ลืมกันแล้วหรือยัง? ศาลอุทธรณ์ นัดอ่านคำพิพากษาคดีมหากาพย์ ครูจอมทรัพย์

ลืมกันแล้วหรือยัง? ศาลอุทธรณ์ นัดอ่านคำพิพากษาคดีมหากาพย์ ครูจอมทรัพย์

ลืมกันแล้วหรือยัง? ศาลอุทธรณ์ นัดอ่านคำพิพากษาคดีมหากาพย์ ครูจอมทรัพย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าคดีดัง มหากาพย์ครูจอมทรัพย์ยังไม่จบ ล่าสุดศาลอุทธรณ์ ภาค 4 ได้ นัดฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดนครพนม ในช่วงเช้าวันนี้ (24 มิถุนายน 2563)

สืบเนื่องจาก กรณี เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2562 ศาลชั้นต้น คือศาลจังหวัดนครพนม ได้อ่านคำพิพากษา เกี่ยวกับคดีครูจอมทรัพย์ พร้อมพวก ฐานความผิดสร้างพยานเท็จ หลังจากออกมาเรียกร้องต่อกระทรวงยุติธรรม ให้มีการรื้อฟื้นคดีใหม่ หลัง นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 58 ปี อดีตข้าราชการครู ชาว จ.สกลนคร ถูกดำเนินคดีตัดสินจำคุกในคดี ขับรถชนคนตาย เหตุเกิดเมื่อปี 2548 ในพื้นที่ ต.พระซอง อ.เรณู จ.นครพนม จนกระทั่งถูกดำเนินคดี และศาลตัดสินจำคุก เมื่อปี 2554 โดยศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน ตั้งแต่ปี 2549 ส่วนศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2552 แต่ศาลฎีกา ยืนตามศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 ภายหลังถูกส่งเข้าเรือนจำ เจ้าตัวได้รับพระราชทานอภัยโทษออกมา รวมจำคุก 1 ปี 6 เดือน จนกระทั่ง มีการยื่นต่อกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอรื้อฟื้นคดีตามพระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญา ขึ้น พิจารณาใหม่ พ.ศ.2526 อ้างว่าตกเป็นแพะ

แต่สุดท้ายคดีพลิก ทางตำรวจมีการสอบสวนพบหลักฐาน ว่ามีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ ทำให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ยกคำร้องครูจอมทรัพย์เกี่ยวกับการขอรื้อฟื้นคดีใหม่ ยืนยันไม่ได้เป็นแพะตามคำร้อง นอกจากนี้ ทางตำรวจ ได้ รวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีใหม่อีกรอบ กับ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ฐานความผิดรวม 4 ข้อหา คือ 1. แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน 2. ร่วมกันแจ้งเจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ 3. ร่วมเบิกความเท็จ และ 4. ซ่องโจร ซึ่งมีหลักฐานสำคัญที่ตำรวจพบคือ เกิดขบวนการปั้นพยานหลักฐานเท็จ โดยมี เพื่อนสนิท ครูจอมทรัพย์ คือ ครูอ๋อง สุริยา นวลเจริญ เป็นคนสร้างพยานหลักฐานเท็จขึ้น พร้อมเคยนำตัว นายเสริฐ รูปสะอาด ไปรับสารภาพว่า เป็นคนขับรถ กระบะโตโยต้า ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร ชนคนตาย จากนั้นได้พบหลักฐานบันทึกประจำวันขัดแย้งกัน คือ มี นายสับ วาปี เป็นคนขับรถชนคนตาย ในคดีเดียวกัน กลายเป็นข้อพิรุธ ให้ตำรวจขยายผลสืบสวนพบข้อเท็จจริง ว่า ทั้ง 2 ราย ถูกว่าจ้าง ให้เป็นคนรับผิดแทน ครูจอมทรัพย์ แต่ นายเสริฐ รูปสะอาด ขับรถไม่เป็น จึงมีการเปลี่ยนตัว นายสับ วาปี มาขับรถแทน กลายเป็นหลักฐานสำคัญ มัดขบวนการสร้างแพะ และนำคดีดังกล่าว กลับสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อดำเนินคดี เอาผิดครูจอมทรัพย์ กับพวก รวม 8 คน

ต่อมาเมื่อ วันที่ 6 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้น คือศาลจังหวัดนครพนม มีคำพิพากษาตัดสิน เกี่ยวกับคดีครูจอมทรัพย์ พร้อมพวก ฐานความผิดรวม 4 ข้อหา คือ 1. แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน 2. ร่วมกันแจ้งเจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ 3. ร่วมเบิกความเท็จ และ 4. ซ่องโจร โดยศาลได้พิจารณาตัดสินให้ 1. นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร จำคุก 8 ปี 2. นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง เพื่อนสนิท สั่งจำคุก 7 ปี 9 เดือน 3. นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ สั่งจำคุก 2 ปี 19 เดือน รวมถึง 4. นางทองเรศ วงศ์ศรีชา ทั้ง 2 เป็น พยานปากสำคัญที่เคยออกมายืนยันว่า ครูจอมทรัพย์ ไม่ได้ขับรถชนคนตาย ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 12 เดือน 5. นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อดีตสามีครูจอมทรัพย์ ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน โดยทั้งหมดไม่รอลงอาญา นอกนั้น มี นายเสน่ห์ สุพรรณ นางรจนา จันทรัตน์ (เพื่อนครูจอมทรัพย์) และ นางวาสนา เพ็ชรทอง ซึ่งเป็นหลานสาว ศาลยกฟ้อง นอกจากนี้ ในการพิจารณาตัดสินคดี ศาลได้ยกฟ้อง ฐานความผิดซ่องโจร แก่จำเลยทั้งหมด

ส่วน นายสับ วาปี ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาตัดสิน ไปก่อนนี้ตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2561 ให้ จำคุก 2 ปี 10 เดือน รวมถึงภรรยา คือ นางจันทร์ วาปี สั่งจำคุก 1 ปี 9 เดือน โดยไม่รอลงอาญา แต่ นายเสริฐ รูปสะอาด ทางตำรวจได้กันไว้เป็นพยานฝ่ายโจทย์ เนื่องจากให้การที่เป็นประโยชน์ในคดี โดยภายหลังศาลชั้นต้นตัดสิน ทางจำเลยทั้งหมด ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาล และอยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว

ล่าสุด เกี่ยวกับคดีครูจอมทรัพย์ ในวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้นัดอ่านคำพิพากษา ที่ศาลจังหวัดนครพนม เกี่ยวกับคดีดังกล่าว ตามที่จำเลย รวม 7 คน ที่ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลชั้นต้น จึงได้มีการพิจารณาตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งจะต้องรอผลการพิจารณาของศาลอีกครั้ง หากยังยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ทางจำเลยทั้งหมดยังมีสิทธิ์ที่จะยื่นฎีกา ภายใน 30 วัน หลังอ่านคำตัดสินศาลอุทธรณ์ แต่จะต้อง ขอยื่นคำร้องขอประกันตัว ปล่อยตัวชั่วคราวต่อศาล เพื่อพิจารณาตามขั้นตอน แต่หากศาลไม่อนุญาต จะต้องถูกส่งตัวไปขังที่เรือนจำกลางนครพนม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook