บ้านพักเด็กรับเด็กหญิงเหยื่อรุมข่มขืนไปดูแล ชี้หากมีการข่มขู่จริง ถอนประกันแน่
จากกรณียายพาหลานสาว วัย 9 ขวบ ชาว อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีอาการป่วยทางสมอง เข้าเรียนต่อ มูลนิธิปวีณาฯ ว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวบ้านในชุมชน รวม 5 คน ก่อเหตุข่มขืนหลานสาววัย 9 ปี ต่อมามีการแจ้งความดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวผู้ต้องส่งฟ้องศาลดำเนินคดี ผู้ต้องหาได้ประกันตัวในชั้นศาล จำนวน 4 คน มีผู้ต้องหา หนึ่งใน 4 มีการพูดข่มขู่จะฆ่าล้างโคตร เกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงขอให้ทางมูลนิธิปวีณา ช่วยเหลือ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 23 มิ.ย.นางอรพญา พลอยทับทิม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางมา พบ ด.ญ.วัย 9 ปี และยายวัย 53 ปี เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี พร้อมทั้งเตรียมที่จะรับด.ญ.วัย 9 ปี ไปอยู่ในความดูแลของ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อความปลอดภัยของเด็ก
เนื่องจากทางครอบครัวต้องทำงาน ไม่มีเวลาในการดูแล ประกอบกับ ด.ญ.วัย 9 ปี มีอาการป่วยสมองพัฒนาการช้ากว่าเด็กปกติ ทางครอบครัวมีความประสงค์ที่จะอยากให้เด็กได้เรียนหนังสือและรักษาอาการป่วยด้วย ทางบ้านพักเด็กจะนำเด็กไปเรียนที่โรงเรียน เด็กพิเศษ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ มีการพูดคุยกับทางครอบครัวแล้วยินดี และพร้อมที่จะมอบหมายให้ทางบ้านพักเด็กและครอบครัวดำเนินการ ซึ่งในวันที่ 24 มิ.ย. จะมารับตัวเด็กอีกครั้ง
น.ส. เอ นามสมมุติ ญาติของ ด.ญ.วัย 9 ปี กล่าวว่า ภายหลังจากที่กลุ่มผู้ต้องหา จำนวน4 คันที่ได้รับการประกันตัว ได้มีการพูดกับชาวบ้านและคนใกล้ชิดกับครอบครัวว่าถ้าได้ประกันตัวออกมา จะฆ่าล้างโคตร ทางยายของเด็ก พอทราบข่าวเกิดความกลัววิตกกังวล ประกอบกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ได้รับประกันตัวเป็นในหมู่บ้านเดียวกัน บางคนมีความใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางคนเคยมีประวัติต้องโทษในคดีฆ่าคนตายมาก่อน ทางครอบครัวของเด็ก ต้องทำมาหากินกันทุกวันช่วงกลางวันเด็กจะต้องอาศัยอยู่ในบ้านเพียงลำพัง จึงเดินทางไปร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณา เพื่อให้ช่วยเร่งรัดคดี ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด
ด้านนาย ทศพร ไวยปิติ อายุ52 ปี กำนันตำบลบ้านแป้ง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ภายหลังเกิดเหตุเห็นว่ามีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว ต่อมามีการประกันตัวและเพิ่งจะทราบจากข่าวว่า ผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวออกมา มีการพูดจาข่มขู่ จึงได้มาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และเข้ามาดูว่าจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ที่ผ่านมา ในหมู่บ้านไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาก่อน ส่วนเรื่องของคดีเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้สั่งการให้ สภ.บางปะอิน ดุและความปลอดภัยที่บ้านของผู้เสียหาย พร้อมทั้งทำการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าการพูดข่มขู่มีพยานหลักฐานหรือไม่เพื่อทำเรื่องถอนประตัวผู้ต้องหา