เด็กชาย 12 ขวบโพสต์คลิป "เอาไวอากร้าให้หมากิน" บอกทำตามยูทูบเบอร์ชื่อดัง
อยากเป็นยูทูบเบอร์! เด็กชายโพสต์คลิปเอายาให้หมากิน เลียนแบบคลิปเอาไวอากร้าให้แฟนกิน อ้างหมาสั่นเพราะเสียงพลุ
จากกรณีเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขว้างในโลกโซเชียล ภายหลังผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่ง แชร์คลิปวิดีโอคลิปที่มีเนื้อคล้ายทารุณกรรมสัตว์จากช่องยูทูป ชื่อคลิป "เอาไวอากร้าให้หมากิน" ในคลิประบุว่าเป็นการนำยาไวอากร้า ยัดใส่ในข้าวเหนียวให้สุนัขรับประทาน จากนั้นสุนัขก็มีอาการตัวสั่น สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ของผู้ถ่ายคลิป และเป็นการทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งจากคลิปดูแล้วผู้กระทำน่าจะยังเป็นเยาวชน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ต.เมืองเสือ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านของเยาวชนคนที่ทำคลิปออกมา ปรากฏว่าคลิปดังกล่าวได้ถูกลบออกไปจากช่องยูทูบแล้ว จากการพูดคุยทราบว่า เยาวชนคนดังกล่าวอายุ 12 ปี ส่วนสุนัขที่เห็นในคลิปชื่อเจ้ากี้ อายุประมาณ 1-2 ปี ได้อัพคลิปขึ้นช่องยูทูบเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้ว แต่คลิปมาดังเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา มีคนเข้าไปดูกว่า 100,000 คนจากนั้นก็พบว่ามีคนมาคอมเมนต์ด่าแบบเสียๆ หาย ๆ จำนวนมาก จึงได้ลบคลิปไป
ซึ่งข้อเท็จจริงก็คือ ในวันที่ทำคลิป ผู้ปกครองไม่อยู่บ้าน จึงได้ทำคลิปขึ้น เพราะว่าอยากเป็นยูทูบเบอร์ เคยเห็นในคลิปยูทูบ คนมีคนเอาไวอาก้าในแฟนกิน ก็ไม่มีคนว่าอะไร จึงเกิดพฤติกรรมเลียนแบบขึ้น ซึ่งในคลิปเป็นการนำข้าวเหนียวมาปั้น แล้วนำยามาใส่ซึ่งเป็นยาแคปซูล แต่ไม่ได้ให้เจ้ากี้รับประทาน ข้าวเหนียวก้อนนั้นได้โยนทิ้งไป แล้วเอาข้าวเหนียวก้อนใหม่มาปั้น ให้เจ้ากี้กินข้าวเหนียวเปล่าๆ ไม่มียาผสม และไม่ทราบว่ายาดังกล่าวเป็นยาอะไร เป็นเพียงยาแคปซูลที่เจออยู่ในบ้าน แต่ไม่ใช่ยาไวอากร้าแน่นอน
ส่วนที่เจ้ากี้มีอาการตัวสั่น เกิดจากวันนั้นที่วัดแถวบ้านมีงานศพของคนในหมู่บ้าน มีการจุดพลุตะไล เสียงดัง เจ้ากี้มีอาการตื่นตกใจ ตนจึงได้ถ่ายคลิปไว้แล้วเอามาตัดต่อใส่ลงไปในคลิป และอัพขึ้นยูทูบไป ยอมรับว่าที่ทำไปเพราะเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ ตอนนี้สำนึกผิดแล้ว อยากจะขอโทษที่ทำให้ทุกคนไม่สบายใจ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป และกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี ต่อไปนี้จะไม่ทำอีก จะผลิตแต่คลิปดีๆ และสร้างสรรค์ออกมา เพราะอยากเป็นยูทูบเบอร์ เพื่อที่จะได้มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว
ซึ่งที่ผ่านมาทำคลิปมาแล้วจำนวนมากกว่า 60 คลิป และเรียนรู้วิธีการทำคลิปทั้งหมดจากยูทูบเอง และใช้โทรศัพท์มือถือตัดต่อและทำกราฟฟิกเอง ส่วนใหญ่เป็นคลิปกินเที่ยวทั่วไป แต่รอบนี้ตนคิดน้อยไป และไม่คิดว่าผลเสียจากการเลียนแบบจะทำให้ตนและครอบครัวโดนด่าได้ถึงขนาดนี้
ด้าน พ่อของเยาวชนคนดังกล่าว เล่าว่า ตนเองอาศัยอยู่กับลูก 2 คน ได้เลิกรากับแม่ของลูกไปได้กว่า 10 ปีแล้ว ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เช้ามาตนก็ออกไปทำงาน กลับมาก็ใกล้ค่ำ ไม่รู้เลยว่าลูกอัดคลิปขึ้นยูทูบได้อย่างไร พอมีคนโทรมา ก็ตกใจ ปกติลูกชายจะเป็นคนเงียบๆ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร วันๆ อยู่แต่กับโทรศัพท์ มีนิสัยออกตุ้งติ้ง เหมือนผู้หญิง แต่พ่อก็รับได้ ลูกจะเป็นอะไรก็เป็นได้ เราเลี้ยงเค้าได้แต่ตัว แต่ใจเค้า เค้าอยากจะเป็นอะไรก็ให้เค้าเป็น ขอแต่ให้เค้าเป็นคนดีของสังคมก็พอ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียนให้เค้าไม่ให้ทำผิดอีก