ลูกแจ้งความแม่หาย สุดท้ายพ่อสารภาพฆ่าทิ้งบ่อฟาร์มไก่ แต่ขุดแล้วกลับไม่เจอศพ

เจ้าของฟาร์มไก่ราชบุรีหายตัว สุดท้ายสามีสารภาพพลั้งมือฆ่าทิ้งในบ่อ ปมหึงหวง-ปัญหาเรื่องเงิน แต่ขุดบ่อแล้วไม่เจอศพ

(11 มิ.ย.63) จากกรณีนายดนัย ชนินทร์ประเสริฐ อายุ 37 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ สภ.ด่านทับตะโก ให้ช่วยติดตามนางสุกัญญา ชนินทร์ประเสริฐ อายุ 66 ปี  เจ้าของฟาร์มไก่สุกัญญา ผู้เป็นมารดาได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังรบแจ้งจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกติดตามหาตัว โดยมาตรวจสอบภายในบ้านก็ไปพบมีคราบเลือดอยู่ภายในห้องนอน แต่ไม่พบตัว

จากการสอบถามนายสนั่น ชนินทร์ประเสริฐ อายุ 83 ปี สามีของผู้ตายก็ไม่ทราบว่าเป็นคราบเลือดอะไร เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บคราบเลือดไปตรวจดีเอ็นเอ ทั้งนี้นายสนั่นนั้นได้ซื้อที่นอนมาใหม่ จึงเชื่อว่าอาจจะรู้เห็นการหายตัวไปของภรรยา 

เมื่อสำรวจรอบบ้านพบพวงกุญแจบ้านตกอยู่ที่พื้น ใกล้เคียงพบกองไม้แห้งและมีร่องรอยการเผาเป็นวงกว้าง ห่างกันเล็กน้อยมีกองดินลักษณะเป็นดินขุดใหม่ เจ้าหน้าที่จึงได้ขุดออกพบเป็นบ่อบาดาลเก่าขนาดความกว้าง 1 เมตร สูง 40 ซม. จำนวน 13 ลอง ซึ่งมีความลึกประมาณ 8 เมตร มีฝาปิดมิดชิด จึงได้ยกฝาออกและใช้เชือกโรยตัวลงไป ด้านล่างพบมีดินใหม่กลบปิดไว้ เมื่อขุดนำขึ้นมาลักษณะเป็นใยมะพร้าวเหมือนที่นอนถูกเผา กรอบแว่นตา ซองยาของนางสุกัญญาอยู่ภายในบ่อ จึงคาดว่าด้านล่างน่าจะมีศพถูกฝังอยู่ จึงได้ใช้เชือกกันเขตบริเวณไว้และทำการขุดศพ

นายสนั่นจึงให้การรับสารภาพว่าได้เป็นผู้ลงมือฆ่านางสุกัญญา ชนินทร์ประเสริฐ ผู้เป็นภรรยาก่อนจะนำศพไปทิ้งในบ่อบาดาล และนำที่นอนซึ่งมีคราบเลือดจากการทำร้ายนางสุกัญญามาเผาในจุดใกล้กับบ่อบาดาล หลังจากทะเลาะกันอย่างรุนแรง

(10 มิ.ย. 63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิประชานุกูล ราชบุรี ได้พยายามค้นหาร่างของ นางสุกัญญา ภายในบ่อซีเมนต์ข้างเล้าไก่ภายในฟาร์มไก่สุกัญญา ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ เริ่มเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชานุกูล ราชบุรี ได้จัดชุดปฏิบัติการ (ROPE RESCUE) กู้ภัยระบบเชือก และชุดปฏิบัติการในที่อับอากาศ ได้ทำการโรยตัวลงในบ่อเจาะน้ำบาดาล ลึกประมาณ 10 - 12 เมตร ซึ่งเป็นจุดต้องสงสับในหลายจุด

จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.30 น. ทีมปฏิบัติการกู้ภัยระบบเชือกมูลนิธิประชานุกูล ราชบุรี ได้ทำการโรยตัวลงค้นหาภายในก้นบ่อ ที่มีความลึกอยู่ที่ประมาณ 12 เมตร ได้พบสิ่งผิดปกติ จึงได้ขึ้นมารายงาน ให้ทางตำรวจทราบ จึงมีคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ใช้เครื่องมือหนัก ทำการขุดหาจุดต้องสงสัยจุดดังกล่าวซึ่งเป็นลักษณะรองก่อตั้งมาเป็นบ่อน้ำ และได้เริ่มขุดในเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถแบ็คโฮขุดเปิดบริเวณหน้าดิน และขุดลึกไปจนถึงสุดก้นบ่อ ที่เป็นดินดาน ในความลึกที่ 12 เมตร และขุดถึงลงไปอีก 1 เมตร โดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงเศษ

หลังจากที่ชุดถึงก้นบ่อ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงไปตรวจสอบภายในก้นบ่อที่ขุดลงไปแต่กลับไม่พบชิ้นส่วนของมนุษย์ หรือ ชิ้นส่วนศพของผู้สูญหายแต่อย่างใด

เวลา 19.30 น. จึงมีคำสั่งจากพล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภจว.ราชบุรี ให้ยุติการค้นหา ซึ่งหาตามจุดที่นายสนั่น ชนินทร์ประเสริฐ สามีของผู้สูญหาย คือภรรยาของตัวเอง ที่ให้การรับสารภาพไว้ก่อนหน้าและชี้จุดว่าได้นำศพมาทิ้งยังไว้แต่กการค้นหาไม่พบชิ้นส่วนมนุษย์ พบแต่กุญแจ และวัตถุส่วนที่ถูกเผาทำราย โดยกองพิสูจน์ได้เก็บหลักฐานดังกล่าวส่งไปพิสูจน์หลักฐาน หาดีเอ็นเอของนางสุกัญญาผู้สูญหายต่อไป และจะเริ่มปฏิบัติการค้นหาอีกครั้งในวันนี้

ส่วนการสอบปากคำของนายสนั่น ชนินทร์ประเสริฐ สามีของนางสุกัญญา โดยข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า นายสนั่นให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้พลั้งมือฆ่านางสุกัญญาภรรยาของตนเองจริง เนื่องจากเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง ปมการหึงหวง เพราะนางสุกัญญาย้ายไปอยู่กับลูกที่จังหวัดสมุทรสาคร และจะกลับมาหาตนเองบางครั้งเพราะต้องมาดูไก่ในฟาร์มซึ่งเป็นชุดสุดท้ายที่เลี้ยง และเกิดจากการที่ตนเองคับแค้นใจว่าได้เงินใช้เพียง 1,000 – 2,000 บาท จากการที่ขายที่ได้ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. นางสุกัญญากลับมาที่บ้าน นายสนั่นเกิดมีปากเสียงกันและได้พลั้งมือทำให้นางสุกัญญาเสียชีวิต และภายในห้องนอนยังพบคราบเลือด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงได้เก็บเพื่อไปตรวจกาดีเอ็นเอเพื่อเทียบกับนางสุกัญญา

หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวยนายสนั่น สามีของนางสุกัญญาผู้สูญหายอย่างละเอียดอีกรั้ง เพราะยังคงให้การวกไปวนมา เพราะจุดที่ชี้ครั้งแรกว่าโยนทิ้งไปในบ่อน้ำแต่การตรวจค้นกลับไม่พบ ซึ่งจะต้องสอบสวนให้แน่ชัดว่านำศพไปทำลายที่ไหน เพื่อที่จะค้นหาและนำร่าง หรือ ชิ้นส่วน ของผู้สูญหาย เพื่อนำไปประกอบกับหลักฐานอื่นๆ ที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป