หลบไม่พ้น! “สู้วัวกระทิงสเปน” กระทบหนัก เหตุล็อกดาวน์ “โควิด-19”

หลบไม่พ้น! “สู้วัวกระทิงสเปน” กระทบหนัก เหตุล็อกดาวน์ “โควิด-19”

หลบไม่พ้น! “สู้วัวกระทิงสเปน” กระทบหนัก เหตุล็อกดาวน์ “โควิด-19”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โรคโควิด-19 ที่ระบาดทั่วโลก ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังส่งผลรุนแรงต่อเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงวัฒนธรรม และ “การสู้วัวกระทิง” กีฬาขึ้นชื่อของสเปน ก็หนีไม่พ้นความท้าทายครั้งนี้ เพราะแม้ว่าสเปนจะยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อชะลอการระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่เหล่าคนเลี้ยงวัวกระทิงและ “มาทาดอร์” นักสู้วัวกระทิง ต่างก็ต้องปะทะกับรัฐบาลฝ่ายซ้าย ที่ถูกกล่าวหาว่าใช้ประเด็นเรื่องโรคระบาดเป็นตัวเร่งให้มีการยกเลิกประเพณีสู้วัวกระทิงอย่างถาวร ตามความต้องการของนักพิทักษ์สิทธิสัตว์

“ฉันมองว่ามันเป็นเรื่องน่าสมเพชที่เทศกาลของชาวสเปนกลายเป็นเรื่องการเมืองไปได้” ออโรรา อัลการ์รา เจ้าของฟาร์มวัวกระทิงกล่าว “เราพบว่าเรากำลังถูกรัฐบาลทำร้ายอย่างแรง แต่อย่างน้อยก็ทำให้พวกเราสามารถรวมตัวกันเป็นหนึ่งได้อย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน”

อัลการ์รากล่าวว่า เธอได้เตรียมส่งวัวกระทิง 70 ตัว ลงสนามในสเปนและทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ทว่าจากมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงโควิด-19 ทำให้เธอต้องส่งวัวกระทิง 30 ตัว จากจำนวนดังกล่าว ไปโรงฆ่าสัตว์แทน และเธอสามารถขายเนื้อวัวได้ราว 400 ยูโร หรือเพียง 1 ใน 10 ของต้นทุนที่ใช้เลี้ยงวัวกระทิงนาน 4 ปี ในชนบทของแคว้นอันดาลูซิอา ซึ่งเป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุดของสเปน ในขณะที่ผู้เลี้ยงวัวกระทิงจะสามารถทำเงินได้หลายพันยูโรจากการส่งวัว 6 ตัว ลงสนามในการต่อสู้แบบดั้งเดิม หรือที่เรียกว่า “คอร์ริดา” โดยเฉพาะในเทศกาลใหญ่ระดับโลกอย่างเทศกาลปามโปลนา ที่วัวแต่ละตัวจะทำรายได้ให้กับเจ้าของได้ถึง 15,000 ยูโร ทีเดียว

อย่างไรก็ตาม มาตรการล็อกดาวน์ไม่ใช่ปัญหาแรกที่วงการสู้วัวกระทิงต้องเผชิญ เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วงการนี้ต้องพบกับกระแสคลื่นลมทางการเมืองและเศรษฐกิจ รวมทั้งกระแสต่อต้านจากเหล่านักกิจกรรม ที่มองว่ากีฬาชนิดนี้เป็นการทรมานสัตว์ เพราะในระหว่างการต่อสู้ มาทาดอร์จะหลอกล่อให้กระทิงวิ่งเข้าขวิด ก่อนจะจบเกมด้วยการใช้ดาบแทงเข้าที่ไหล่ของวัว จากนั้นก็ลากร่างของวัวที่ตายแล้วออกจากสนาม มีเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่ผู้ชมจะช่วยชีวิตวัวกระทิง โดยการขอ “อภัยโทษ” ให้แก่วัว

ท่ามกลางสถานการณ์โรคโควิด-19 มาทาดอร์ชื่อดังหลายคนต่างเข้าร่วมการถกเถียงเกี่ยวกับการสู้วัวกระทิง ทั้งในโลกออนไลน์และในพื้นที่สาธารณะ โดยมองว่า รัฐบาลกำลังฉวยโอกาสจากสถานการณ์โรคระบาดในการยกเลิกกีฬาชนิดนี้

ด้านรัฐบาลก็ยืนยันว่าไม่ได้รังแกวงการสู้วัวกระทิงแต่อย่างใด พร้อมทั้งให้สัญญาว่า กีฬาสู้วัวกระทิงจะไม่อยู่ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพิทักษ์สัตว์จากการทารุณกรรม อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ก็ยังถือว่าคุกรุ่นอยู่ เนื่องจากเมื่อเดือนที่แล้ว นายปาโบล อิเกลเซียส รองนายกรัฐมนตรีของสเปนและ นายอูนิดาส โปเดมอส ผู้นำฝ่ายซ้ายจัด กล่าวในสภาว่า พวกเขารู้สึกอึดอัดใจที่สิ่งที่ได้รับการโปรโมตให้เป็นวัฒนธรรมกลับส่งมอบความเจ็บปวดให้กับสัตว์ เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับคน

ส่วนกระแสสังคมก็แบ่งเป็นสองฝ่าย เช่นเดียวกับมุมมองทางการเมือง ฝ่ายที่สนับสนุนการสู้วัวกระทิงระบุว่า ประเพณีนี้เป็นวัฒนธรรมของประเทศ ไม่เกี่ยวกับความพอใจที่ได้เห็นสัตว์ถูกทรมาน และไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายใดทางการเมือง รัฐบาลมีหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องสนับสนุนการสู้วัวกระทิง เนื่องจากประเพณีนี้เป็น “กระดูกสันหลัง” ของวัฒนธรรมสเปน อีกทั้งในสถานการณ์โรคระบาด ประเพณีการสู้วัวกระทิงก็ขาดรายได้จากผู้ชม ขณะเดียวกันก็ขาดสปอนเซอร์ด้วย

ด้านองค์กรพิทักษ์สิทธิสัตว์ก็เรียกร้องให้รัฐบาลมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมสู้วัวกระทิง เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถหางานใหม่ในช่วงล็อกดาวน์ เนื่องจากคนกลุ่มนี้มักจะติดสัญญากับมาทาดอร์ ทำให้โอกาสหาอาชีพอื่นเป็นไปได้ยาก อีกทั้งคนทำงานฝ่ายสนับสนุนเหล่านี้ยังได้รับเงินค่าจ้างเฉพาะเมื่อมีการต่อสู้วัวกระทิงเท่านั้น

อานา เบแลน มาร์ติน นักการเมืองจาก Pacma ซึ่งเป็นพรรคที่ชูนโยบายพิทักษ์สิทธิสัตว์ กล่าวว่า การสู้วัวกระทิงลดจำนวนลงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และอาจจะสูญหายไปตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะมีโรคโควิด-19 หรือไม่ก็ตาม แต่วิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ก็ไม่ควรเป็นเหตุผลในการยืดอายุการสู้วัวกระทิงต่อไป

“มันเป็นวัฒนธรรมของโลกในอดีต ไม่ใช่สังคมที่เราอยากจะสร้าง ซึ่งเป็นสังคมที่เราเน้นความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจ มากกว่าความสนุกของคนที่ได้เห็นสัตว์ถูกทรมาน” มาร์ตินกล่าว

ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ COVID-19 ได้ที่นี่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook