เคาะ "ไพบูลย์ นิติตะวัน" ประธานกรรมาธิการเกาะติดเงินกู้
กมธ.ตรวจสอบการใช้เงินกู้ เลือก "ไพบูลย์ นิติตะวัน" ทำหน้าที่ประธาน ด้าน "สุชาติ ชมกลิ่น" ลุกล็อบบี้พรรครัฐบาล กลางที่ประชุม
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตาม ตรวจสอบ การใช้เงินตราพระราชกำหนด 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มประชุมนัดแรก จำนวน 49 คนโดยมีนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะอาวุโสสูงสุดเป็นประธานที่ประชุมเพื่อจัดสรรตำแหน่งในคณะกรรมาธิการฯ โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล มองว่าการทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการด้านการตรวจสอบ ควรเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่เป็นประธานกรรมาธิการชุดนี้ เพื่อความโปร่งใสในการตรวจสอบ เพราะเป็นเงินจำนวนมากที่รัฐบาลกู้มา ส่วนนายมุข สุไลมาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ย้ำว่า ประธานกรรมาธิการต้องเป็นบุคคลที่ทำให้สังคมยอมรับได้
ขณะที่ นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานกรรมาธิการ ส่วนนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา เสนอชื่อนายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน โดยมีกรรมาธิการจากฝ่ายค้านบางส่วนร่วมยกมือรับรองให้ด้วย
ด้านนายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ก็สนับสนุนนายกนกเช่นกัน โดยกล่าวว่า นายไพบูลย์ไม่มีความเหมาะสมทำหน้าที่ เนื่องจากเป็นฝ่ายรัฐบาลด้วยกัน จึงเสนอให้มีการลงคะแนนลับ ส่วนนายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากนายไพบูลย์ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมาธิการ ตนจะลาออกจากกรรมาธิการชุดนี้ จึงขอให้นายไพบูลย์ถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานกรรมาธิการ
ด้านนายไพบูลย์ ผู้ถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธาน กล่าวว่า ตนไม่ขอโต้เถียง กับกรรมาธิการที่มีการกล่าวหา เอาเรื่องทางการเมืองมาพูดในที่ประชุม ซึ่งตนไม่อยากให้เอาความเห็นส่วนตัวมาอภิปรายในที่ประชุม พร้อมยืนยันว่า ตนและทุกคนที่นี่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ทรงเกียรติขอให้ทุกคนภูมิใจในการเป็นกรรมาธิการชุดนี้
ทั้งนี้ ที่ประชุมใช้เวลาเกือบ 1 ชม. ในการถกเถียงถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นประธานกรรมาธิการ ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล โดยนายสุชาติ ชมกลิ่น แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นเดินชักชวนสมาชิก ฝ่ายรัฐบาลให้เลือกนายไพบูลย์ กลางที่ประชุม หลังทราบว่าที่ประชุมจะให้ลงคะแนนแบบลับ จนในที่สุด ประธานในที่ประชุมเห็นควรให้ออกเสียงลงคะแนนลับตามที่มีผู้เสนอ โดยมีผู้รับรองถูกต้อง ก่อนที่ประชุมจะมีมติ เลือกนายไพบูลย์ทำหน้าที่เป็นประธานด้วยคะแนนเสียง 28 ต่อ 19 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง