เปิดใจทั้งน้ำตา หนุ่มขี่เจ็ทสกียิงขู่ชาวประมงพื้นบ้าน ศึกชิงหอยแครงอ่าวบ้านดอน

เปิดใจทั้งน้ำตา หนุ่มขี่เจ็ทสกียิงขู่ชาวประมงพื้นบ้าน ศึกชิงหอยแครงอ่าวบ้านดอน

เปิดใจทั้งน้ำตา หนุ่มขี่เจ็ทสกียิงขู่ชาวประมงพื้นบ้าน ศึกชิงหอยแครงอ่าวบ้านดอน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มเลี้ยงหอยแครงขอร้องชาวประมงพื้นบ้านทั้งน้ำตา อย่าเข้ามาตักหอยในพื้นที่ที่ตนเองซื้อลูกหอยเลี้ยงไว้ สุดคับแค้นใจควงปืนไลฟ์ยิงขู่ขึ้นฟ้า

ภาพคลิปเหตุการณ์ผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครงในทะเลพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ขับเจ็ทสกีพร้อมอาวุธปืนเพื่อออกไปขับไล่ชาวประมงพื้นบ้านที่เข้ามาตักลูกหอยแครง พร้อมกับตะโกนด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ บอกว่าลูกหอยแครงที่เข้ามาตักเป็นลูกหอยแครงที่ได้ซื้อมาเลี้ยงและขอความเห็นใจว่าอย่ามาตักให้ออกไป แต่ไม่มีใครฟังจึงได้ใช้อาวุธปืนสั้นยิงขึ้นฟ้า เพื่อให้ชาวประมงพื้นบ้านออกจากพื้นที่

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. (10 มิ.ย.63) ที่ สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี นายสันติ อายุ 29 ปี ผู้ก่อเหตุและเป็นผู้ไลฟ์สดเดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ฐาปนัท เจรณาเทพ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม. โดยมีญาติและผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครงรายย่อยเดินทางมาให้กำลังใจกว่า 60 คน

จากการสอบถามนายสันติ เล่าว่า ก่อนที่ตนเองจะขับเจ็ทสกี และไลฟ์สดเข้าไปขับไล่ชาวประมงพื้นบ้านให้ออกจากพื้นที่แต่ไม่มีใครฟัง ด้วยความคับแค้นใจเพราะลูกหอยแครงที่ชาวประมงพื้นบ้านเข้ามาตักเป็นลูกหอยที่ตนเองเพิ่งซื้อจากชาวบ้านเป็นจำนวนเงินกว่า 2.2 ล้านบาท จึงได้นำอาวุธปืนขึ้นมาพร้อมกับตะโกนบอกพร้อมกับขอร้องด้วยน้ำตาว่าให้เห็นใจกันบ้าง แต่ชาวประมงที่เข้ามาในเขตที่ตนเองเลี้ยงหอยไว้ก็ไม่ยอมฟัง จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อขับไล่ไปหลายนัด ก่อนที่จะเดินทางมามอบตัว

และขอฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอความเห็นใจ ขอให้ทบทวนจากทางหน่วยงานทุกหน่วย ทั้งทหาร ตำรวจ ปกครอง ให้เข้ามาดูแลในเรื่องนี้บ้าง ไม่ใช่จะเอาแต่เรื่องการทำกินของชาวประมงพื้นบ้านแค่มุมเดียว เพราะตนเองเป็นผู้เลี้ยงต้องลงทุกซื้อลูกหอยมาเลี้ยง แต่ชาวบ้านไม่มีการลงทุน ส่วนทางคดีเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาการกระทำผิดไว้สองข้อหาคือพบพาอาวุธปืน และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ด้านนายจิโรช เผือกเกลี้ยง อายุ 48 ปี ประธานชมรมประมงพื้นบ้านจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้จัดตั้งกลุ่มผู้เลี้ยงหอยแครงขึ้น และก็จะออกไปทำแนวเขตเลี้ยงหอยแครงนอกเหนือแนวเขต 1 พันเมตร เพื่อเป็นการกันพื้นที่ไว้ให้ชาวประมงพื้นบ้านได้ออกหาหอย และช่วงระยะหลังจากที่ทางการได้เข้ามาทำการรื้อถอนในเขต ทำให้มีชาวประมงรุกล้ำเข้ามาในเขตที่มีผู้เลี้ยงไว้ ซึ่งถ้าเป็นชาวประมงในพื้นที่ก็จะรับทราบและเข้าใจกันดี แต่ที่ทำให้เกิดปัญหามาโดยตลอดก็คือกลุ่มชาวประมงที่มาจากต่างพื้นที่ และได้ใช้โอกาสที่ทางเจ้าหน้าที่ประกาศและรื้อถอนเข้ามาตักลูกหอยที่เลี้ยงไว้

ซึ่งกลุ่มผู้เลี้ยงแต่ละคอกจะต้องซื้อลูกหอยมาเพื่อเพราะเลี้ยง บางคนต้องกู้ยืม บางคนต้องจำนงบ้าน ขายรถ เพื่อลงทุน จึงอยากวิงวอนในเห็นใจกับผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครงบ้าง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการที่มีผู้เข้ามาขโมยหอยที่เลี้ยงไว้ จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องเรียกทุกฝ่ายเข้าพูดคุยทำความเข้าใจและแก้ปัญหาการเข้ามาลักคราดลูกหอยเพื่อหาข้อยุติต่อไป

 



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook