โฉมใหม่ "ถนนข้าวสาร" ใช้งบปรับปรุง 48 ล้าน คาดเปิดทำการค้า ส.ค.นี้

โฉมใหม่ "ถนนข้าวสาร" ใช้งบปรับปรุง 48 ล้าน คาดเปิดทำการค้า ส.ค.นี้

โฉมใหม่ "ถนนข้าวสาร" ใช้งบปรับปรุง 48 ล้าน คาดเปิดทำการค้า ส.ค.นี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบการปรับปรุงถนนข้าวสาร คาดเปิดให้ทำการค้าได้ในช่วงเดือน ส.ค. 2563

นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าโครงการงานปรับปรุงพื้นที่ย่านถนนข้าวสาร ว่า ปัจจุบันโครงการงานปรับปรุงพื้นที่ย่านถนนข้าวสารทางด้านกายภาพแล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อาจจะมีความไม่เรียบร้อยในบางจุด อาทิ กระเบื้องในบางจุดมีรอยแตกร้าว การรื้อย้ายตู้สื่อสารที่ไม่ได้ใช้งานยังไม่แล้วเสร็จ จึงมอบหมายสำนักงานเขตพระนคร และผู้รับจ้าง ตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมเร่งดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จ รวมทั้งปัญหาการลักลอบนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์มาจอดในพื้นที่ ทำให้เกิดความเสียหายต่อพื้นผิวและเสากั้น 

นอกจากนี้ ได้มอบหมายสำนักการจราจรและขนส่ง ติดตั้งเสากั้นเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการนำรถเข้ามาจอด รวมทั้งติดตั้งป้ายสัญญาณจราจร อาทิ ป้ายห้ามจอด ป้ายจำกัดความเร็ว เป็นต้น โดยประสานความร่วมมือกับสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม นอกจากนี้ ได้มอบหมายสำนักงานเขตพระนคร ประสานสำนักการระบายน้ำดำเนินการลอกท่อระบายน้ำบริเวณโดยรอบ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ด้วย 

นายสกลธี กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องของผู้ค้า เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้เปิดให้สายการบินต่างประเทศเข้ามา ประกอบกับถนนข้าวสารนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ช่วงนี้ถนนข้าวสารจึงค่อนข้างเงียบ ยังไม่มีผู้ค้าจำหน่ายสินค้า กระบวนการอยู่ระหว่างคัดสรรผู้ค้า โดยมอบหมายสำนักงานเขตพระนครเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้ โดยภาพรวมแล้วคาดว่าจะเปิดถนนข้าวสารให้ทำการค้าได้ในช่วงประมาณเดือน ส.ค. 2563 

ส่วนการปรับปรุงถนนไกรสีห์ ขณะนี้ได้งบประมาณแล้ว อยู่ระหว่างการออกแบบและหาตัวผู้รับจ้าง ส่วนในระยะต่อไปก็จะปรับปรุงถนนรามบุตรีและถนนตานี เพื่อให้ถนนในโซนบางลำภู ทั้ง 4 เส้นทางที่ขนานกันมีความสวยงามและมีรูปแบบที่เป็นไปในทางเดียวกัน โดยในบางเส้นทางที่ไม่ได้เป็นถนนสำหรับทำการค้าก็จะเพิ่มต้นไม้ให้มากขึ้น เพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ เป้าหมายสำคัญคือต้องการให้โซนนี้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศที่นักท่องเที่ยวสนใจ มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2562 นายสกลธี กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวจะใช้งบประมาณ 48 ล้านบาท โดยคาดว่าจะจัดหาผู้รับจ้าง และจัดซื้อจัดจ้างตามระบบอี-บิดดิง และลงนามสัญญาจ้างได้ภายใน ต.ค.นี้ โดยจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 4-5 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ก.พ. 2563 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook