วัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์ปิดไฟซิ่งย้อนศร ประสานงาสาวห้างอย่างจัง ดับอนาถทั้งคู่

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่านาทีสลด โจ๋วัย 17 ปี ควบ จยย.ปิดไฟซิ่งย้อนศร ประสานงาสาวห้างอย่างจัง ดับอนาถทั้งคู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 22.30 น. ร.ต.ท.หญิง นิรนันท์ เนตรัก รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถ จยย.ชนกัน บนถนนสายแยกบางหมาก-เอเชีย 41 มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ที่เกิดเหตุเป็นถนนสายรองที่ตัดใหม่ เชื่อมต่อจากถนนสายศูนย์ราชการ-มาแยกบางหมาก-ไปถนนสายเอเซีย 41 ที่เพิ่งเปิดใช้อย่างไม่เป็นทางการ พบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 หมายเลขทะเบียน 152 จ.ตรัง สภาพพังยับเยิน ชิ้นส่วนกระเด็นเกลื่อนเต็มถนน

ใกล้กันพบผู้เสียชีวิต เป็นเพศชาย ทราบชื่อภายหลังคือ นายไกร อายุ 17 ปี สวมกางเกงขายาวสีดำ ไม่สวมเสื้อ สภาพกะโหลกศีรษะแตก มันสมองกระจายพื้น นอนเสียชีวิต อยู่ไหล่ถนนเลนด้านขวา ของถนนฝั่งขาออกจากแยกบางหมากไปถนนสายเอเชีย41

ห่างไปไม่ถึง 10 เมตร พบรถ จยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า ซีโน่ หมายเลขทะเบียน 5934 ชุมพร พลิกคว่ำอยู่ไหล่ถนน ช่องเลนด้านซ้าย ใกล้กันพบศพ นางสาวสุภา พนักงานห้างสรรพสินค้า สวมเสื้อยืดขาสั้นสีดำ กางเกงขายาวสีดำลายจุดขาว สภาพใบหน้ายุบ กะโหลกแตก สมองกระจายเต็มพื้นถนน

จากการสอบถาม นายสุชาติ อายุ 43 ปี ซึ่งกำลังนำจุดไฟไล่ยุงให้วัว และ นายสรายุทธ์ อายุ 35 ปี ซึ่งกำลังเก็บของอยู่บริเวณหน้าบ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้เห็นวัยรุ่นขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า มาจากสี่แยกบางหมาก มุ่งหน้าไปทางถนนสายเอเซีย 41 ปิดไฟและขับมาด้วยความเร็ว

พอสักพักรถ จยย.คันดังกล่าว ก็ได้ขับกลับมา โดยวิ่งมาในฝั่งถนนเส้นเดิม ซึ่งเป็นลักษณะขับรถย้อนศรมา และมาด้วยความเร็วเหมือนเดิม จนมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้พุ่งเข้าชนกับ รถ จยย.อีกคันที่ขับมาถูกทาง และเปิดไฟด้วยอย่างจัง ตนเองทั้งสองจึงได้วิ่งไปดูและแจ้งให้ทางตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

เบื้องต้น ทางตำรวจได้รวบรวมเก็บหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุ เพื่อนำมาประกอบกับพยานบุคคล แล้วสรุปเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่าใครผิดใครถูกต่อไป  

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับถนนสายนี้ซึ่งเพิ่งจะเริ่มเปิดให้ประชาชนได้ใช้อย่างไม่เป็นทางการเมื่อไม่นาน เป็นถนนที่มีความยาว กว่า 8 กม.เป็นถนนคอนกรีต แต่ไม่เรียบ ถนนจะเป็นคลื่น ยังไม่มีไฟส่องทาง และก่อนจะมีเคอร์ฟิว ถนนสายมักจะมีกลุ่มวัยรุ่นที่คึกคะนอง มักจะนำรถ จยย.มาประลองความเร็วกัน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อยู่อาศัยริมถนนสายนี้เป็นอย่างมาก