"ครูเงาะ" เปิดใจเล่าถึงความรักที่ผ่านมา จนเจอรักแท้หลังอธิษฐานที่เจดีย์ชเวดากอง
ผ่านเรื่องราวความรักไม่สมหวังมาหลายครั้งกว่าจะเจอรักแท้ที่เจดีย์ชเวดากอง สำหรับ ครูเงาะ รสสุคนธ์ นักพัฒนาบุคลิกภาพ, นักพูดสร้างแรงบันดาลใจวิทยากรชื่อดัง ที่ได้ควงสามีนักธุรกิจ โจอี้ ราชเทพ เปิดใจแบบทุกซอกมุมชีวิตรักครั้งแรกใน รายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 เผยเคยตัดสินใจผิดที่บอกให้แฟนคนแรกไปซื้อบริการ ทุกครั้งที่มีแฟน ชอบใส่หน้ากากวางบุคลิกทำเข้มแข็งไม่มีความอ่อนโยน เพราะเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงเก่งจะเป็นที่รัก
ครูเงาะ : "คนแรกเป็นรุ่นพี่ ตอนที่เจอเขาครั้งแรกคือ ยังเรียนอยู่นิเทศศาสตร์ คือ ชอบกันไปกันมาตอนนั้น คือ เขามีแฟนอยู่แล้ว แต่เขามีความเจ้าชู้ แต่ว่าเราก็ไม่ได้ไปโทรหา หรือ แย่งอะไรแบบนั้นเลยนะคะ ได้แค่แอบมองแอบชอบ จนกระทั่งเรียนจบกันแล้ว แล้วเขาก็เลิกกับแฟน เราก็เริ่มคุยกัน คนนี้ที่เราชอบ เพราะเขามีความคล้ายคุณพ่อ เขามีความตลก แล้วก็เป็นคนเก่ง เงาะจะชอบคนเก่ง แต่ทีนี่เนื้อเราคือเราเป็นคนที่ชอบใส่หน้ากาก"
"หน้ากากของเงาะในที่นี่ คือ หน้ากากเข้มแข็ง หน้ากากที่เราจะไม่แสดงความอ่อนแอ ทีนี่ พอเวลาเราไม่แสดงความอ่อนแอเนี่ย เหรียญมันจะมีสองด้านเสมอ แต่พอเราไม่แสดงความอ่อนแอเนี่ย เหรียญด้านความอ่อนโยนของเราก็หายไป เพราะเงาะทิ้งเหรียญ ต้องการความช่วยเหลืออะไรก็จะไม่มี เคยไปเดินเที่ยวที่ญี่ปุ่นด้วยกัน เงาะถือของหนักเนี่ย พี่เขาบอกว่ามาช่วยถือไหม เราก็บอกว่าไม่เป็นไร ถือเองได้ เพราะเราไม่ต้องการแสดงสัญลักษณ์ความอ่อนแอให้เขาเห็น"
"เขาก็โอเคก็ไม่ได้ช่วยเราถือ เพราะเงาะคิดว่า การเป็นผู้หญิงจะเป็นที่รัก ฉันถูกรักเมื่อฉันเก่ง แต่เมื่อตัดไปเด็กผู้หญิงอีกคนในทริปอ้อนเขาช่วยหนูถือหน่อยๆ แล้วเขาก็ไปถือให้ค่ะ ส่วนเราก็น้ำตาคลอเดินถือเอง ฉันโอเคๆ คือปลอมในปลอม เราคิดว่าเราคนจริงแต่จริงๆ คือ ไม่เราไม่กล้าแสดงความรู้สึกจริงๆ เขามาหาเราไม่กล้าแสดงความรักตัวเองไม่มีเลย เงาะเป็นคนที่แข็งมากไม่กล้าแสดงความรัก แล้วแฟร์อยากจะเป็นผู้หญิงเก่งบอกเขาด้วย ฉันรู้ว่าผู้ชายเป็นอะไรที่ต้องการเรื่องเซ็กซ์ เรื่องมีเพศสัมพันธ์ เธอสามารถไปซื้อกินได้เลยนะ"
ครูเงาะ : "เขาไม่ได้ขอด้วยนะคะ แต่เรารู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ แล้วเราเข้าใจจริงๆนะคะ ว่าผู้ชายก็เป็นแบบนี้ ผู้ชายต้องเสพเรื่องพวกนี้ เราก็ได้ยิ่งเรื่องพวกนี้มากไม่ถือ แต่เราขอแค่อย่าผูกพันทางใจ อย่าแบบมีกิ๊ก ซื้อกินจบค่ะ เพื่อให้มัน เพื่อให้มันผ่อนสิ่งนี้จากตัวเธอไปโอเค"
ครูเงาะ : "เราพูดแบบนี้เราคิดว่าเขาจะรักเราเยอะมากขึ้น และเราพูดแบบนี้เขาก็ทำจริงๆ ค่ะ พอเขาทำเราไม่ได้รู้สึกเลยว่าแฮปปี้ แต่กับกันเรารู้สึกไม่โอเค เราไม่เคยมีแฟนมาเนอะค่ะ คนนี้คนแรก เราคิดเรื่องนี้ด้วยหัว เราคิดว่ามันคูลมากๆ เลย คิดว่ามันเป็นความคิดของผู้หญิงเจ๋งๆ คนหนึ่งที่เข้าใจโลก แต่จริงๆ ไม่ได้เข้าใจโลกเลย พอหลังจากนั้นเราก็รู้สึกว่าไม่ใช่ละ"
เวลาเขาไปเขามาบอกเราไหม
ครูเงาะ : "เขาไม่บอกค่ะ แต่พอเขาไม่บอกเรากลับอยากรู้ เขายิ่งไม่บอก เลยเริ่มปรากฎการณ์แรกคือ การโกหกซึ่งกันและกัน พอเขาโกหกเราเริ่มกดดัน เราก็ไม่ได้เป็นสายปรี๊ด เราจะเป็นสายขอคุยด้วยหน่อย เราก็อยู่กันด้วยความกดดัน ความหวานเราก็ไม่มี เขาก็ เขาก็ไปมีกิ๊ก"
อันนี้ไม่ได้ซื้อกินละ ไปมีกิ๊กเลย
ครูเงาะ : "ใช่ค่ะ วันนั้นเงาะนอนอยู่ที่บ้าน ตอนตีสาม แล้วอยู่ๆ เราก็ตื่นขึ้นมา เงาะลืมตาขึ้นมาเขามีคนอื่น ไม่เป็นไร! เรารอตอนเช้าก่อน เช้ามาเราโทรหาเขาเลย 7 โมงเช้า แต่เขาไม่รับ โทรกลับมา 10 โมง เราก็ถามเมื่อคืนไปไหนมาทำไมไม่รับโทรศัพท์ เขาก็บอกว่านอนอยู่ เราก็บอกว่าเราขับรถไปหน้าบ้านเขามา เขาก็บอกว่าพอดีเมาเลยนอนที่ปั๊มกลัวเธอเป็นห่วง เราก็ถามต่อ มีคนเห็นเธอนั่งรถไปกับผู้หญิงอีกคน เขาก็ถามกลับมาใครบอกเธอ ถ้าไม่จริงเขาจะตอบว่าไม่ใช่ ใช่ไหมคะ แต่พอตอบว่าใครบอกเธอ มันมีเชื้อของความจริงอยู่ เราก็บอกเลิกเลย เรารู้สึกว่าเราเป็นคนเจ๋ง เราบอกเลิกก่อนเลย เขาดันโอเคไม่ยื้อเลยเหรอ มันหมดค่าในความรู้สึกตัวเองเลยนะคะ คนที่สร้างค่าตัวมาตลอดแล้วไม่ได้รับคุณค่านั้น มันเจ็บมากเลย"
ครูเงาะ : "ความรักครั้งแรก เงาะ ก็ยังไม่เรียนรู้อะไรมาก เงาะเรียนรู้แค่ว่าไม่ต้องไปคิดถึงจะได้ไม่เจ็บ แต่ยังไม่ได้เรียนรู้ว่ารักที่ดีต้องสร้างอย่างไร ตอนนั้นคิดไม่ได้ คิดแค่ว่า ฉันต้องชนะ พอมันมีความอยากเอาชนะมันก็เลยเข้ามาความรักครั้งที่สอง"
ครูเงาะ : "พอมีคนเข้ามาจีบ ไม่ได้ชอบเลยแต่รู้สึกดีเพราะคนนี้ เก่งเหมือนกัน ตลกเหมือนกัน แต่เก่งกว่าแฟนเก่า เพราะว่าเรารู้สึกว่าเราคบคนนี้เพราะเรารู้สึกชนะที่เราไปเจอคนที่ดีกว่าแฟนเก่า คือ เราคบให้พอชนะ เพราะเขาเข้ามากลางปี แล้วเงาะแพลนไว้ล่ะว่าปลายปีเราจะไปเรียนต่อ เดี๋ยวพอเราไปเรียนต่อเราค่อยเลิก คบแค่ให้รู้สึกว่าเราชนะ"
เรากลายเป็นมือที่สามไปโดยไม่รู้ตัว
ครูเงาะ : "ถูกต้องคบกันแอบคบ เราไม่อยากเปิดเผยเขา เขาไม่อยากเปิดเผยเรา เข้าทางเขาเลยเพราะเขามีคนอื่นอยู่แต่เราไม่รู้"
คบคนนี้เผื่อแค่อยากให้แฟนเก่ารู้ แต่ทำไมถึงไม่เปิดเผย
ครูเงาะ : "อย่างที่ว่าเราคบกันเพื่อให้รู้แค่คนภายในที่จะส่งต่อไปให้แฟนเก่ารู้ ว่าเราคบๆ คนนี้อยู่นะ แล้วตอนนั้นเราทำงานด้วยกันกับคนที่สองอยู่ จนวันหนึ่งแฟนเขามาเปิดเผยให้เห็นเลย แสดงตนเลย พอรู้แล้ว ที่เจ็บกว่าที่รู้คือ เขาไม่ได้นอกใจแฟนเขามาหาเราแค่คนเดียว เพราะเขามีคนอื่นในที่ทำงานเราด้วย เพราะอีกคนเขาก็มาคุยให้เราฟัง ชาทั้งตัว โกรธ แล้วก็รู้สึกไร้ค่าอีกแล้ว คนนี้เราไม่ได้เป็นแฟนกับเขาจริงๆ นะ แต่มันเกิดความรู้สึกอยากแข่งขัน จริงๆ เราคือไม่ได้อยากเป็นแฟนกับเขาเลยนะคะ แต่เราอยากแข่งขันกับเด็กคนนี้ทั้งๆ ที่เป็นน้องที่เรารักมาก และทุกอย่างก็เริ่มไม่ดี แฟนเขาก็บอกเลิกกับเขา ไม่ใช่เลิกเพราะเราทั้งนั้นนะคะ แต่เพราะไปเห็นหลักฐานอื่นๆ แล้วตอนนั้นก็เหลือเรากับน้องเด็กคนนี้ แต่สุดท้ายก็เปิดศึกชิงคนที่เราไม่ได้ชอบมาก แต่มันเป็นเรื่องของกิเลสมนุษย์ค่ะ เป็นเรื่องของการชนะ เพราะตอนนั้นเรารู้สึกแค่ว่าเราได้ผู้ชายคนนี้มาเราชนะ และเราก็ชนะค่ะ"
ครูเงาะ : "จนกระทั่ง เราแต่งงานกับผู้ชายคนนี้เลยนะคะ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้รักเลยนะคะ เคยพิมพ์ระบายกับเพื่อนว่าฉันไม่ได้รักเขาเลย แต่เขามาเห็นสิ่งที่เราพิมพ์คุยกับเพื่อนจนจะเลิกกันเลย แล้วเราไม่ชอบถูกทิ้งไปง้อเขากลับมา บอกเขาว่าขอโทษ อธิบายให้เขาฟังว่าทั้งหมดที่เราบอกไม่ชอบเขา แต่ก็รักเธอนะ ขนาดในวันที่แต่งงาน เราไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้เลยว่ารักเขา แต่เราพูดเพียงแค่ว่า ขอบคุณที่อดทนกับคนอย่างเราได้ อันนี้คือ สิ่งที่จริงที่สุดที่จะพูดออกมาได้ ชุดแต่งงานเพื่อนเลือกให้ รูปในงานวันแต่งไม่เคยล้างเพราะไม่ได้ใส่ใจ เราพาตัวเองไปถึงจุดนั้นเพราะอะไรรู้ไหมคะ เมื่อมนุษย์คนหนึ่งขาดความนับถือตัวเอง แล้วเราทำสิ่งที่ผิดในความสัมพันธ์"
"คือเงาะใช้อารมณ์ ความโกรธ ความก้าวร้าวอะไรก็ตาม ทำผิดเจ้าชู้ คือคนนี้เขาก็เจ้าชู้นะคะ พอเขาทำผิดเราก็ใช้อารมณ์ เคยไหมคะ เราทำผิด เราด่าใครเราไม่ชอบตัวเองหรอก แล้วเราเสียใจ แล้วยิ่งเราสะสมความผิดนี้ไว้ซ้ำๆ เราก็ไม่ชอบเหมือนกัน แล้วนี่เขาอุตส่าห์ทนไม่ดีได้ เราก็รู้สึกว่าก็ต้องอยู่แบบนี้แหละ เพราะไม่มีใครดีที่สุดหรอก พอใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกอย่างคนเข้ากันไม่ได้เลย มันเหมือนรอเวลา เมื่อไหร่นะจะจบความสัมพันธ์นี้ค่ะ เป้าหมายของชีวิตเราทั้งคู่คือไม่มีอะไรชัดเจนเลย มันเลยขัดกันไปทุกอย่าง มันเลยไม่มีความสุขในความสัมพันธ์ เคยทะเลาะกันรุนแรงถึงขนาดที่ เราเถียงเขาเขาก็ใช้อารมณ์กับเรา จนมีการลงไม้ลงมือกัน เราเลยรู้สึกว่าไม่ใช่ละ"
ถึงจะเจอบทเรียนความเจ็บซ้ำและความรักที่ผิดหวังมาแค่ไหน แต่ ครูเงาะ ก็ไม่เคยหมดหวัง ถึงกับบินไปขอคู่ผู้ที่จะมารัก ถึงเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง เมียนมาร์ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าไปครั้งนั้นได้เจอรักแท้สมดั่งใจหวัง
ครูเงาะ : "พอเวลาเราไหว้พระใช่ไหมคะ เราก็จะอธิษฐาน หากข้าพเจ้ามีคู่ขอให้คนคนนั้นมี ศีล ศรัทธา ปัญญา จาคะ ศีลเสมอข้าพเจ้า คือใครอยากได้คู่ต้องไปขอที่ชเวดากอง เราก็บินกันไปทั้งออฟฟิศเลย พอดีแฟนปัจจุบันของเงาะนะคะ ณ วันนั้นเขามาจีบเราแต่เราก็ยังไม่ได้ชอบเขา 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็เปิดใจคุยกับเขา แต่พอดีเขาก็บินพาคุณแม่ไปที่นี่เหมือนกันโดยบังเอิญ เราก็ได้เจอกันเลยก็ถามว่าวันนี้ไปไหนยังไง แล้วคือเราก็ไปเจอเขาที่นั่นคือชเวดากองใหญ่มาก"
"ตอนนั้นเงาะอยู่ที่พระประจำวันเกิด แล้วพอเราอธิษฐานเสร็จหันหลังกลับมาเจอแฟนยืนอยู่เลย คือเป็นเรื่องบังเอิญมาก คือประตูทางเข้ามีอยู่เยอะมาก แต่เขาขึ้นมาแล้วเขาก็เห็นเราเลย แล้วเขาก็ยืนรอเราอยู่ เราหันไปดูเจดีย์เลยค่ะ เจอแล้วเหรอคะ เร็วจังเลยค่ะ ทันใจมากๆ เลยค่ะ หลังจากนั้นก็เปิดใจคุยกับเขา แต่เขาไม่ตรง จากสิ่งที่เราชอบเลย เขามาดีสุภาพเหลือเกิน จนเราแบบใช่ไหม แต่ในใจเราก็คิดว่าถ้ารูปแบบเก่ามันดี มันคงดีนานแล้วเนอะ ไหนลองเปิดใจซิ ใช้สมองบางอย่างใช้ใจอย่างเดียว คือ เราก็ถือศีลเหมือนเรา สนใจแบบเดียวกัน สนใจการพัฒนาตัวเองเหมือนกัน"
คุณโจอี้ : "มาออกรายการ Club Friday Show เป็นรายการแรกเลยครับ ผมเป็นคนเชื้อสายอินเดีย แต่เกิดในเมืองไทย ผมได้เจอคุณเงาะ คือ ในที่สัมมนาที่หนึ่งครับ คือ เจอภาพที่เขากำลังเต้นอยู่บนเวที เราก็คิดในใจถ้าแฟนคนต่อไปเราก็จะชอบประมาณนี้ ก็มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเชียร์ให้เราจีบกัน ตอนแรกเราก็เขิน ให้เราไปจีบคนดังมีชื่อเสียง มันก็ดูไม่ใช่ผม แตเพื่อนของเราก็บอกว่าคนดัง คนมีชื่อเสียงเขาก็อาจจะอยากได้ใครสักคนไว้ดูแล เราก็ตัดสินใจโทรไปหาเขานัดทานข้าว"
ครูเงาะ : "มันจะมีความสะดุดใจ ความน่าสนใจบางอย่าง ตอนที่เราเดินสวนเขาคือมีความสะดุดใจ แล้วไปดูหน้าเขาใกล้ๆ ไม่ใช่สเปก แต่สะดุดใจ พอเขามาคุยกับเราคือ ไม่ได้อินมาก"
คุณโจอี้ : "ต้องบอกว่าต่างคนต่างโชคดีที่มาเจอกันในเวลาที่ใช่ เพราะเรามีลักษณะที่คล้ายกัน"
ครูเงาะ : "เพราะเป็นคนที่แข็งเหมือนกัน เพราะเขาเองคุณพ่อก็เสียตั้งแต่เด็กๆ เขาต้องเป็นคนแบกครอบครัวด้วยตัวของเขาเอง เลยมีความแข็งตั้งแต่เด็กๆ และต้องใช้การยอมรับจากผู้ใหญ่โดยการเข้าก๊วนกับผู้ใหญ่ โดยการกินเหล้าหนักมาก เหมือนกันในอดีตกินขนาดที่ว่าต้องเข้าโรงพยาบาลเลย"
เคยทะเลาะกันไหม แล้วทฤษฎีเอาไม่อยู่
ครูเงาะ : "ทะเลาะมีค่ะ แต่ทฤษฎีเอาไม่อยู่ไม่มีค่ะ คือเหมือนเราเอามาใช้จริงๆ เพราะเงาะคิดว่าทฤษฎีมีไว้เพียงเท่านั้น ถ้าไม่ได้ใช้เราจะแข่งกันว่าใครง้อก่อนคนนั้นชนะ เราทั้งคู่ใช้ชีวิตในคำสอนของพระพุทธเจ้าเนอะ ท่านให้เราละตัวละตน ถ้าเราไม่ง้อ เราก็สั่งสมไปสิอีโก้ ถ้าเลยคิดว่าใครง้อก่อนคนนั้นชนะ คือ มีวันหนึ่งเขานอนแล้ว เราตกลงกันว่าจะไม่ให้ข้ามวันข้ามคืน อย่าหลับโดยที่เราไม่รู้ว่าเธอจะตื่นหรือเปล่า หรือฉันจะตื่นหรือเปล่า อย่าออกจากบ้านโดยโกรธกัน เพราะเราไม่รู้ว่าเธอจะกลับมาหรือเปล่า ฉันจะกลับมาหรือเปล่า วันนั้นทะเลาะกันอะไรไม่รู้ งอนกันเขานอนหันหลังค่ะ แล้วเราก็ ก็ได้ ใช้นิ้วจิ้มก่อน ขอโทษนะ เมื่อกี้ใช้เสียงดังไปหน่อยเขาก็ ขอโทษเหมือนกัน โอเคนอนได้"
ครูเงาะ : "เงาะรู้ว่าคนคนนี้รักเงาะแน่ๆ และไม่เคยคืดที่จะทำร้ายเงาะแน่ๆ เพราะเขาเป็นทีมเดียวกันกับเรา และเราก็เป็นทีมเดียวกับเขา เงาะก็ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายเขา ฉะนั้นการที่เราทะเลาะกันคือ งานล้วนๆ ไม่ได้มีการขยี้จิตวิญญาณของกันและกัน งั้นปลายทางคือเรารักกัน"
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ