ผัวประกาศตามหาเมีย ขึ้นเก๋งสีขาวหายตัว 9 วัน สงสารลูกต้องนอนกอดแม่ทุกคืน

ผัวประกาศตามหาเมีย ขึ้นเก๋งสีขาวหายตัว 9 วัน สงสารลูกต้องนอนกอดแม่ทุกคืน

ผัวประกาศตามหาเมีย ขึ้นเก๋งสีขาวหายตัว 9 วัน สงสารลูกต้องนอนกอดแม่ทุกคืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หญิงวัย 47 ปี ขึ้นรถเก๋งสีขาวหายจากบ้านไปตั้งแต่ 5 มิ.ย. สามียอมรับเคยทำร้ายภรรยาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

วานนี้ (13 มิ.ย. 63) ที่ จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านถ่ายเอกสาร ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ หลังมีรายงานว่า นายวิชญ์พัชร์ อายุ 39 ปี เจ้าของร้านดังกล่าว มีการโพสต์เฟซบุ๊กประกาศตามหาภรรยา คือ นางสิริพรภัสร์ อายุ 47 ปี ที่หายตัวออกจากบ้านไปนานกว่า 1 สัปดาห์ ไม่สามารถติดต่อได้ แม้จะมีการไปแจ้งความให้ตำรวจช่วยหาตัวแล้ว แต่ก็ยังไม่พบเจอตัว ไม่รู้ว่าภรรยาหายตัวไปอยู่ที่ไหนและอยู่อย่างไรด้วย 

จากการเดินทางลงพื้นที่เพื่อสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับนายวิชญ์พัชร์ ได้รับการเปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งมีภาพกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่านางสิริพรภัสร์ ภรรยา ได้เดินออกไปซื้ออาหารเช้าในตลาดอาหารที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง แล้วนำเอาอาหารกลับมาไว้ภายในบ้าน จากนั้นจึงเดินออกจากบ้านไป แต่คราวนี้ได้เดินไปขึ้นนั่งบนรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ที่จอดรออยู่ข้างทางก่อนที่รถเก๋งคันดังกล่าวจะขับออกไป

ซึ่งขณะนั้น ตนและบุตรสาวพักอยู่บนชั้น 3 ของบ้าน และเมื่อลงมาไม่พบตัวภรรยา จึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปที่เครื่องของเจ้าตัว แต่โทรหาเท่าไหร่ก็โทรไม่ติด และไม่สามารถติดต่อได้ จึงมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนมาเห็นภาพว่าภรรยาขึ้นรถเก๋งของใครไปก็ไม่รู้ จึงตัดสินใจรอเวลาให้ครบ 24 ชั่วโมงแล้วรีบไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับนำภาพของภรรยาไปโพสต์ประกาศตามหาไว้ในเฟซบุ๊ก เพื่อให้ชาวโซเชียลช่วยแจ้งเบาะแสอีกทางหนึ่ง แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่พบเจอตัวภรรยาแต่อย่างใด

เมื่อสอบถามการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายวิชญ์พัชร์ ระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบหาให้แล้ว และพบว่าคนที่ขับรถเก๋งโตโยต้ายาริสสีขาวนั้น คือ ญาติของฝ่ายหญิง ซึ่งไปเช่ารถมาจากเต็นท์รถแห่งหนึ่ง ขับมารับภรรยาตนพาหายตัวไป โดยเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานใบเช่ารถ พร้อมกับระบุว่า ภรรยาของตนยังอยู่ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ แต่ถือเป็นเรื่องของครอบครัว ทางตำรวจจะไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยว ซึ่งตนก็ทำใจ แต่ก็ยังพยายามตามสืบหา ด้วยการไปสอบถามทางฝ่ายแม่และญาติๆ ของภรรยา ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ

เมื่อถามถึงอะไรที่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ภรรยาหายตัวไปนั้น นายวิชญ์พัชร์ เล่าว่า เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ตนเคยมีปัญหาปากเสียงทะเลาะกับภรรยาอย่างรุนแรง จนถึงขั้นทำร้ายร่างกายภรรยา ซึ่งตนก็รู้สึกผิดอย่างมาก และได้ขอโทษพร้อมกับปรับความเข้าใจกับภรรยาแล้วว่า ตนจะไม่ทำพฤติกรรมแบบนั้นอีก ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่เคยเกิดเรื่องราวใดๆ

จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนทำให้ร้านถ่ายเอกสารของตน ซึ่งภายในร้านมีการเปิดเป็นร้านเกมด้วย ต้องปิดตัวชั่วคราวตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนทำให้ขาดรายได้นานหลายเดือน โดยเรื่องดังกล่าวอาจจะทำให้ภรรยาเกิดความเครียดจนหายออกจากบ้านไปก็เป็นได้

“ถ้าหากมันเป็นเรื่องที่ผมเคยทำร้ายภรรยา ผมจะกราบขอขมาภรรยาอีกครั้งหนึ่ง ผมรักภรรยาคนนี้มาก จึงอยากให้กลับมา ถ้าไม่เห็นแก่ผม ก็อยากให้ภรรยาคิดถึงลูกสาวที่กำลังโตมีอนาคต ซึ่งภรรยาก็รู้ว่าลูกสาวขาดภรรยาไม่ได้ เพราะเขาต้องนอนกอดภรรยาทุกคืน อยากขอให้ภรรยาโปรดกลับมาพูดคุยถึงปัญหา และปรับความเข้าใจกันต่อไป หรืออย่างน้อยก็ส่งข่าวมาให้ลูกสาวทราบว่ายังอยู่สบายดี เพื่อให้ลูกสาวจะได้สบายใจบ้าง” นายวิชญ์พัชร์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนางสิริพรภัสร์ ภรรยาของนายวิชญ์พัชร์ จะเป็นแม่บ้านคอยดูแลร้านถ่ายเอกสารและร้านเกมแล้ว ยังมีการเปิดสอนการเทรดหุ้น forex อีกด้วย แต่นายวิชญ์พัชร์ยืนยันว่า แม้ตนเองและภรรยาจะมีการเปิดสอนการเทรดหุ้น forex ภายในเฉพาะกลุ่มเฟซบุ๊กที่ตั้งขึ้นเอง แต่ไม่มีการเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจนำเงินมาระดมทุนเทรดหุ้นแต่อย่างใด เป็นเพียงแค่การสอนประสบการณ์ในการเทรดเท่านั้น และทางภรรยาก็ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียในด้านการเงินด้วย จึงเชื่อว่าเป็นปัญหาเรื่องเก่าๆ ภายในครอบครัว และเรื่องความเครียดที่ต้องปิดร้านในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนทำให้ขาดรายได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook