บุกบ้านเกิด "การ์ตูน" สาวอ้างเป็นพยาบาลหลอกแต่งตำรวจ ลุงบอกหลานจบแค่ ม.3

บุกบ้านเกิด "การ์ตูน" สาวอ้างเป็นพยาบาลหลอกแต่งตำรวจ ลุงบอกหลานจบแค่ ม.3

บุกบ้านเกิด "การ์ตูน" สาวอ้างเป็นพยาบาลหลอกแต่งตำรวจ ลุงบอกหลานจบแค่ ม.3
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรณีที่โซเชียลออกมาแฉหญิงสาว ชื่อว่า “การ์ตูน” ว่าเธอเป็นพยาบาลปลอม หลอกผู้ชายแต่งงานนั้น

ล่าสุด วานนี้ (9 มิ.ย.63) ที่บ้านหนองตะไก้ ตำบลมะค่า อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ลุงของการ์ตูน อายุ 51 ปี เปิดใจกับผู้สื่อข่าวอีจันว่า หลานสาวคนนี้จบชั้น ม.3 และไม่เคยรู้มาก่อนว่า หลานสาวเรียนจบพยาบาลมา เธอออกจากบ้านไปหางานทำหลายปีแล้ว ทางบ้านก็ไม่รู้ว่าเธอไปทำงานที่ไหน ข้อมูลล่าสุดที่รู้ คือ เธอทำงานเป็นสาวเชียร์เบียร์ต่างจังหวัด และต่อมาได้แต่งงานกับทหารคนหนึ่ง รู้เพียงข่าวเท่านั้น แต่ไม่ได้ไปร่วมงานด้วย

ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นข่าวในโลกโซเชียล ว่าหลานสาวไปหลอกเอาเงินตำรวจหรือทหาร ตนก็ไม่เคยทราบมาก่อน และอยากฝากถึง การ์ตูน ว่า อยากให้ออกมาพูดความจริง และให้ความกระจ่างกับสังคม เพราะทุกคนยังพร้อมที่จะให้อภัยเสมอ

เพื่อนบ้านการ์ตูนเพื่อนบ้านการ์ตูน

ด้าน เพื่อนบ้านของน้องการ์ตูน เล่าว่า เห็นน้องการ์ตูนมาตั้งแต่เด็ก เป็นคนนิสัยสนุกสนานร่าเริง พอโตเป็นสาวก็ไปทำงานที่ต่างจังหวัด หลังจากนั้นก็ไม่เคยพบเห็นอีกเลยมานานกว่า 5 ปีแล้ว ส่วนประเด็นที่อ้างตัวว่าเป็นพยาบาลนั้น ตนก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยเห็นใส่ชุดพยาบาลกลับมาที่บ้านเกิดแต่อย่างใด ตนอยากให้น้องการ์ตูนออกมาพูดความจริง ทุกคนพร้อมที่จะให้อภัยสำหรับคนที่สำนึกผิด

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า จากการตรวจสอบกระทำในลักษณะดังกล่าว เบื้องต้น อาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน “แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการ” มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ “ห้ามผู้ซึ่งไม่ได้ประกอบวิชาชีพพยาบาล หรือมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ หรือมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ กระทำการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์ หรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิ์ประกอบอาชีพดังกล่าว โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในส่วนของประเด็นที่มีการหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งเพื่อทรัพย์สินของผู้ถูกหลอก อันเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงนั้น ในเบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ในเรื่องดังกล่าว โดยหากมีผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำในลักษณะดังกล่าว สามารถร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่เกิดเหตุหรือใกล้บ้านเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลเบาะแสหรือได้รับความเดือดร้อนเสียหาย สามารถโทรได้ที่หมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook