ศรีสุวรรณไม่ยอม จ่อร้องปมรื้ออาคารบอมเบย์ เบอร์มา อายุมากกว่า 120 ปี ในเมืองแพร่

ศรีสุวรรณไม่ยอม จ่อร้องปมรื้ออาคารบอมเบย์ เบอร์มา อายุมากกว่า 120 ปี ในเมืองแพร่

ศรีสุวรรณไม่ยอม จ่อร้องปมรื้ออาคารบอมเบย์ เบอร์มา อายุมากกว่า 120 ปี ในเมืองแพร่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่าตามที่สวนรุกขชาติเชตวัน สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ดำเนินการของบประมาณจากจังหวัดแพร่เพื่อดำเนินการ "ปรับปรุงซ่อมแซม" อาคารศูนย์เรียนรู้การป่าไม้ ภายในสวนรุกขชาติเชตวัน ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นราวปี 2432 หรือประมาณ 131 ปีมาแล้ว ซึ่งอาคารดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในเรื่องของการทำไม้ของประเทศไทยมายาวนาน โดย อาคารบริษัท บอมเบย์ เบอร์มา เทรดดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งที่ทำไม้ในเขตภาคเหนือตอนบนได้สร้างอาคารบ้านพัก สำนักงาน ที่พักคนงาน เป็นที่รวมไม้ซุงก่อนจะล่องซุงไปตามแม่น้ำยมลงไปยังภาคกลาง และกรุงเทพฯ ในอดีตนั้น

แต่ในข้อเท็จจริงปรากฏว่า กรมอุทยานฯ กลับปล่อยให้ผู้รับเหมาที่ประมูลงานได้เข้าทุบรื้อทำลายอาคารเก่าแก่ดังกล่าวทั้งหมด จนไม่เหลือสภาพของเดิมๆ ไว้ จนมิอาจเรียกว่าเป็นการ "ปรับปรุงซ่อมแซม" ได้ เพราะแม้แต่ลวดลายไม้ฉลุต่างๆ ก็ถูกแกะรื้อทำลายจนแตกหัก ไม่อาจนำมาประกอบคืนสภาพได้ โดยมิได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนไม้แต่ละชิ้นก่อนรื้อแยกให้เป็นไปตามหลักการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารประวัติศาสตร์ที่มีอายุเกินกว่าร้อยปีแต่อย่างใด ชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องของผู้ปฏิบัติงานและผู้บริหารของกรมอุทยานฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งๆที่ควรรับรู้โดยปริยายว่าเมืองแพร่เป็นเมืองเก่าว่าด้วยการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า ตามมติ ครม. 10 ก.พ. 2558 แล้ว

นอกจากนั้นอาคารดังกล่าวเป็นอาคารประวัติศาสตร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็น "โบราณสถาน" ตามนิยามใน พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 2504 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ม.4 ที่ว่า "อสังหาริมทรัพย์ซึ่งโดยอายุหรือโดยลักษณะแห่งการก่อสร้าง หรือโดยหลักฐานเกี่ยวกับประวัติของอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นประโยชน์ในทางศิลป ประวัติศาสตร์ หรือโบราณคดี ทั้งนี้ ให้รวมถึงสถานที่ที่เป็นแหล่งโบราณคดี แหล่งประวัติศาสตร์ และอุทยานประวัติศาสตร์ด้วย" ดังนั้น ถึงแม้อาคารดังกล่าวจะยังมิได้มีการประกาศรายชื่อจากกรมศิลปากรแต่ก็อยู่ในฐานะของการเป็นโบราณสถาน ตามนัยยะทางกฎหมายที่บัญญัติไว้ทุกประการ

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจำต้องนำความไปร้องเรียนกล่าวโทษกรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมศิลปากร รวมทั้งผู้บริหารในจังหวัดแพร่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดๆในตําแหน่งหรือหน้าที่ หรือกระทําการอันเป็นความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญาหรือตามกฎหมายอื่นต่อ ป.ป.ช. ในที่ 19 มิ.ย.2563 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ จ.นนทบุรี เพื่อมิให้เป็นแบบอย่างที่ไม่สมควรของการปฏิบัติหน้าที่ราชการในทุกกระทรวง ทบวง กรมต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook