รวบอดีตสาวแบงก์-แฟนหนุ่ม ขโมยข้อมูลบัญชีนายจ้าง โอนเงินผ่านแอปเกือบ 4 ล้าน!

รวบอดีตสาวแบงก์-แฟนหนุ่ม ขโมยข้อมูลบัญชีนายจ้าง โอนเงินผ่านแอปเกือบ 4 ล้าน!

รวบอดีตสาวแบงก์-แฟนหนุ่ม ขโมยข้อมูลบัญชีนายจ้าง โอนเงินผ่านแอปเกือบ 4 ล้าน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อดีตพนักงานธนาคารหญิง อายุ 26 ปี ชาว อ.เมืองเชียงใหม่ และแฟนหนุ่ม อายุ 31 ปี ชาว อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ถูกจับกุม หลังจากขโมยข้อมูลบัญชีธนาคารของนายจ้าง และโอนเงินเข้าบัญชีตัวเองหลายครั้ง รวมมูลค่า 3,975,841 บาท

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และ พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภาค 5 เผยว่า การกระทำของทั้งคู่ทำให้ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาหลายข้อหา ได้แก่ ลักทรัพย์ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ลักทรัพย์นายจ้างและรับของโจร และทั้งคู่ยังโอนเงินของนายจ้างเข้าบัญชีตัวเองอย่างน้อย 115 ครั้ง ผ่านแอปพลิเคชันธุรกรรมออนไลน์ชื่อดัง โดยทำมาตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. จนถึงวันที่ 11 มิ.ย. ปีนี้

เรื่องนี้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. เมื่อนายจ้างของผู้ถูกจับกุมทั้ง 2 นี้ พบว่ามีคนโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารของตนหลายครั้ง เป็นเงินรวมเกือบ 4 ล้านบาท ผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าว จึงเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธร (สภ.) ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งตนสงสัยว่าคนลงมือน่าจะเป็นลูกจ้าง 2 คนนี้

หลังจากการตรวจสอบข้อมูลและรวบรวมพยานหลักฐาน ตำรวจจึงขอหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) เพื่อเข้าจับกุมลูกจ้างทั้ง 2 คน โดยเข้าไปจับกุมฝ่ายหญิงขณะทำงาน ส่วนฝ่ายชายเข้ามอบตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน

ลูกจ้างหญิง ซึ่งเป็นอดีตพนักงานธนาคาร สารภาพว่าตนสมคบคิดกับแฟนหนุ่มก่อเหตุดังกล่าว เพราะตนเป็นพนักงานฝ่ายบัญชีและความไว้เนื้อเชื่อใจของนายจ้าง ทำให้ตนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีของนายจ้างแทบทั้งหมด

นอกจากนี้ การที่เคยทำงานธนาคารมาก่อน จึงทราบขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงข้อมูลและรหัสผ่านเป็นอย่างดี ผู้ก่อเหตุจึงอ้างกับทางธนาคารว่าลืมรหัสผ่านในการทำธุรกรรมธนาคารทางออนไลน์ พร้อมกับแจ้งข้อมูลต่าง ๆ ตามที่เจ้าหน้าที่ธนาคารสอบถาม ทั้งหมายเลขบัตรประชาชนและหลักฐานต่างๆ ที่ผูกกับบัญชี

เมื่อได้รหัสผ่านใหม่ จึงเริ่มโอนเงินออกจากบัญชีเข้ามาในบัญชีของตนเองและแฟนหนุ่มหลายครั้ง ส่วนเงินที่ได้มานำไปใช้จ่าย ชำระหนี้สิน บางส่วนใช้เล่นการพนันออนไลน์

ด้านตำรวจจะขยายผลตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าทั้งคู่ก่อเหตุมากกว่านี้หรือไม่ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook