"อัยการปรเมศวร์" ลั่น "พระพยอม" มีสิทธิ์ได้เงินค่าที่ดิน 10 ล้านคืน

"อัยการปรเมศวร์" ลั่น "พระพยอม" มีสิทธิ์ได้เงินค่าที่ดิน 10 ล้านคืน

"อัยการปรเมศวร์" ลั่น "พระพยอม" มีสิทธิ์ได้เงินค่าที่ดิน 10 ล้านคืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีข้อพิพาทที่ดินวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ที่ พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กลฺยาโณ เป็นเจ้าอาวาส นั้น ทางพระพยอม ได้ซื้อที่ดินนี้มาจาก "วันทนา" ตั้งแต่ปี 2547 ในราคา 10 ล้าน ผ่านไปสองปี พัฒนาทุกอย่างเรียบร้อย ปรากฏว่ามีเจ้าของซึ่งเป็นทายาทตัวจริงเจ้าของที่ดินแปลงนี้ ร้องศาลขอเพิกถอนไม่ให้วันทนาครอบครองโดยปรปักษ์ เพราะแม่เป็นคนให้วันทนาเข้ามาทำมาหากิน พอแม่ตาย ทำไมไปร้องปรปักษ์ครอบครองที่ดินและขายวัด ซึ่งล่าสุดเจ้าของที่ได้ส่งเอกสารแจ้งให้ทางวัดย้ายออกจากที่ดินภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2563 จนพระพยอมถึงกับปลงแล้ว พ้อบางทีกฎหมายก็ไม่ให้ความเป็นธรรม 

รายการโหนกระแสวันที่ 15 มิ.ย. "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจสัมภาษณ์ "พระพยอม" และ "อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม" อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี ถึงเรื่องดังกล่าว

 เรื่องนี้น่าจะมีที่มาที่ไป?

ปรเมศวร์ : "มีครับ พระพยอมมารู้ทีหลังก็สายไปแล้ว"

ไม่ได้ที่ดินคืนแน่นอน?

ปรเมศวร์ : "ไม่ได้อยู่แล้ว"

10 ล้านล่ะได้คืนมั้ย?

ปรเมศวร์ : "มันสายไปแล้วเหมือนกัน จริงๆ มันมีวิธีเอาคืนแต่ขณะนั้นทำกันไม่เป็น พอมีการเพิกถอนปั๊บ หลวงพ่อหรือมูลนิธิไม่ควรคืนโฉนดจนกว่าจะได้เงิน 10 ล้านก่อน กฎหมายเปิดช่องแต่เราเดินไม่ถูก ก็เป็นตัวอย่างว่าถ้าเราไม่เข้าใจกฎหมายก็เดินไม่ถูก"

วิดีโอคอลหา "พระพยอม" สบายดีนะครับ?

พระพยอม : "ก็พอทนอยู่ได้"

โกรธมั้ย?

พระพยอม : "โกรธไปก็โง่ โมโหก็บ้า ไม่โกรธดีกว่า จะได้ไม่บ้าไม่โง่ ก็สู้ไปตามหน้าที่ที่ควรจะสู้ เมื่อเช้าไปบิณฑบาต แต่ประหลาดตั้งแต่บวชมาไม่เคยมีความชื่นมื่นเท่ากับระยะ 7 วันมานี้ ไปบิณฑบาตคนบอกสู้ๆ เห็นอกเห็นใจ เมื่อวานคนเห็นใจถึงขนาดโทรเอาเงินมาช่วย 7 พันบาท"

เสียไป 10 ล้าน แต่ได้ 7 พันกลับคืนมา?

พระพยอม : "เพราะเขาเห็นใจเหลือเกิน (หัวเราะ) ไม่น่าเชื่อ มีในตลาดผู้หญิงอิสลามยกนิ้วบอกว่าหลวงพ่อสู้นะ คนอิสลามต่างศาสนายังเห็นใจเรา คนศาสนาเดียวกัน ไม่เห็นใจกันก็แย่ อ.ปรเมศวร์ถ้าเห็นใจต้องมาช่วยแล้วล่ะ"

ย้อนหลังกลับไปหน่อยในปี 47 พระอาจารย์ซื้อที่ดินแปลงนี้มาจากใคร?

พระพยอม : "นางวันทนา ซื้อมาในราคา 10 ล้าน ที่ดิน 1 ไร่ 1 งาน 55 ตารางวา"

พอซื้อมาแล้วปรากฏว่าที่ดินตรงนั้นก็บูรณะ?

พระพยอม : "ก็อยากให้ดูภาพหน่อย อาตมานำคนงาน 100-200 เข้าไปพัฒนาเป็นเดือน ต้องเก็บขยะออก เอาดินมาถมพื้นที่ให้เสมอ หมดทั้งค่าแรง หมดทั้งดิน 7-8 แสนบาท เสียเวลาไป 2 ปี 7 เดือน ปัญหาอะไรทั้งหมดไม่คาใจเท่ากับที่ดินตรงนั้นติดถนนใหญ่ คนก็เห็นหมด แต่ทำไมเจ้าของที่ดินไม่เห็น"

พอซื้อมาแล้วปัญหาอะไรมันเกิดขึ้น ไปโอนกันที่ไหน?

พระพยอม : "โอนที่กรมที่ดิน (หัวเราะ) จะไปโอนหลังวัดได้ไง อาตมาให้คนไปถามว่าโฉนดนี้ซื้อขายได้มั้ย ติดจำนำอะไรหรือเปล่า เขามาถึงก็ใส่โครมเลย พระพยอมไม่น่าเป็นพระขี้ระแวง โฉนดครุฑตัวแดงแจ๋ออกโดยกรมที่ดิน"

หลังจากพระอาจารย์ทำการโอนที่ดินเรียบร้อยหมดแล้ว ปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากอะไร?

พระพยอม : "ถ้าจะพูดให้ลึก แต่คิดว่าเขาคงไม่ยอมรับ อาตมาเชื่อว่าทีแรกเขาคงไม่รู้ว่ามีที่ดินอยู่ตรงนี้ ถ้าเป็นคุณ คุณรู้ว่าที่ดินถูกรุกเร้า คุณต้องออกมาสำแดงตนเป็นเจ้าของ และคัดค้านผู้บุกรุกเข้าไปกระทำ ให้หยุดการกระทำ อันนี้ปล่อยให้เราทำไป 2 ปี 7 เดือน ขอพูดง่ายๆ ว่าคุณไปอยู่กลีบเมฆมุมไหนของโลกมา ถึงได้ออกมาช้าเหลือเกิน"

หลังจากนั้น 2 ปี 7 เดือนเขามาปรากฏตัวเหรอ?

พระพยอม : "มาที่วัดอาตมาเลย ญาติพี่น้องมากันทั้งหมดจำได้ 7 คน ญาติพี่น้องเจ้าของที่นี่แหละ"

ก่อนหน้านี้นางวันทนาไม่ใช่เจ้าของที่โดยถูกต้อง ก่อนหน้านี้เป็นของนางทองอยู่ พอแกเสียชีวิตไปแล้ว นางวันทนาก็อยู่ที่ดินแปลงนั้นมาเรื่อยๆ 18-19 ปี หลังจากนั้นเลยไปร้องต่อศาล ขอครอบครองที่ดินแปลงนั้นเป็นของตัวเอง เรียกว่าครองครองปกปักษ์ อยู่กินตรงนั้นมา 10 ปีโดยไม่มีใครขัดขวาง หรือไล่ ฉะนั้นศาลก็อนุญาตให้?

พระพยอม : "ศาลต้องสั่งกรมที่ดินออกโฉนดก่อน ไม่งั้นกรมที่ดินเขาจะไม่พูดว่าเพราะศาลสั่งเขาต้องกระทำ ไม่กระทำก็ละเลยผิดหน้าที่ ฉะนั้นศาลสั่งก่อน"

ทางที่ดินก็ออกโฉนดแปลงนี้ และเอามาขายให้มูลนิธิ 10 ล้าน อยู่ดีๆ ผ่านไป 2 ปี ปี 49 มีญาตินางทองอยู่โผล่มา และบอกว่ายังไง?

พระพยอม : "ยื่นโนติสว่าที่ดินแปลงนี้ต้องขอคืน เพราะมีโฉนด โฉนดใหม่ของท่านออกกันยังไงผมไม่รู้ด้วย  แต่ผมมีโฉนดของผมอยู่ ปรากฏว่าเราขอดูโฉนด เขาก็ไม่ให้ดู อาตมาก็แวบขึ้นมาในใจ เมื่อ 2 วันมีคนร้องไห้มาหาอาตมา เขามีที่ดินหลายแปลง บอกว่าที่ดินโดนขุดไปขาย ลึกยังกะทะเล ฉันไม่รู้ว่าฉันมีที่ดินอยู่ตรงนี้ด้วย อาตมาคิดว่าคงคล้ายๆ กัน เขาคงไม่รู้ว่ามี ถ้ารู้ต้องออกมาสำแดงตนเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน ไม่ละเลยเพิกเฉยดูดาย โดยสามัญชนคนธรรมดาทั่วไป ย่อมหวงแหงสมบัติของตน แต่นี่ปล่อยไป 2 ปี 7 เดือน ไม่หวงกันเลย"

ในเมื่อตอนนี้พระพยอมเล่าให้ฟังว่า โฉนดเป็นของนางวันทนาไปแล้ว เอามาขายมูลนิธิเรียบร้อยแล้ว แล้วอยู่ดีๆ มีชายคนนึงบอกเป็นลูกนางทองอยู่?

ปรเมศวร์ : "เขาบอกเขาเป็นทายาทเจ้าของที่ดิน ปรากฏวันทนาไปเซ็นยินยอมว่าที่จริงเขาเช่าเขาไม่ได้ครอบครองเพื่อตัวเอง แล้วเขาเอาเรื่องนี้ไปยื่นคำร้องต่อศาล ซึ่งความต่อมาปรากฏทีหลังที่พระพยอมเล่าให้ฟังสืบทราบว่านางวันทนามาบอกว่ามีการขอร้องแกมบังคับให้ยอมเซ็น นี่หลังจากที่เกิดเรื่องมาแล้ว เขาไปเพิกถอนเรียบร้อยแล้ว วันทนามาบอกอย่างนั้น ว่าถูกเก็บตัวไว้ที่เซฟเฮาท์แห่งหนึ่งแล้วมาคืน มาเซ็น แล้วเอาที่เซ็นไปยื่นคำร้อง"

จะบอกว่าในวันที่คุณวันทนาเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์แบบ ปรากฏมีคนกลุ่มคนนึงมาปรากฎตัวว่าบอกว่าเป็นทายาทนางทองอยู่ จะขอที่ดินคืน และเอาตัววันทนาไปเหรอ?

ปรเมศวร์ : "เขาก็ไปยื่นคำร้องไต่สวนว่าการออกโฉนดโดยครอบครองปรปักษ์โดยมิชอบ เพราะวันทนาไม่ได้ครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของ แค่ครอบครองโดยการเช่าอาศัยอยู่ พอเช่าปั๊บ การพิจารณาก็ต้องถูกเพิกถอน ซึ่งที่วัดก็เล่าให้ฟังแล้วคนขอเพิกถอน เขาก็ถามว่าหลวงพ่อจะเอามั้ย ถ้าเอาก็ 15 ล้าน ท่านถึงบ่นไง ท่านซื้อที่ดินแปลงเดียว ซื้อ 2 หน"

พระอาจารย์ ทาง อ.ปรเมศวร์ บอกว่าท่านมีการนำเสนอเงินให้อีกก้อน กี่ล้านนะ?

พระพยอม : "ตอนนั้นเสนอไป 3 ล้าน ตอนนั้นที่ดินราคาไม่แพงมาก เราก็คิดว่าพอสมควรแล้ว เพราะเสียไปตั้ง 10 ล้านแล้ว คำพูดคำนี้เขาคงไม่ยอมรับ แต่ถ้าโกหกพ่อ แสดงว่าตกนรกตายแน่ เขาบอกว่าผมหมดไปตั้ง 10 ล้าน แล้วจะมาให้ 3 ล้านจะยอมได้ไง ถ้าให้ 15 ล้านจะตกลง"

ทายาทเจ้าของเดิมจะเอา 15 ล้านแต่ท่านไม่ให้?

พระพยอม : "โอ้ย ซื้อ 2 รอบเนาะ ที่ดินแปลงเดียว 25 ล้านใครจะกล้าทำ"

แล้วมีการไปตกลงเจรจากันมั้ยหรือฟ้องกันเลย?

พระพยอม : "เขาก็ฟ้องมาเรื่อยๆ และชนะมาเรื่อยๆ ด้วยเทคนิคทางกฎหมาย"

ปรเมศวร์ : "เขาขอเพิกถอนไป คือขอเพิกถอนการพิจารณาของศาลครั้งแรกว่านางวันทนาเนี่ยไปโกหกศาล ศาลก็เพิกถอน โฉนดที่หลวงพ่อซื้อไว้ก็ไม่ใช่ ต้องกลับไปใช้โฉนดเดิม วันทนาก็ต้องโทษจำคุกไป"

ที่หลวงพ่อบอกว่าหมด 10 ล้านหมายถึงอะไร?

พระพยอม : "คิดไปโดยสามัญชนทั่วไปนะ ทำอะไรต้องใช้เงินกันต่อก็แล้วแต่ แต่อาตมาขอตั้งข้อสังเกตว่านางวันทนายื่นเรื่องฟ้อง หมายศาลออกมาโฉนดได้เป็นของตัว ชนะมาร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว จู่ๆ ไปเซ็นยอมแพ้ คุณว่าเป็นปกติของมนุษย์ทั่วไปมั้ย ถ้าไม่ใช้วิธีเกลี้ยกล่อม เขาเกลี้ยกล่อมอย่างนี้ ตอนนางวันทนามาใหม่ๆ คืนนั้นอาตมาไปออกรายการกับสรยุทธ์ วันทนาเขาทนไม่ไหว ก็วิ่งมาหาอาตมาตีสี่ตีห้า แล้วเล่าให้ฟังว่าเขาเกลี้ยกล่อมว่าถ้าไม่เซ็นว่าฉันเช่า ยังเซ็นว่าสู้ปรปักษ์อยู่ เขาจะฟ้องพระพยอม ฟ้องวัดด้วย ถ้าหากเซ็นว่าเป็นเช่าเขาจะไม่มายุ่งกับทางวัด ด้วยความเป็นคนใส่บาตรกับอาตมาเป็นประจำ แกก็เซ็นลงไปเลย"

แกกลัวพระถูกฟ้อง?

พระพยอม : "ใช่ แกหวังดีกับพระ แต่ทีนี้พอเซ็นปั๊บ ทางโน้นยอม ทางวัดก็ต้องยอมด้วย"

มันกลายเป็นโมฆะเลยที่ซื้อมา 10 ล้าน ทีนี้พอเจรจารอบ 2 ไม่เอา 15 ล้านแล้ว จะเอา 45 ล้าน?

พระพยอม : "ตอนหลังขึ้นมา 80 ล้าน ขยับด้วย เขาบอกมีคนให้มาแล้ว อาตมาเลยย้อนโครมไปเลย โยม โยมรีบให้เขาไปสิ แล้วโยมก็มาช่วยอาตมาสัก 10 ล้าน เงียบเลย"

ถ้าทางเจ้าของใหม่เอาที่ดินไปขายได้ 80 ล้านก็ขายเลย แล้วเอามาให้อาตมา 10 ล้าน?

พระพยอม : "ใช่ แล้วไม่ใช่เงินอาตมาด้วยนะ เงินหลวงพ่อจรัญ หลวงพ่อเปิ่น เงินพระส่วนหนึ่งนะที่ชวนกันไปซื้อที่ให้คนยากคนจน มันก็น่าเจ็บปวดว่าเงินของพระ เอามาเสียหาย"

ปรเมศวร์ : "เรื่องที่ดินจบ ทำอะไรไม่ได้ แต่ถามว่าถ้าเป็นชาวบ้าน แล้วครอบครองที่ปรปักษ์จะแก้ปัญหายังไง คำตอบคือยังไม่คืน จนกว่าจะรับชำระราคา เป็นไปตามประมวลกฎหมายพาณิชย์ 1332"

แบบนี้ที่ดินไม่ผิดเหรอ ในเมื่อที่ดินเป็นคนออกโฉนดให้มา?

ปรเมศวร์ : "ที่ดินออกโฉนดตามคำสั่งศาล อันนี้เป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน ศาลไต่สวนถูกต้องหมด แต่วันทนากลับคำเพราะกลัวพระพยอมจะถูกดำเนินคดี ตอนกลับคำ เราก็ไม่รู้ว่าถูกขอร้อง บังคับ ขู่เข็น เราไม่รู้ แต่วันทนามาบอกพระพยอมหลังเรื่องมันจบไปหมดแล้ว มันก็ทำอะไรไม่ได้ ทีนี้พระพยอมไม่ควรเอาโฉนดไปคืน ไม่ควรออกจากโฉนดให้เขาฟ้องขับไล่ จำไว้เลยนะ ฟ้องขับไล่ แล้วเราฟ้องแย้งไปว่ามูลนิธิซื้อมาโดยสุจริต เปิดเผยที่ดินถูกต้อง ถ้าจะเอาคืนต้องใช้ราคา 10 ล้าน ไม่ใช่ไปเรียกอย่างวันทนา พูดง่ายๆ เหมือนวันทนาไปรับของโจรมาขายให้กับเรา เราไม่รู้ เราซื้อโดยสุจริต"

ตอนนี้วันทนาป่วยติดเตียง เงินใช้หมดแล้ว วัดทำไง?

ปรเมศวร์ : "ท่านไม่เอาแล้ว ท่านไม่ติดใจแล้ว"

พระพยอม : "คนบอกทำไมไม่ฟ้องวันทนา ถ้าคนรู้ความจริง นอกจากไม่ฟ้อง อาตมายังเคยคิดอยากจะจัดกระเช้าไปเยี่ยมไข้ เพราะตอนนี้แกนอนติดเตียง เพราะแกไม่ได้ใช้เงินสักเท่าไหร่เลย คนอื่นเอาไปใช้หมด คนอื่นมาฉ้อฉลเอาไปหมด ใช้เทคนิคให้แกเสียโน่นเสียนี่ เสียเบี้ยบ้ายรายทางจนแกบอกว่าหมดตัว"

วัดสวนแก้วแพ้แน่นอน ทุกอย่างจบหมดแล้ว แต่ทางเจ้าของ เขาอยากให้คนออกจากพื้นที่ไป มาล้อมรั้วแล้ว ตอนนี้ออกมาหรือยัง?

พระพยอม : "ก็ อ.ปรเมศวร์ กับ อ.สมบัติ วงศ์กำแหง บอกว่ารอให้มีหมายบังคับคดี หมายขับไล่ออกมาสักหน่อย อยากดูใบจริง เดี๋ยวจะเป็นใบสนเท่ห์ ใบข่มขู่ ก็ว่ากันงี้ ตอนนี้โฉนดอยู่ที่วัดนะ ไม่ได้คืน ยังเก็บรักษาอยู่ กรมที่ดินมาทวงคืนหลายรอบแล้ว ก็ฝากทิ้งท้าย ประชาชนทั้งหลาย ปราชญ์เคยพูดไว้ว่า สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง สองมือโด่เด่ โซเซไปบ้าง เมืองไทยเราอาจเอาคนไปรับราชการที่มีความรู้ความไม่รู้บ้าง รู้จริงบ้างรู้ผิดบ้าง ไม่รู้ไม่ชี้ก็ดีไป แต่ไม่รู้แล้วไปชี้ปัญหาใหญ่ เช่นซื้อให้วัดซื้อเหอะ เพราะมีโฉนดถูกกฎหมาย มีครุฑมีอะไร ทำให้ประชาชนเสียหาย อาตมาเชื่อว่าคงไม่ได้มีแต่กรมที่ดิน กรมอื่นก็ต้องมี ที่เอาผู้ไม่รู้ไปกินเงินเดือน แล้วไม่รักษาผลประโยชน์ประชาชน ไปแนะนำให้ประชาชนเสียหาย ช่วยแก้กันตรงนี้หน่อยนะ นักกฎหมายทั้งหลาย"

ปรเมศวร์ : "มันก็น่าคิดนะ ถ้าจะเอาคืนเขาต้องใช้ราคานะ เพราะท่านซื้อมาอย่างสุจริต"

ยังมีทาง?

ปรเมศวร์ : "ถ้าท่านยังบอกว่าท่านยังครอบครองโฉนดอยู่ ยังไม่คืน โฉนดคือเรื่องเอกสารสิทธิ์ เรื่องที่ดินคือเรื่องที่ดิน เขาจะเอาที่ดินก็มาว่ากันเอาสิ เพราะท่านซื้อไปเรียบร้อยแล้ว"

แต่ศาลตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว?

ปรเมศวร์ : "ที่ของเขาถูก แต่กฎหมายบอกว่าถ้าเจ้าของจะเอาคืน ต้องใช้ราคาผู้ที่ซื้อโดยสุจริต"

แสดงว่ามีสิทธิ์จะได้คืน 10 ล้าน?

ปรเมศวร์ : "หลวงพ่อท่านพูดถูก เอาไปขาย 80 ล้าน แล้วเอา 10 ล้านมาให้ท่านก็จบ ก็ยังมีโอกาส เพราะท่านพูดว่าท่านยังไม่ได้คืนโฉนด ที่ดินท่านยังครอบครองก็น่าคิดนะ"

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ "อัยการปรเมศวร์" ลั่น "พระพยอม" มีสิทธิ์ได้เงินค่าที่ดิน 10 ล้านคืน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook