แฉเว็บธุรกิจจัดฟัน 5.7หมื่นเว็บสอนครั้งเดียวทำได้!
ตำรวจส่งฟ้องสาว 19 เจ้าของร้านรับจัดฟันเถื่อนเมืองขอนแก่น ข้อหาเบาหวิว แค่เปิดร้านเถื่อน ทันตแพทยสภาเผยเว็บไซต์ธุรกิจจัดฟันมากกว่า 5.7 หมื่นเว็บ สอนจัดฟันครั้งเดียวทำได้ ชี้ธุรกิจบูม รายได้ 1-2 หมื่นบาทต่อวัน จี้ อย.ออกประกาศคุมขายเครื่องมือจัดฟัน มีผลบังคับ ก.ย.นี้
ความคืบหน้ากรณีตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ สสจ.ขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้นทาวน์เฮ้าส์เลขที่ 108/34 ซ.กสิกรทุ่งสร้าง 13 ถนนกสิกรทุ่งสร้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นร้านรับจัดฟันเถื่อน ที่เปิดบริการไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่ น.ส.จุฑามาศ นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนขามแก่นนคร เข้าใช้บริการใส่ลวดดัดฟันจนเกิดการติดเชื้อ และอาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ซึ่งพบหลักฐานอุปกรณ์การจัดฟันแฟชั่นจำนวนมาก จึงตรวจยึด และแจ้งข้อหา น.ส.พรทิพย์ วรรณศรี อายุ 19 ปี เจ้าของบ้านเปิดกระทำการทางทันตกรรม และสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม พ.ต.ท.วิเศษ ภักดีวุฒิ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เจ้าของคดี ได้ควบคุมตัว น.ส.พรทิพย์ นำส่งศาลแขวงจังหวัดขอนแก่น เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลไต่สวนพิจารณาตัดสินโทษ
พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพาณิชย์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า เรื่องการเสียชีวิตของ น.ส.จุฑามาศ ที่หลายฝ่ายระบุว่า เสียชีวิตจากการติดเชื้อหลังจากเจ้าตัวไปใส่เหล็กดัดฟันกับคลินิกทันตกรรมเถื่อนของ น.ส.พรทิพย์ ที่ถูกจับกุมนั้น เรื่องนี้แพทย์ระบุว่า น.ส.จุฑามาศ เสียชีวิตด้วยอาการไตวาย และไทรอยด์เป็นพิษด้วยการติดเชื้อรุนแรง แต่แพทย์ไม่ยืนยันว่าเกิดจากเชื้ออะไร และเกิดจากสารพิษที่มาจากเหล็กดัดฟันแฟชั่นจากคลินิกเถื่อนของ น.ส.พรทิพย์หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้แพทย์ต้องผ่าพิสูจน์ให้ละเอียดถึงจะทราบ แต่ทั้งนี้ญาติไม่ติดใจเอาความ และไม่อนุญาตให้แพทย์นำร่างผู้เสียชีวิตไปผ่าตรวจ ทำให้ตำรวจไม่สามารถเอาเรื่องเจ้าของคลินิกทันตกรรมเถื่อนในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้
พ.ต.อ.สุจินต์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องการติดตามจับกุมคลินิกทันตกรรมเถื่อน หรือร้านเสริมสวยที่เปิดบริการทางทันตกรรมในเมืองขอนแก่นนั้น ขณะนี้แบ่งกำลังตำรวจออกเป็นหลายชุด เพื่อออกสืบสวนหาข่าวว่า จุดไหนมี คลินิกทันตกรรมเถื่อนหรือสถานที่เปิดบริการทางทันตกรรม จะได้ขอความร่วมมือจาก สสจ.ขอนแก่น ร่วมกันเข้าตรวจค้นเพื่อดำเนินการจับกุมให้หมด
นพ.วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ ผอ.รพ.ศูนย์ขอนแก่น กล่าวว่า จากข้อมูลการรักษาของแพทย์ที่รักษา น.ส.จุฑามาศ ระบุว่า ป่วยด้วยโรคประจำตัวหลายโรค และเกิดไทรอยด์เป็นพิษและไตวายกะทันหัน เมื่ออาการกำเริบรุนแรงจนเจ้าตัวหมดสติ กว่าจะถึงมือแพทย์ผู้ป่วยก็เสียชีวิตแล้ว ส่วนการเสียชีวิตด้วยการสะสมของสารพิษอะไรนั้น เรื่องนี้แพทย์ไม่ได้ผ่าพิสูจน์ยืนยัน อีกทั้งญาติของผู้ตายก็ไม่ได้ติดใจอะไร ขอนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี แพทย์จึงลงสาเหตุการตายว่าไทรอยด์เป็นพิษและไตวาย
ขณะที่นายปราโมทย์ สัจจรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทุกอำเภอใน จ.ขอนแก่น ร่วมกันออกตรวจสอบคลินิกทันตกรรมเถื่อน และสถานที่รับจัดฟันเถื่อนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัด หากพบให้ดำเนินการจับกุมทันที พร้อมกันนี้ยังประสานขอความร่วมมือไปยัง สพท.ขอนแก่น เขต 1-5 ให้ตรวจดูเด็กนักเรียนที่สวมใส่เหล็กดัดฟันแฟชั่น หากพบให้แนะนำเด็กถอดออก เพราะจะเป็นอันตรายถึงชีวิต เนื่องจากเหล็กดัดฟันแฟชั่นไม่ได้มาตรฐาน มีสารก่อให้เกิดโรคมะเร็ง และโรคต่างๆ จำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน ศาลแขวงขอนแก่นยังไม่มีการไต่สวนพิพากษาคดี แต่ให้ น.ส.พรทิพย์ ใช้หลักทรัพย์ วงเงิน 1 แสนบาท ยื่นประกันตัวออกไป เพื่อศาลจะได้สืบคดี และพฤติกรรมของผู้ต้องหาต่อไป ก่อนที่จะนัดพิพากษาคดีอีกครั้ง
ด้าน ทพ.ธงชัย วชิรโรจน์ไพศาล ประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านทันตกรรม ทันตแพทยสภา เปิดเผยว่า จากการเก็บข้อมูลการโฆษณารับจัดฟันแฟชั่น ขายเครื่องมืออุปกรณ์ รับสอนจัดฟัน เปิดเป็นธุรกิจ พร้อมทั้งมีกระทู้ถามตอบแนะนำร้านที่รับจัดฟันแฟชั่นพบว่า เฉพาะแค่ในเว็บไซต์กูเกิล มีมากถึง 57,600 เว็บ พร้อมกันนี้ยังมีโฆษณาอีกว่า ใช้ลวดและเครื่องมือแพทย์เหมือนที่ทันตแพทย์ใช้ ไม่ทำลายผิวฟัน ไม่เป็นสนิม ไม่เป็นอันตรายใดๆ สามารถเลือกสีลวดหรือยางได้ รูปร่างของยางที่มีทั้งรูปมิคกี้เมาส์ รูปดอกไม้ รูปสีและลายต่างๆ พร้อมยังเปลี่ยนยางให้ฟรี 3 เดือนแรก หรือรับพิมพ์ปากถึงที่บ้าน และส่งเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ที่ทำสำเร็จทางไปรษณีย์ด้วย
ทพ.ธงชัย กล่าวอีกว่า บางเว็บไซต์ที่มีตัวแทนจำหน่ายสามารถสั่งซื้อลวดจัดฟัน ยางสี และอุปกรณ์จัดฟันทางไปรษณีย์ แถมยังโฆษณาโอ้อวดว่าไม่ต้องเรียน มีคู่มือทำได้เอง บริการจัดส่งทั่วประเทศ หรือรับสอนการจัดฟันแฟชั่นทั่วราชอาณาจักรถึงที่ คิดค่าสอน 6,900 บาท เรียนวันเดียวทำได้ และให้คำแนะนำช่วยเหลือการเปิดกิจการจัดฟันแฟชั่น ซึ่งนับว่าธุรกิจการจัดฟันแฟชั่นเป็นธุรกิจที่มีผลประโยชน์มหาศาล มีแรงจูงใจ ที่พบว่ามีรายรับวันละ 1-2 หมื่นบาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีคุณภาพต่ำราคาถูกแล้ว จะมีกำไรต่อเดือนหลักแสนบาท
"ทันตแพทยสภามีความกังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการจัดการกับเว็บไซต์เหล่านี้ได้ ส่วนที่มีพบเห็นกัน และสามารถจัดการได้ แต่ด้วยอำนาจของทันตแพทยสภาไม่สามารถดำเนินการจับกุมได้เอง ต้องอาศัยกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดต่างๆ ในการดำเนินการกับสถานพยาบาลเถื่อนเหล่านี้ หากประชาชนพบเห็นสามารถแจ้งตำรวจจับได้" ทพ.ธงชัย กล่าว
นอกจากนี้ จากการเก็บข้อมูลคาดว่า ทั่วประเทศมีธุรกิจจัดฟันแฟชั่นที่เปิดเป็นหลักแหล่งนับหมื่นแห่ง และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เฉพาะใน กทม.มีหลายพันแห่ง โดยพบบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และร้านค้าย่านตลาดวังหลัง หรือร้านจัดฟันแฟชั่นลักษณะแผงลอย ร้านเช่าในอาคารพาณิชย์ มีวัยรุ่นมาใช้บริการมาก จากการประมาณการคาดว่า ในแต่ละวันมีวัยรุ่นมาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 10 ราย ส่วนในภูมิภาคพบแต่ในจังหวัดใหญ่ๆ ที่มีคณะทันตแพทยศาสตร์ อาทิ จ.ขอนแก่น เชียงใหม่ โดยพฤติกรรมของธุรกิจเหล่านี้จะเปิด 1-2 เดือน และย้ายสถานที่ไปเปิดแห่งอื่นที่ยากต่อการติดตามจับกุม
"ในป้ายโฆษณาหน้าร้านบอกว่า รับจัดฟันแฟชั่น 800-1,200 บาทต่อ 1 ชิ้น ทั้งปากประมาณ 1,600-2,400 บาท แต่เมื่อเข้าไปทำก็จะมีการแบ่งคุณภาพของอุปกรณ์ หากเกรดเอก็จะเสียเงินเพิ่มอีก โดยบางรายทำเสร็จเสียเงิน 4,000-5,000 บาท อีกทั้งอุปกรณ์ที่บอกว่าเป็นเกรดเอนั้น ก็ไม่มีคุณภาพและเสี่ยงต่ออันตรายทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นด้วย" ทพ.ธงชัย กล่าว
ทพ.ธงชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทันตแพทยสภาได้ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2531 เพื่อออกประกาศสำหรับการควบคุมเครื่องมือแพทย์ที่ต้องจำหน่ายให้โดยแพทย์เท่านั้น โดยผู้ที่นำเข้าและจำหน่ายต้องทำรายงานส่งมายัง อย.ว่าจำหน่ายให้แก่ผู้ใด เบื้องต้นเครื่องมือทางทันตกรรมที่จะควบคุม เช่น ยางสีสำหรับรัดฟันกับลวดดัดฟัน, ลวดดัดฟัน, ตัวพิมพ์แบบฟัน, เครื่องฉายแสง, กาวที่ใช้ยึดตัวเหล็กจัดฟัน คาดว่าจะมีบังคับใช้ประมาณเดือนกันยายนนี้
"ที่ผ่านมามีคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่ 1/2549 เรื่องห้ามขายสินค้าลวดดัดฟันแฟชั่น หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท แต่กฎหมายดังกล่าวไม่มีความชัดเจน เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างจริงจัง ทำให้ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง ดังนั้นจึงประสานกับ สคบ. เพื่อให้มีการออกกฎระเบียบควบคุมเรื่องช่องทางการนำเข้าเครื่องมือเหล่านี้อีกช่องทางนอกเหนือจาก อย." ทพ.ธงชัย กล่าว