ลือกันทั้งบาง! บ้านร้างผีสิงแม่ลูกตาย 10 กว่าปีก่อน วิญญาณจูงมือกันเดินรอบบ้าน

 

แม่วางยาลูกก่อนผูกคอตายเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ลือวิญญาณยังวนเวียน คนที่เพิ่งย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านเจอเดินจูงมือ

(25 มิ.ย.63) ที่จังหวัดอ่างทอง ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพิสูจน์ หลังมีคำร่ำลือถึงบ้านร้างแห่งหนึ่งริมแม่น้ำน้อย หมู่ที่ 2 ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ว่ามีผู้พบเจอหญิงสาวซึ่งคาดว่าเป็น นางสาววาสนา อดีตเจ้าของบ้านที่ผูกคอตัวเองตาย จูงน้องเฟิร์น บุตรสาวที่เสียชีวิตพร้อมกันเมื่อ 10 ปีก่อนเดินอยู่ภายในบริเวณบ้าน โดยมีผู้พบเห็นหลายครั้งสร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก

เมื่อไปถึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ใต้ถุนสูง อยู่ในเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ แต่เนื่องจากสภาพบ้านที่ปล่อยทิ้งไว้นานกว่า 10 ปีทำให้ต้นไม้ขึ้นปิดบังจนแทบมิด บริเวณโดยรอบมีรั้วลวดหนามล้อมรอบ ข้างบ้านมีบ่อน้ำซึ่งอยู่ติดริมถนนสายบางจัก-ผักไห่ แต่อยู่ในสภาพที่แห้งจนไม่มีน้ำ  เมื่อเข้าไปบริเวณด้านในบ้านพบว่าอยู่ในสภาพที่ผุพัง ด้านล่างบ้านยังพบรถสามล้อเด็กและเสื้อผ้าของเด็กตกอยู่ บริเวณด้านหน้าบ้านล็อกประตูไว้ 2 ชั้นด้วยกุญแจขนาดใหญ่ บริเวณหน้าประตูมียันต์เขียนด้วยสีขาวอยู่เหนือประตู

นางสาวสิริวงษ์ โคกพูล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่าให้ฟังว่า ตนเคยพบเห็นดวงไฟอยู่บนบ้านร้างหลังดังกล่าว ขณะที่กำลังขับรถเข้าบ้านของตนซึ่งอยู่เลยเข้าไปด้านใน ทั้งๆ ที่บ้านหลังนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้มานานมากแล้ว ซึ่งก็รู้สึกตกใจ และมาเล่าให้กับที่บ้านฟังซึ่งส่วนตนเองเชื่อว่าน่าจะเป็นวิญญาณของสองแม่ลูกที่ยังวนเวียนอยู่ที่นี่ หลังเมื่อสิบปีก่อนหญิงเจ้าของบ้านได้ผูกคอตายที่หน้าประตูบ้านโดยให้ลูกสาววัย 2 ขวบกินนมผสมยาพิษเสียชีวิตก่อนที่ตัวเองจะผูกคอตายตาม

นอกจากตนแล้ว ยังมีชาวบ้านที่เพิ่งมาอาศัยไม่นานและไม่ทราบเรื่องการเสียชีวิตของสองแม่ลูกคู่นี้ เห็นหญิงสาวสองแม่ลูกเดินจูงมือเดินไปมาบริเวณป่าโดยรอบตัวบ้าน ขณะที่ออกมารอใส่บาตรพระช่วงเช้ามืด ก่อนที่จะมาเล่าให้เพื่อนบ้านฟังจนเป็นเสียงเล่าลือว่าเป็นวิญญาณของทั้งสองที่ยังคงอยู่ที่บ้านแห่งนี้

ขณะที่ นางพเยาว์ อายุ 63 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ตรงข้ามกับบ้านร้างหลังดังกล่าวบอกว่า ส่วนตนไม่เคยเห็นอะไรเลยมีแต่เพียงคนมาเล่าให้ฟังว่าพบเจอผู้หญิงเดินจูงเด็กอยู่ริมบ่อน้ำและมาถามตนว่าใครมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ซึ่งตนก็บอกเพียงว่าไม่มีใครอยู่หรอก จะมีก็แต่ผีเท่านั้น แต่ตนก็ไม่เคยเห็นหรือเคยเจอแต่อย่างใด

เช่นเดียวกับ ยายทองใบ อายุ 77 ปี ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์วันที่ 2 แม่ลูกเสียชีวิตบอกว่าตั้งแต่ทั้ง 2 เสียชีวิตไปยังไม่เคยเห็นหรือมีอะไรเที่แปลกจนน่ากลัว มีแต่คนต่างถิ่นที่มาอยู่ใหม่ๆ ก็จะเห็นบ่อยครั้งอยู่บริเวณบ่อน้ำ ทุกวันนี้ก็คอยกรวดน้ำทำบุญไปให้ทั้งสองคนเนื่องจากตัวเองสงสาร

สำหรับบ้านหลังดังกล่าวมีเสียงเล่าลือถึงวิญญาณสองแม่ลูกที่ยังคงวนเวียนอยู่ในบ้าน จนทำให้นักพิสูจนืเรื่องผีต่างวนเวียนมาพิสูจน์กับบ่อยครั้ง แต่ชาวบ้านไม่อยากให้มารบกวนและอยากให้ช่วยกันอุทิศส่วนกุศลให้กับสองแม่ลูกเพื่อที่จะไปอยู่ในภพภูมิที่ ดีและไม่มาวนเวียนอยู่ในบ้านแห่งนี้อีก