“Stonewall Inn” จุดเริ่มต้นการต่อสู้ของ LGBTQ+ กำลังประสบปัญหาหลังวิกฤติ “โควิด-19”
ในปี 2016 ผับ Stonewall Inn ในกรุงนิวยอร์ก กลายเป็นอนุสาวรีย์ของกลุ่ม LGBTQ+ แห่งแรกในสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นเกียรติแก่สถานที่ที่มีส่วนสำคัญต่อประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของกลุ่ม LGBTQ+ แต่หลังจากที่ต้องปิดร้านไปนานกว่า 3 เดือน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 Stonewall Inn ก็กำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ด้วยเหตุนี้ สถานที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้ จึงร้องขอความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากชุมชนกลุ่ม LGBTQ+
องค์กรต่าง ๆ จึงริเริ่มการระดมทุนขึ้น โดยโครงการหนึ่งตั้งเป้าหมายไว้ที่ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยให้ผับยังสามารถเปิดทำการต่อไปได้ ขณะที่อีกโครงการระดมทุน 60,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อจ่ายเงินเดือนพนักงานของผับที่ไม่สามารถทำงานได้ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19
ในจดหมายแถลงการณ์จากเจ้าของผับ ระบุว่า “เราขอความช่วยเหลือเช่นเดียวกับธุรกิจร้านค้าขนาดเล็กทั่วโลก Stonewall Inn กำลังประสบปัญหา แม้แต่ในช่วงเวลาทั่วไป การเป็นธุรกิจเล็ก ๆ แบบนี้ก็อยู่ได้ยาก และตอนนี้ เราก็กำลังเผชิญหน้ากับอนาคตที่ไม่แน่นอน และเมื่อเราเปิดทำการอีกครั้ง เราก็ต้องอยู่ภายใต้ระเบียบที่เข้มงวดที่จะจำกัดกิจกรรมต่าง ๆ ของธุรกิจเรา”
“เราทำงานอย่างแข็งขันเพื่อชุบชีวิตให้ผับแห่งนี้ เป็นเสมือนพื้นที่ปลอดภัยสำหรับชุมชน LGBTQ+ และรักษา Stonewall Inn ให้ยังคงเป็นศูนย์กลางของการต่อสู้เพื่อสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+”
เดือนมิถุนายนของทุกปี ถือเป็น Pride Month ซึ่งถือกำเนิดขึ้นจากเหตุการณ์การจลาจลที่ Stonewall Inn ในวันที่ 28 มิถุนายน 1969 กลุ่มเควียร์มากกว่า 200 คน ทั้งผู้หญิงข้ามเพศ เลสเบียน เกย์ และอีกมากมาย ต่างมารวมตัวกันที่ผับแห่งนี้เพื่อต่อต้านการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ และต่อมากลายเป็นการเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของกลุ่ม LGBTQ+ อย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้
“Stonewall Inn คือสถานที่ของชาว LGBTQ+ ที่มาเฉลิมฉลอง มาไว้อาลัยให้กับช่วงเวลาที่น่าเศร้า และมารวมตัวกันเพื่อต่อสู้ให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศทั่วโลก”