พี่ชายอโหสิกรรม "ผู้กองบอย" แม้ไม่เชื่อว่าปืนลั่น ยินดีให้มาขอขมาศพน้องนิ่ม
พี่ชายน้องนิ่มเผยยินดีให้ผู้กองมาขอขมาศพน้องสาวครั้งสุดท้าย ส่วนตัวอโหสิกรรม เพราะต้องการให้น้องสาวไปโดยไม่มีเรื่องต้องห่วงและไม่มีเวรกรรมต่อกัน
(23 มิ.ย.63) ผู้สื่อข่าวงานบรรยากาศงานศพ นางสาวพิมชฎาพร หรือ น้องนิ่ม ที่เสียชีวิตในบ้านพักย่านลาดพร้าว หลังถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .45 มม. เข้าที่บริเวณศีรษะจนเสียชีวิต ซึ่งได้นำร่างผู้เสียชีวิตกลับมายังบ้านเกิดตั้งศพบำเพ็ญกุศลทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 4 บ้านดงเค็ง ต.ดอนสมบูรณ์ เป็น อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีพิธีสวดอภิธรรมคืนแรก และเบื้องต้นมีกำหนดการฌาปนกิจศพในวันที่ 25 พฤษภาคม นี้
โดยบรรยากาศงานศพวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา แต่ยังอยู่ในความโศกเศร้า เนื่องจากอยู่ในช่วงกลางวัน อีกทั้ง นางทองใส อายุ 56 ปี แม่ของนางสาวพิมชฎาพร และญาติๆส่วนใหญ่เดินทางไปกรุงเทพมหานคร เพื่อไปทำธุระ ซึ่งมีเพียง นายกชกิตต์พัฒน์ อายุ 33 ปี พี่ชายน้องนิ่ม และเพื่อนบ้านที่กำลังช่วยกันจัดเตรียมข้าวของและเตรียมประกอบอาหารเลี้ยงแขกที่จะมาร่วมงานสวดอภิธรรมคืนที่ 2 ในช่วงเย็นของวันนี้
นายกชกิตต์พัฒน์ อายุ 33 ปี พี่ชายน้องนิ่ม กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานางทองใส และญาติๆ หลายคนได้เดินทางไปที่กรุงเทพฯ เพื่อที่จะไปทำธุระ และเย็นวันนี้จะมีพิธีสวดอภิธรรมคืนที่สอง อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจาก ร.ต.อ.ทรงกลด สามีน้องสาว หรือญาติที่จะมาร่วมงานศพหรือมาขอขมา แต่หากทาง ร.ต.อ.ทรงกลด และญาติจะมาร่วมหรือจะมาขมาศพน้องสาวตนก็ยินดีไม่มีปัญหาอะไร เพราะส่วนตัวนั้นตนขออโหสิกรรมให้ เพราะอยากให้น้องสาวจากไปโดยไม่มีเรื่องต้องห่วง และจะได้ไม่มีเวรมีกรรมต่อกันอีก ส่วนแม่หรือญาติคนอื่นตนไม่รู้ว่าคิดอย่างไร
นายกชกิตต์พัฒน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ครอบครัวก็รู้สึกโล่งใจผ่อนคลายและเริ่มทำใจได้บ้างแล้ว ที่ทาง ร.ต.อ.ทรงกลด ผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพ ซึ่งในส่วนของคดีก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามหน้าที่ของตำรวจและเป็นไปตามกฎหมาย แต่อยากให้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และได้รับโทษสูงสุด ไม่ใช่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น ซึ่งโทษจะต่างกัน เพราะส่วนตัวไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุจนปืนลั่น แต่อาจจะเกิดจากการจงใจเอาปืนมาเล็งที่หัวจนปืนยิงออกไปถูกศีรษะน้องสาวจนเสียชีวิตก็เป็นได้