เบื้องลึกสงครามครูเสด 4 ครั้ง ไม่ใช่เหตุขัดแย้งทางศาสนา แต่อำนาจ-ผลประโยชน์มีเอี่ยว
เรื่องสงครามครูเสดนั้นคนทั่วไปมักเข้าใจว่าเป็นสงครามระหว่างศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลาม เพื่อแย่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์คือ นครเยรูซาเลม ที่ถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของ 2 ศาสนาดังกล่าว ซึ่งบรรดาประเทศที่อ้างศาสนาทั้ง 2 ศาสนานี้ต่างผลัดกันเข้ายึดครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้อยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นความปรารถนาที่บรรดาสันตะปาปาผู้เป็นประมุขของคริสตจักรโรมันคาทอลิก ต้องการจะขยายอำนาจเข้าไปเหนือคริสตจักรออร์ทอดอกซ์ของจักรวรรดิไบแซนไทน์เท่านั้นเอง
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องรู้จักจักรวรรดิโรมันก่อนจึงจะเข้าใจเรื่องสงครามครูเสด เดิมทีจักรวรรดิโรมันเป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่มาตั้งแต่ก่อนสมัยคริสตกาลที่มีอำนาจแผ่ไพศาลไปในทั้ง 3 ทวีปคือ ยุโรป แอฟริกา และเอเชียตะวันออกกลาง โดยมีอาณาบริเวณล้อมรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งเปรียบเสมือนทะเลสาบของจักรวรรดิโรมัน
เนื่องจากความกว้างใหญ่ไพศาลจนยากที่จะปกครองบริหารได้อย่างทั่วถึง จักรพรรดิไดโอคลีเชียนแห่งจักรวรรดิโรมันจึงได้จัดการแยกออกเป็น 2 จักรวรรดิเสียเลยในปี พ.ศ. 828 โดยแบ่งเป็นจักรวรรดิโรมันตะวันตกมีเมืองหลวงอยู่ที่กรุงโรม และจักรวรรดิโรมันตะวันออก (ไบแซนไทน์) มีเมืองหลวงอยู่ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล
ต่อมาจักรวรรดิโรมันตะวันตกล่มสลายลงในปี พ.ศ. 1019 แต่จักรวรรดิโรมันตะวันออก (ไบแซนไทน์) นั้นล่มสลายภายหลังจักรวรรดิโรมันตะวันตกนานร่วมพันปี คือในปี พ.ศ. 1996
เมื่อจักรวรรดิโรมันตะวันตกล่มสลายลง ยุโรปตะวันตกก็ตกเข้าสู่ยุคมืดและแตกแยกออกเป็นเมืองเล็กเมืองน้อย ก่อนที่จะฟอร์มตัวขึ้นเป็นรัฐชาติโดยมีรัฐวาติกันที่มีสันตะปาปาเป็นประมุข ซึ่งเป็นรัฐคริสตจักรมีลักษณะเป็นรัฐซ้อนรัฐ โดยสันตะปาปาเป็นผู้มีอำนาจบังคับบัญชาโบสถ์ พระ และนางชีในรัฐชาติต่างๆ ของยุโรปตะวันตก รวมทั้งมีอำนาจในการคว่ำบาตรกษัตริย์ของรัฐชาติต่างๆ อีกด้วย
ส่วนจักรวรรดิไบแซนไทน์ได้ถูกรุกรานจากกองทัพมุสลิมของเซลจุกเติร์กในปี พ.ศ. 1614 จึงขอความช่วยเหลือจากสันตะปาปาเออแบนที่ 2 ที่กรุงโรม ให้ช่วยระดมพลจากรัฐชาติต่างๆ ในยุโรปตะวันตกไปช่วยรบแย่งชิงกรุงเยรูซาเลม ซึ่งเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสต์ซึ่งตกอยู่ในมือของชาวมุสลิม ในทำนองว่าเป็นสงครามศาสนา แต่แท้ที่จริงแล้วก็คือ เป็นการช่วยจักรวรรดิไบแซนไทน์ให้รอดพ้นจากการรุกคืบหน้ามาจากพวกเซลจุกเติร์กนั่นเอง
สันตะปาปาเออแบนที่ 2 เองก็อยากแผ่อำนาจไปทางจักรวรรดิไบแซนไทน์อยู่แล้ว เนื่องจากบรรดาโบสถ์ พระ และนางชีในจักรวรรดิไบแซนไทน์ไม่เคยยอมรับอำนาจของสันตะปาปาที่โรมมาตั้งแต่แรกแล้ว สันตะปาปาเออแบนที่ 2 จึงประกาศสงครามครูเสดคือ สงครามศักดิ์สิทธิ์ ให้ชาวยุโรปตะวันตกไปรบเพื่อแย่งชิงกรุงเยรูซาเลมให้กลับมาอยู่ในอำนาจพวกคริสต์อีกครั้งหนึ่ง โดยตั้งความหวังว่าบรรดาคริสตศาสนิกชนในจักรวรรดิไบแซนไทน์จะยอมรับในอำนาจการปกครองของพระสันตะปาปาจากกรุงโรม
ชาวยุโรปตะวันตกก็ชอบซิ เพราะได้ไปรบแบบว่าบุญก็ได้ ดินแดนก็ได้ ทรัพย์สมบัติข้าทาสบริวารก็ได้ ต่างก็แย่งกันไป โดยทางจักรวรรดิไบแซนไทน์จัดเรือไปส่งให้ที่ตะวันออกกลาง เสร็จแล้วก็เดินทัพไปตีดินแดนต่างๆ ในตะวันออกกลางรวมทั้งกรุงเยรูซาเลมด้วย ซึ่งก็สำเร็จด้วยดี และยังได้ตั้งอาณาจักรคริสเตียนขึ้น 4 อาณาจักร แบ่งกันปกครองระหว่างพวกครูเสดด้วยกัน
แน่นอนละครับ เมื่อไปรุกรานเขาก็ย่อมถูกพวกมุสลิมเอาคืนบ้างเป็นของธรรมดา จึงต้องมีการระดมพลจากยุโรปตะวันตกไปช่วยอีก จึงเกิดเป็นสงครามครูเสดครั้งที่ 2-3 แต่ในที่สุดก็เสียดินแดนในตะวันออกกลางรวมทั้งกรุงเยรูซาเลมคืนให้แก่พวกมุสลิมไปตามเดิม
จนกระทั่งสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3 เกิดอยากให้มีสงครามครูเสดขึ้นอีก โดยมีความปรารถนาที่จะขยายอำนาจของสันตะปาปาแห่งกรุงโรมไปยังจักรวรรดิไบแซนไทน์อีกเช่นกัน เพราะที่แล้วๆ มาทางจักรพรรดิของไบแซนไทน์ก็ยังคงมีอำนาจเหนือศาสนาคริสต์ในจักรวรรดิไบแซนไทน์ มิได้มีลักษณะเป็นรัฐซ้อนรัฐเหมือนในยุโรปตะวันตกอย่างที่สันตะปาปาต้องการ แต่ในครั้งนี้จักรวรรดิไบแซนไทน์ไม่ต้องการจะเป็นเจ้าภาพขนส่งนักรบครูเสดเสียแล้ว เพราะรบแพ้มุสลิมตลอด
ครับ! พวกครูเสดจะไปรบก็ต้องหาสตางค์เป็นค่าเสบียง ค่าเดินทางเอง ซึ่งบรรดาพวกนักรบครูเสดก็ไม่มีสตางค์เพราะกะจะไปรบเพื่อไปริบทรัพย์สมบัติของคนอื่นเอาทั้งนั้นพร้อมกับจะเอาบุญด้วย สปอนเซอร์รายใหม่ที่เข้ามาอาสาพานักรบครูเสดไปส่งที่ตะวันออกกลางจึงไปตกที่นครรัฐเวนิส แต่โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี กล่าวคือ นครรัฐเวนิสมีข้อแม้กับชาวครูเสดว่า ก่อนจะสปอนเซอร์เรือไปส่งที่ตะวันออกกลาง พวกครูเสดต้องไปตีจักรวรรดิไบแซนไทน์เสียก่อน เพราะจักรวรรดิไบแซนไทน์เป็นคู่แข่งทางการค้ากับนครรัฐเวนิสในธุรกิจการค้าเครื่องเทศ พวกครูเสดก็ตกลง จึงพากันไปโจมตีและยึดกรุงคอนแสตนติโนเปิลได้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งก็จัดเป็นกำไรมหาศาลดีกว่าไปครูเสดเยอะ
ดังนั้น แผนการไปตีนครเยรูซาเลมกลับคืนมาก็เลยเป็นอันพับไป เพราะมัวแต่ตั้งอาณาจักรของตัวเองในดินแดนไบแซนไทน์ เพื่อตักตวงเอาทรัพย์สมบัติอันมหาศาลของจักรวรรดิไบแซนไทน์ต่อไป
สำหรับเรื่องบุญนั้นพวกครูเสดก็ยังคงได้บุญไปเต็มๆ อีกต่างหาก เพราะแม้จะไปรบกับพวกคริสต์ด้วยกันเอง แต่ก็ได้นำทรัพย์สมบัติมากมายจากจักรวรรดิไบแซนไทน์ไปถวายพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3 ท่านสันตะปาปาก็รับบรรดาสมบัติเหล่านั้นอย่างยินดีและเต็มใจ รวมทั้งยังได้อนุโมทนาและอวยชัยให้พรพวกนักรบครูเสดเหล่านี้อย่างถึงใจ
ตกลงว่า สงครามครูเสดที่ศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 4 นี้ ก็ไม่ต้องไปรบกับมุสลิมกันแล้ว เพราะได้กำไรจากการรบกับพวกคริสต์ด้วยกันแล้ว ซึ่งก็พอใจกันทั่วหน้าทั้งพระสันตะปาปาและนักรบครูเสดทั้งหลาย
พวกครูเสดก็ได้แบ่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ไปปกครองกันร่วม 80 ปี ก่อนที่พวกไบแซนไทน์จะสามารถขับไล่พวกครูเสดออกไปได้ สำหรับผู้ที่ได้กำไรที่สุดในสงครามครูเสดครั้งที่ 4 คือ นครรัฐเวนิส ที่สามารถขจัดคู่แข่งทางการค้าเครื่องเทศไปได้ และได้ขนทรัพย์สมบัติอันมีค่าของไบเซนไทน์มาไว้ที่เวนิสเป็นจำนวนมหาศาล ที่พวกเรานักท่องเที่ยวไปทัวร์ดูพิพิธภัณฑ์รวมทั้งโบสถ์ที่สำคัญของเมืองเวนิสนั้น ก็ล้วนแต่เป็นของที่เอามาจากกรุงคอนสแสตนติโนเปิลทั้งสิ้นล่ะครับ