ผู้กองขนหัวลุก! จอดหลบฝนศาลาเก่าริมทาง เจอผีรุมหลอกกลางวันแสกๆ
สุดหลอน ผู้กองแวะหลบฝนศาลาเก่าริมทางเจอผีหลอกกลางวันแสกๆ ชาวบ้านเผยเคยเป็นที่พักศพ
(29 มิ.ย.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เฉลา พงษ์ประยูร โพสต์เรื่องราวชวนขนหัวลุกที่ศาลาเก่าริมทางเข้าหมู่บ้าน จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อประสานไปยังผู้โพสต์ คือ ร.ต.อ.เฉลา พงษ์ประยูร ตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.นางรอง จึงได้ไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ผู้กองเล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ขับรถจักกรยานยนต์ มาจากอำเภอลำปลายมาศ เพื่อจะไปเข้าเวรที่ สภ.นางรอง ระหว่างทางเกิดฝนตกจึงตัดสินใจขับรถเข้าไปหลบฝนที่ศาลาริมทาง ตั้งอยู่หน้าหมู่บ้านบัวตารุ่ง ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พอเข้าไปนั่งในศาลาได้ประมาณ 10 นาที ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปและส่งให้ภรรยาดูว่าตนติดฝนอยู่ยังไม่ถึงโรงพัก พอคุยกับภรรยาเสร็จ เห็นว่าโทรศัพท์เหลือแบตเตอรี่แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ จึงปิดเครื่องแล้วเอาใส่กระเป๋าไว้ จากนั้นก็นั่งรอให้ฝนหยุดตก
แต่ระหว่างที่นั่งรอในศาลาก็หันหน้าไปทางถนน จู่ๆ ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินลัดไร่มันสำปะหลังมาทักข้างหลังคล้ายเสียงผู้ชายว่า "จะไปไหน" แต่พอหันไปดูก็ไม่เห็นมีใคร ตอนแรกก็คิดว่าน่าจะหูแว่วไปเอง บวกกับเสียงฝนตกด้วย จึงตัดสินใจเปลี่ยนไปนั่งบนรถจักรยานยนต์ พอนั่งไปอีกสักพักก็ได้ยินเสียงผู้ชายกับผู้หญิงคุยกันและมีเสียงเด็กหัวเราะอยู่บนหลังคาศาลา ก็แหงนดูหลังคาและหันมองรอบๆ ก็ไม่เห็นมีใคร ก็คิดว่าอาจจะเป็นเสียงในโทรศัพท์แต่พอล้วงดูโทรศัพท์ก็ปิดเครื่องไปแล้วก่อนหน้านี้ จึงเชื่อว่าเจอผีหลอกแน่นอน ทั้งที่ส่วนตัวก็ไม่ได้เชื่อเรื่องผี แต่พอเจอแบบนี้ก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน แต่นาทีนั้นก็รีบถอยรถจักรยานยนต์ ขับออกจากศาลาทันทีทั้งที่ฝนยังไม่หยุดตก
ผู้กองเฉลา ยังบอกอีกว่า ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องผีแต่ก็ไม่ได้ลบหลู่ เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่ได้ยินเสียงวันนั้นคืออะไร ส่วนที่โพสต์เรื่องราวในเฟซบุ๊ก แค่อยากสอบถามเพื่อนๆว่าสิ่งที่เจอคืออะไรกันแน่ แต่เพื่อนก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนชาวบ้านจะหามศพคนตายมาพักไว้ที่ศาลาดังกล่าว ก่อนจะเอาไปเผาหรือทำพิธีฝังในหมู่บ้าน แต่ปัจจุบันนี้ศาลาได้ซ่อมแซมใหม่แล้ว จากเหตุการณ์ที่เจอภรรยา และเพื่อนๆ ก็แนะนำให้ทำบุญถวายสังฆทานเพื่ออุทิศส่วนกุศล แม้จะไม่เชื่อเรื่องผีสางก็ตาม
จากการสอบถามนางประทีป ยอดกล้า อายุ 52 ปี ชาวบ้านบ้านบัวตารุ่ง เล่าว่า ส่วนตัวเชื่อว่าสิ่งที่ตำรวจเจอนั้นอาจจะเป็นวิญญาณคนตาย เพราะที่ผ่านมาบริเวณศาลาก็เคยเกิดอุบัติเหตุมีคนเสียชีวิตหลายคน และเคยเป็นศาลาพักศพเวลาที่แห่จะเอาศพไปเผาหรือฝังในหมู่บ้านก็จะพักไว้ที่ศาลาก่อน ที่ผ่านมาก็เคยมีคนที่ขับผ่านศาลาตอนกลางได้ยินเสียงแปลกๆ และเห็นผู้หญิงยืนข้างทางบ้าง จนบางคนไม่กล้าออกไปตอนกลางคืน โดยเฉพาะตัวเองไม่เคยออกไปไหนตอนกลางคืนเลยเพราะกลัว ประกอบกับบริเวณศาลาค่อนข้างเปลี่ยวและไม่มีไฟส่องสว่างด้วย เรื่องดังกล่าวเป็นความเชื่อส่วนบุคคล เพราะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่ไม่เชื่อก็ไม่ควรหลบหลู่