เฮียฮ้อ แจงไม่ต้องขอโทษชาคริต เพราะไม่มีใครผิด

ส่วนกรณีนาธาน พ้นสังกัดไปแล้ว

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ลานเอเทรี่ยม 2 สยามเซ็นเตอร์ นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือ เฮียฮ้อ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทอาร์เอส จำกัด(มหาชน) ให้สัมภาษณ์หลังแถลงข่าวงานอาร์เอส ฟุตบอล แชริตี้ ซูเปอร์คัพ ถึงกรณีปัญหาของนายชาคริต แย้มนาม พระเอกภาพยนตร์ "แฟนเก่า" ของค่ายอาวอง ในเครือบริษัท อาร์เอส จำกัด(มหาชน) ที่แสดงความไม่พอใจที่ทางต้นสังกัดของภาพยนตร์"แฟนเก่า" ทำประชาสัมพันธ์จนทำให้พระเอกหนุ่มเสียชื่อเสียงว่า

"เรื่องของชาคริตต้องบอกก่อนทางเราเข้าใจความรู้สึกและอารมณ์ของชาคริต แต่ ณ วันนี้เรายืนยันได้เพราะมีการตรวจสอบแล้ว ทางอาร์เอสฯไม่มีการส่งข่าวในลักษณะนี้ และยังยืนยันว่าทางบริษัททำงานแบบมืออาชีพ ประชาสัมพันธ์ของอาร์เอสฯทำงานแบบมีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน และมีสเต็ปสามารถตรวจสอบได้ ส่วนเรื่องที่จะไปขยายผลอย่างไรทำให้ไปกระทบกระเทือนความรู้สึกของชาคริตก็เข้าใจและรู้สึกเห็นใจ ผมมองว่าเรื่องบางเรื่องเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วและไม่สามารถควบคุมได้ก็ต้องไปแก้ปัญหาเป็นลำดับๆ ไป ตอนนี้ทางทีมงานก็คุยกับชาคริตแล้วครับ"

ถามว่าจะมีการขอโทษชาคริตหรือไม่ เฮียฮ้อ กล่าวว่า "ไม่มีคนผิดนี่ครับ ไม่ต้องขอโทษ ถ้าเกิดมีคนผิดก็จะต้องขอโทษ แต่เคสนี้ไม่มีความผิดเกิดขึ้น เราตรวจสอบแล้วและไม่จำเป็นต้องขอโทษ แต่เราเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของชาคริต และต้องเรียนว่าชาคริตทำงานกับทีมงานภาพยนตร์เรื่อง แฟนเก่า กับทางอาวอง ทำงานด้วยดีและเป็นนักแสดงมืออาชีพมีความสามารถ อยากให้ดูที่เนื้องานของเขา และภาพที่เอามาใช้ในการประชาสัมพันธ์ทุกภาพเอามาจากในภาพยนตร์ทุกภาพ ไม่ได้เป็นภาพเบื้องหลังเลย ส่วนจะมีการขยายผล เราต้องเรียนว่าตอนนี้เป็นโลกที่สื่อไม่มีพรมแดน มันขยายผลไปได้เยอะครับ"

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีของ นาธาน โอมาน ในช่วงที่เข้ามาเป็นศิลปินในสังกัด ว่ามีการตรวจสอบประวัติความเป็นมาอย่างละเอียดหรือไม่ เฮียฮ้อกล่าวว่า ประวัติของศิลปินที่เข้ามาอยู่ในอาร์เอสฯ ตนก็ให้ความสำคัญในระดับหนึ่ง ตนคิดว่าสำคัญที่สุด คือ ความประพฤติและการปฏิบัติตัวของเขาในช่วงที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทว่าเป็นอย่างไร ตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ

"ผมอยากจะบอกว่าตอนที่นาธานยังอยู่ในความดูแลของอาร์เอสฯ ผมก็เชื่อว่าในแง่ของการปฏิบัติตัวและความประพฤติของเขาก็ไม่ได้มีอะไรที่เสียหายต่ออาร์เอสฯ เราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก แต่หลังจากที่เขาหมดสัญญากับทางอาร์เอสฯไปแล้วมันก็นอกเหนือการดูแลของอาร์เอสฯครับ"