11 แข้งเด็ดดวงของพี่เสือในรอบ 10 ปี

11 แข้งเด็ดดวงของพี่เสือในรอบ 10 ปี

11 แข้งเด็ดดวงของพี่เสือในรอบ 10 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ว่าผลงานในปัจจุบันจะยังไม่เข้ารูปเข้ารอยนักสำหรับทีม "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ทั้งๆ ที่ช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา เรียกว่าผ่าตัดครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในรอบทศวรรษก็ว่าได้ ไล่ตั้งแต่การแยกอดีตขวัญใจของแฟนๆอย่าง เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ในตำแหน่งเทรนเนอร์ของทีม แล้วไปฉุดเอา หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือผลงานแจ่มที่พาทีมดาดๆในสายตาคอบอลบ้านเรานามว่า เอแซด อัล์คมาร์ คว้าแชมป์ลีกดัตช์มาครองเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ก่อนจะตามด้วยบรรดาแข้งดังหลายต่อหลายรายที่ทีมไปคว้ามาด้วยเม็ดเงินหลายสิบล้านยูโร
 
แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่ดี แต่วันนี้ผมจะพาย้อนไปดู 11 ขุนพลสุดเจ๋งของ "พี่เสือ" ในรอบทศวรรษที่ผ่านมาที่ทางต่างประเทศเขายิบยกขึ้นมาให้เราได้ดูกัน หรือถ้าใครคิดว่าทีมชุดนี้ค้านสายตาของท่านล่ะก็ ลองจัดทีมในความคิดของท่านมาให้เราดูบ้างเป็นไร.....

ผู้รักษาประตู

โอลิเวอร์ คาห์น (เยอรมัน / 1994-2008 )
คงต้องก้มหัวคาราวะให้อดีตกัปตันของสโมสรและทีมชาติ และคงไม่ใครทำได้เยี่ยมกว่าเขาคนนี้ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาแล้วสำหรับตำแหน่งนายด่านสุดท้ายของทีมดังจากแคว้นบาวาเรีย ด้วยบุคคลิกที่ห้าว ดุดัน และพร้อมที่จะเผชิญกับดาวยิงทุกสารทิศ ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงแล้วล่ะก็ต้องบอกว่ายากที่บอลจะผ่านมือเจ้าของฉายา "เดอะ คิงคอง" ไปได้ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ 14 ปีกับการค้าแข้งกับบาเยิร์น มิวนิค 8 แชมป์บุนเดสลีกา,6 แชมป์เดเอฟเบ โพคาล และอีก 1 แชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ก็สมควรมอบตำแหน่งตำนานผู้รักษาประตูรายล่าสุดให้เขาไปครอง
 
กองหลัง

วิลลี่ ซาญอล (ฝรั่งเศส / 2000-2009)
อดีตฟูลแบ็กทีมชาติฝรั่งเศสค้าแข้งกับทีมมานานถึง 9 ปีหลังย้ายจากโมนาโกในบ้านเกิดมาร่วมทีมเมื่อปี 2000 และก็กลายมาเป็นกำลังหลักของทีมทันทีในฤดูกาลแรก กว่า 180 เกมที่เขาลงเล่น ผลงานแทบจะสม่ำเสมอไมว่าจะเป็นการเล่นเกมรับที่ดุดัน ขยัน ทุ่มเท นอกจากนี้ยังชอบการเติมเกทรุกเป็นชีวิตจิตใจอีกด้วย แต่น่าเสียดายสำหรับ วิลลี่ ซาญอล ด้วยวัยเพียง 32 ปี เยาก็ประกาศหันหลังให้วงการลูกหนังแบบช็อกแฟนบอล เมื่อยอมแพ้ต่ออาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายที่เรื้อรังมานานแรมปีนั่นเอง

ซามูเอล คูฟฟูร์ (กาน่า / 1993-2005)
ถ้าเป็นแฟนบอลที่ติดตามฟุตบอลในช่วงหลังๆนี้คงจะไม่คุ้นชื่อกับเขามากนัก แต่กับบาเยิร์น มิวนิค ต้องบอกว่าเป็นของดีที่นานๆจะอิมพอร์ตมาจากกาฬทวีป แม้จะผิดหวังในการพ่ายแพ้ต่อแมนฯยูไนเต็ดในเกมแชมเปียนส์ ลีกรอบชิงชนะเลิศปี 1999 ที่บาร์เซโลน่า แต่อีกสองปีถัดมา คูฟฟูร์ ก็คุมเกมรับช่วยให้ บาเยิร์นฯ กรุยทางเข้าไปคว้าแชมป์ในปี 2001 ได้ในที่สุด แม้จะไม่ได้โดดเด่นถึงขั้นกองหลังระดับแนวหน้าของยุโรป แต่เขาคือผู้เล่นที่ปิดทองหลังพระให้กับทีมคนนึงทีเดียว
 
ลูซิโอ (บราซิล / 2004-2009)
กัปตันทีมชาติบราซิลคนปัจจุบันเพิ่งจะอำลาทีมไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน ในอิตาลีเมื่อหน้าร้อนที่มา ถือว่าเป็นกำลังหลักในเกมรับของ บาเยิร์น มิวนิค อีกคนหนึ่งหลังทุ่มเงินไปคว้ามาจากคู่แข่งสำคัญอย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อปี 2004 จุดเด่นของดาวเตะแซมบ้าก็คือ กร้าวแกร่งในลูกกลางอากาศ ทุ่มเทเกินร้อยยามที่ลงสนาม และมักชอบเติมเกมรุกในจังหวะที่ทีมได้ลูกเตะกินเปล่า น่าเสียดายที่เขาไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ไม่เช่นนั้นก็น่าจะถูกจารำกเป็นตำนาานกองหลังของทีมอีกคนอย่างแน่นอน
 
ฟิลิปป์ ลาห์ม (เยอรมัน / 2005-ปัจจุบัน)
นับวันเด็ดกหนุ่มรายนี้จะขยับเข้าใกล้การเป็นฟูลแบ็กระดับโลกเข้าไปเสียทุกที ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของสถาบันเยาวชนของทีมที่สร้างนักเตะฝีเท้าคุณภาพอย่าง ลาห์ม ขึ้นมาได้ แม้รูปร่างอาจจะบอบบางไปนิด แต่ไม่มีปัญหาอยู่แล้วสำหรับผู้เล่นตำแหน่งวิงแบ็กที่ถูกทดแทนด้วยความคล่องแคล่ว สปีดต้นที่จัดจ้าน หรือแม้แต่การกระชากลากเลื้อยขึ้นไปโซโล่ประตูหมอนี่ก็ทำมาแล้ว

 

 

 
กองกลาง

มิชาเอล บัลลัค (เยอรมัน / 2002-2006)
ถ้าจะเอยถึงจอมทัพของทีมในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ต้องมีชื่อของ มิชาเอล บัลลัคอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นบุคลิก สไตล์การเล่น แสดงให้เห็นแล้วว่าคือหัวจิตหัวใจของทีมอย่างแท้จริง 12.9 ล้านยูโรที่บาเยิร์น มิวนิค จ่ายให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ถือว่าคุ้มค่าทุกเม็ดเงินยูโรที่จ่ายไป สำหรับการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 3 สมัย บวกกับ เดเอฟเบ โพคาล 2 สมัย แต่ที่แฟนบอลรับไม่ได้ก็คือการตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทีมและย้ายไปรับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละแสนปอนด์กับเชลซีในอังกฤษแบบไม่มีค่าตัวเมื่อ 2006
 
เซ โรแบร์โต้ (บราซิล / 2002-2006, 2007-2009)
ถือว่ายังอยู่ยงคงกระพันสำหรับแข้งแซมบ้ารายนี้ และเป็ที่ชื่นชอบของกุนซืออ็อตมาร์ ฮิตเฟลด์ ที่คุมทัพบาเยิร์น มิวนิคในช่วงต้นปี 2000 สำหรับ เซ โรแบร์โต้ นั้นมีคุณสมบัติพิเศษก็คือสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงมิดฟิลด์ แถมยังสามารถถอยลงไปเป็นแบ็กซ้ายจำเป็นให้กับทีมได้แบบไม่เคอะเขิน มีช่วงชีวิตที่ตกต่ำในยุคของ เฟลิกซ์ มากัธ เป็นนายใหญ่ของทีม ก่อนที่จะมาแจ้งเกิดอีกครั้งในปี 2007 เมื่อ ฮิตเฟลด์ หวนคืนวงการกลับมารับงานอีกครั้ง แต่ด้วยอายุอานามปัจจุบันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และการแข่งขันในถิ่นอาลิอันซ์ อารีน่าค่อนข้างสูง ทำให้เขาตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมฮัมบูร์กในหน้าร้อนที่ผ่านมา
 
บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ (เยอรมัน / 2002-ปัจจุบัน)
เป็นเด็กในคาถาของ อ็อตมาร์ ฮิตเฟลด์ ที่สามารถแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว เขามีความแข็งแกร่ง ปราดเปรียว และชอบที่จะเติมเกมขึ้นไปข้างหน้าแบบไม่มีเหนื่อย ที่สำคัญก็คือแม้ว่าทีมจะเปลี่ยนแปลงกุนซือหลายคนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่เจ้า "ชไวนี่" มักจะถูกชะตากับเจ้านายและยังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็น 11 ตัวจริงของทีมอยู่เสมอ และจะมีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ไอ้หนุ่มแก้มแดงรายนี้ไม่ติดอยู่ในทีมของเรา
 
ฟร้องค์ ริเบรี่ (ฝรั่งเศส / 2007-ปัจจุบัน)
แม้ว่าซุเปอร์สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศส จะย้ายมาค้าแข้งกับทีมได้ไม่นาน แต่กลับครองใจเหล่าสาวกของทีม "เสือใต้" ได้อย่างรวดเร็ว ว่ากันว่านี่คือจอมทัพคนต่อไปของทีม แม้จะเป็นผู้เล่นตำแหน่งปีก แต่เขาคือหัวใจในเกมรุกของทีมที่จะขาดเสียมิได้ เวลานี้ค่าตัวที่บาเยิร์นฯจ่ายให้กับโอลิมปิก มาร์กเซยไป 25 ล้านยูโรถือว่าคุ้มค่าแล้ว และจะคุ้มค่ามากกว่านี้ถ้าหาก บาเยิร์น มิวนิค ปล่อยเขาออกจากทีมในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า

กองหน้า

รอย มาคาย (ฮอลแลนด์ / 2001-2007)
ดาวยิงจมูกโด่งย้ายมาร่วมทีมด้วยดีกรีดาวยิงชั้นแนวหน้าของ ลา ลีกา สเปน  ผลงาน 78 ประตูจาก 129 เกมที่ลงเล่นให้กับบาเยิร์น มิวนิคนับว่ายอดเยี่ยมไม่และน้อยคนที่มีสถิติการยิงประตูเช่นนี้ แต่หลังการมาของ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ดาวยิงทีมชาติเยอรมันที่ย้ายมาจากแวร์เดอร์ เบรเมน โอกาสที่ มาคายได้ลงเล่นก็น้อยลงไปตามลำดับ จนสุดท้ายตัดสินใจไปใช้ชีวิตบั้นปลายในบ้านเกิดกับ เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม เมื่อปี 2007 จนถึงปัจจุบันนี้
 
เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ (เปรู / 2001-2007)
ดาวเตะจากแดนละตินรายนี้ถูกจารึกว่าเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดคนหนึ่งในบุนเดสลีกาไปแล้ว สำหรับ 6 ปีที่อยู่ในถิ่น อาลิอันซ์ อารีน่า เขากดไปทั้งสิ้น 71 ประตูจาก 144 เกมที่ลงเล่นทั้งหมด การตัดสินใจผิดพลาดเมื่อย้ายจากบาเยิร์นฯไปร่วมทีมเชลซีแบบไม่มีค่าตัวเมื่อปี 2007 ทำใหเส้นทางบนถนนลูกหนังสะดุดไปพักใหญ่ ก่อนที่จะได้มือของแวร์เดอร์ เบรเมนอู่ข้าวอู่น้ำที่ปลุกปั้นให้มีทุกวันนี้ยืมตัวไปร่วทีมเมื่อฤดูกาล 2008-09 และตัดสินใจคว้าตัวไปร่วมทีมแบบถาวรเมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา

 

 
จี๊ด-จ๊าด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook