นักวิทย์เผย “วัคซีนโควิด-19” อาจใช้ไม่ได้ผลในผู้สูงอายุ

นักวิทย์เผย “วัคซีนโควิด-19” อาจใช้ไม่ได้ผลในผู้สูงอายุ

นักวิทย์เผย “วัคซีนโควิด-19” อาจใช้ไม่ได้ผลในผู้สูงอายุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักวิทยาศาสตร์เผยว่า วัคซีนต้านโรคโควิด-19 อาจใช้ไม่ได้ผลในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 แต่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กได้

ศาสตราจารย์ปีเตอร์ โอเพนชอว์ หนึ่งในสมาชิกของ Nervtag กลุ่มปัญญาชนที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของสหราชอาณาจักร กล่าวกับคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสภาสูงว่า ควรให้การป้องกันผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง โดยมุ่งที่การป้องกันกลุ่มอื่นๆ เช่น การฉีดวัคซีนให้กับเด็ก เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน อย่างที่เคยเกิดขึ้นในการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ หรือการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ควรได้รับวัคซีนกลุ่มแรกๆ เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถป้องกันกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีการสัมผัสกับบุคลากรทางการแพทย์โดยตรงมากที่สุด

อาร์น อัคบาร์ ศาสตราจารย์ด้านภูมิคุ้มกันวิทยาจากมหาวิทยาลัยคอลเลจ ลอนดอน และประธานสมาคมภูมิคุ้มกันวิทยาแห่งสหราชอาณาจักร กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์จำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย เมื่อเชื้อไวรัสโคโรนาเข้าสู่ร่างกายของผู้สูงอายุ

“สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ เกิดการอักเสบทั่วร่างกาย แม้แต่ในผู้สูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรง เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจว่าการอักเสบเหล่านี้มาจากไหน นอกจากนี้ อาการอักเสบในผู้สูงอายุยังมีความเกี่ยวข้องกับความเปราะบางและผลกระทบในเชิงลบเมื่อคนเราแก่ตัวลง ซึ่งดูเหมือนอาการของผู้สูงอายุจะยิ่งแย่ลงเมื่อป่วยด้วยโรคโควิด-19” อัคบาร์กล่าว

นอกจากนี้ อัคบาร์ยังเสนอว่า นอกเหนือจากการให้วัคซีนแล้ว ควรใช้วิธีอื่นในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เป็นผู้สูงอายุด้วย เช่น การให้ยาเดกซาเมทาโซน ที่ระงับการอักเสบจากเชื้อไวรัส และมีผลวิจัยยืนยันว่าใช้รักษาโรคโควิด-19 ได้

“วัคซีนเพียงอย่างเดียวสามารถช่วยรักษาคนอายุน้อยได้ และจะได้ผลดีด้วย เนื่องจากเมื่อคนอายุน้อยไม่ติดเชื้อ พวกเขาก็จะไม่แพร่เชื้อสู่ผู้สูงอายุ แต่วัคซีนอาจจะไม่ได้ช่วยรักษาชีวิตของผู้สูงอายุมากนัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อและป่วยหนักอยู่แล้ว” อัคบาร์ระบุ

ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ COVID-19 ได้ที่นี่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook