้ว โดยมาตรการทางทหารจะใช้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ส่วนจะใช้ทหารออกมาช่วยตำรวจ 21 กองร้อยเหมือนเดิมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ทั้งนี้เป็นห่วงสถานการณ์เหมือนกันหากเกิดเหตุอะไรที่ไม่เรียบร้อย แต่คิดว่าคงไม่มีอะไรที่รุนแรง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก กล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์มอบหมายให้ พล.อ.จิรเดช และตนช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยระหว่างปฏิบัติภารกิจไปประชุมผู้บัญชาการทหารบกภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกที่ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงสนับสนุนตำรวจหากเกิดความรุนแรง เมื่อถามว่าหากม็อบเคลื่อนมาที่หน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตอนนี้มีกำลังตำรวจอยู่แล้ว คงห้ามคนเสื้อแดงไม่ได้ แต่ดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรงเท่านั้น

"ประยุทธ์"ยันไม่มีการปฏิวัติ

"อยากให้ทุกฝ่ายลดทิฐิ และหันหน้ามาพูดคุยกัน ทั้งนี้การดูแลความสงบเรียบร้อยจะใช้แผนรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตกรุงเทพมหานคร ทำงานร่วมกันระหว่างทหารและตำรวจตามปกติ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปฏิวัติรัฐประหารเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมือง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีปฏิวัติ ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะสถานการณ์ไม่ถึงขนาดนั้น ทั้งนี้การแก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองไม่จำเป็นจะต้องแก้ไขปัญหาด้วยการทำปฏิวัติ แต่การแก้ไขจะต้องใช้กลไกของบ้านเมืองมากกว่า การทำปฏิวัติรัฐประหารไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร

"สันติบาล" ชี้"26ส.ค."ไม่รุนแรง

ด้าน พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) กล่าวว่า จากประเมินชุมนุมวันที่ 30 สิงหาคม ยังไม่แน่ใจผู้ชุมนุมจะเอาจริงมากแค่ไหน รอดูการชุมนุมวันที่ 26 สิงหาคม ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงถูกสังคมประณามคงต้องกลับไปคิดว่าควรทำต่อไปหรือไม่ เพราะสังคมอาจตำหนิได้ว่าเล่นไม่เลิกกับผู้หลักผู้ใหญ่ แต่หากผลออกมาเป็นบวกอาจจะได้ใจทำให้การชุมนุมวันที่ 30 สิงหาคมยืดเยื้อ

"ประเมินวันที่ 26 สิงหาคมคงมีจำนวนไม่มากนักหลักพัน เป็นการมาแสดงสัญลักษณ์แล้วกลับ ไม่น่าจะใช้ความรุนแรง เพราะมีบทเรียนเหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายน ถ้าทำอีกก็จะเป็นแง่ลบ" ผบช.ส.กล่าว

ห่วง30ส.ค.น่ากลัวมากกว่า

เมื่อถามว่า นายสุเทพบอกได้ข่าวไม่ดีจนอาจเสนอใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ พล.ต.ท.ธีระเดชกล่าวว่า ต้องตรวจสอบดูก่อนว่าความหมายของท่าน ข่าวไม่ดีคือความรุนแรงหรือว่าการจะใช้การพูดเสียดสีตำหนิติเตียน และเห็นวันที่ 26 สิงหาคมไม่น่าจะมีอะไร แต่วันที่ 30 สิงหาคมน่ากลัวกว่า เพราะถ้ายืดเยื้อคงจะมีปัญหากัน เพราะรัฐบาลคงอยากจะไม่ให้เป็นปัญหายืดเยื้ออยากจะเคลียร์ ซึ่งถ้าเคลียร์ก็ไม่รู้ว่าจะกระทบกระทั่งกันหรือไม่

"คำว่าน่ากลัวของสันติบาลคือไม่อยากให้มีความรุนแรงไม่อยากให้เกิดความร้าวฉานมากๆ เพราะจะสมานฉันท์กันไม่ได้สักที ส่วนในต่างจังหวัดยังไม่ชัดเจน เท่าที่ทราบแต่ละจังหวัดก็มีการจัดกิจกรรมทั้ง 26 และ 30 สิงหาคมแต่ดูเหมือนยังไม่มีเหตุจะปะทะกันเท่าที่ควร" ผบช.ส.ระบุ

ด้านนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ยังไม่เห็นถึงขนาดต้องใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ คิดว่าชุมนุมธรรมดา ไม่น่าเกิดเหตุการณ์อะไร ควรจะใช้ต่อเมื่อเกิดสถานการณ์แล้ว ประกาศใช้ตอนนี้จะกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศ ทำให้ต่างประเทศตื่นตกใจ ตอนนี้ภาพพจน์ประเทศเริ่มฟื้นตัวดีแล้ว ขณะนี้ทุกฝ่ายก็รอให้การเมืองนิ่ง ควรใช้กฎหมายปกติไปก่อน เว้นแต่มีการเคลื่อนกำลังหรือบุกรุกจนตำรวจคุมไม่อยู่