ไทยเตรียมประกาศเป็นผู้ผลิตอาหารปลอดภัยดีที่สุดในโลก

ไทยเตรียมประกาศเป็นผู้ผลิตอาหารปลอดภัยดีที่สุดในโลก

ไทยเตรียมประกาศเป็นผู้ผลิตอาหารปลอดภัยดีที่สุดในโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ในระหว่างวันที่ 17-18 กันยายนนี้ กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับสภาธุรกิจไทย-สหภาพยุโรปและคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ประกอบด้วย สภาหอการค้าไทยแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทยจัดประชุมสัมมนาครั้งใหญ่ เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและประเทศในยุโรป ตลอดจนการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการแสดงความพร้อมศักยภาพของไทยในด้านการสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากประเทศยุโรปต่อการค้าและการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ใหม่มากขึ้น จึงได้จัดงาน Thai-European Forum : “Deepening and Widening Business Relations” ณ ห้องรอยัลจูบิลี ชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี

ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และเอกอัครราชทูตจากประเทศในยุโรป ประจำประเทศไทยเข้าร่วมการประชุมสัมมนาในครั้งนี้ ที่สำคัญนายกรัฐมนตรีของไทยจะใช้เวทีดังกล่าวประกาศแนวทางนโยบายส่งเสริมผลักดันอุตสาหกรรมอาหารของไทยเป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมและมีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นศูนย์กลางต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารในภูมิภาคนี้ และสามารถป้อนอาหารไทยสู่ตลาดโลก รวมถึงจะประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้ว่าอาหารไทยมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค (Food Safety)

นอกจากนี้ ในงานสัมมนายังจะได้มีการพูดถึงการบริหารจัดการด้านการขนส่ง (Logistics Management) พลังงานทดแทน (Alternative Energy) การขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-ยุโรป กฎระเบียบของยุโรป และการจัดแสดงนิทรรศการ ประกอบไปด้วย การประชาสัมพันธ์การค้าการลงทุนโดยสถานเอกอัครราชทูตที่เข้าร่วมงาน พร้อมทั้งการแสดงสินค้าและข้อมูลของบริษัทรายใหญ่ในยุโรป ตัวอย่างของบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจระหว่างไทยและยุโรป การประชาสัมพันธ์และเปิดตัวสภาธุรกิจไทย-ยุโรป (Thai-EU Business Council) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เป็นตัวแทนภาคเอกชนทั้งจากไทยและยุโรป ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้น เร่งรัดสหภาพยุโรปให้เร่งแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างไทย-ยุโรป ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีการแสดงสินค้าในภาคต่าง ๆ ของไทยที่มีศักยภาพไปยังต่างประเทศ ภายใต้โครงการยุทธศาสตร์เชื่อมโยงการค้าในประเทศสู่สากล (Local to Global) โดยกระทรวงพาณิชย์ การแสดงสินค้าจากภาคเอกชน และยังเปิดโอกาศให้นักธุรกิจ นักลงทุน และกลุ่มผู้ค้าจากทั้งไทยและยุโรปได้มาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจซึ่งกันและกัน ซึ่งได้รับความร่วมมืออันดีจากทูตานุทูต และหอการค้าของยุโรปในประเทศไทย กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) 20 กลุ่มประเทศสมาชิก EFTA (European Free Trade Agreement) 2 ประเทศ และผู้แทน คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย รวม 23 สถานทูต.-สำนักข่าวไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook