เย้ยเสื้อแดงท่อน้ำเลี้ยงตันเหตุเลื่อนชุมนุม

เย้ยเสื้อแดงท่อน้ำเลี้ยงตันเหตุเลื่อนชุมนุม

เย้ยเสื้อแดงท่อน้ำเลี้ยงตันเหตุเลื่อนชุมนุม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เทพไท เย้ย เสื้อแดงเลื่อนชุมนุมไป 5 ก.ย. รวมมวลชนไม่ได้ ท่อน้ำเลี้ยงตัน ระบุ ถึงเวลาเสื้อแดงต้องทบทวนบทบาท โต้ ชัยสิทธิ์ ท้าปชป.โชว์หลักฐาน ยิ่งลักษณ์ เอี่ยวต้นตอคลิป อย่าท้า ปชป. เตรียมตัวแสดงหลักฐานตำรวจดีกว่า

(29ส.ค.) ที่อาคารรัฐสภา เวลา 11.00 น. นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัว นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกฯและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีที่แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เลื่อนการชุมนุมใหญ่วันที่ 30 ส.ค.นี้ ออกไปเป็นวันที่ 5 ก.ย.ว่า จากข่าวที่ออกมาจากคนเสื้อแดงเมื่อเวลา 10.50 น.เลื่อนการชุมนุมออกไปนั้นสามารถวิเคราะห์ได้ว่า เจตนาการชุมนุมไม่บริสุทธิ์ หากบริสุทธิ์ควรชุมนุมโดยสงบภายใต้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ที่รัฐบาลประกาศ ขณะที่รัฐบาลก็จะดูท่าทีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงอีกครั้ง ว่าจะต้องมีการประกาศ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯอย่างไรต่อไป และจากการเลื่อนดังกล่าวประเมินว่า มวลชนที่สนับสนุนการชุมนุมอาจมีจำนวนไม่มากเท่าที่ควร เพราะการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ผ่านมาไม่เป็นที่ยอมรับ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีนายกรัฐมนตรี ก็โฟนอินไปยังสถานที่ต่างๆ ไม่เห็นด้วยที่มวลชนจะออกมาร่วมชุมนุม และเป็นไปได้หรือไม่ท่อน้ำเลี้ยงของคนเสื้อแดงเกิดอุดตัน ไม่ไหลลื่นเหมือนการชุมนุมที่ผ่านมา

"ไม่ว่าจะเลื่อนวันไหนก็ตาม สังคมก็ไม่สนับสนุนการเคลื่อนไหวทางการเมือง ดังนั้นนอกจากการทบทวนเลื่อนวันชุมนุมแล้ว แกนนำคนเสื้อแดงควรทบทวนยุติการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไปด้วย" นายเทพไท กล่าวและว่า คนเสื้อแดงอย่าพยายามกวนน้ำให้ขุ่น เพราะจากการประชุมสภางบประมาณรายจ่าย ปี 2553 ฝ่ายรัฐบาลได้เสียง 244 เสียง

นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีปัญหาการเผยแพร่คลิปเสียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการสั่งการใช้กำลังความรุนแรงในการควบคุมการชุมนุมช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาว่า ที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ออกมาตอบโต้พรรคประชาธิปัตย์ ระบุถึงต้นตอการเผยแพร่คลิปเสียงนายกรัฐมนตรี ที่โยงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณเกี่ยวข้องและยังท้าทายให้พรรคประชาธิปัตย์ นำหลักฐานออกมายืนยันนั้น ที่ผ่านมาพรคประชาธิปัตย์ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า มีการส่งคลิปเสียงจากอีเมล์บริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นผู้บริหาร แต่ไม่ได้ระบุผู้เผยแพร่ คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดังนั้นก็ควรมีการตรวจสอบ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ คงไม่ต้องนำหลักฐานมายืนยัน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องท้าทายให้พรรคประชาธิปัตย์นำหลักฐานมายืนยัน แต่ขอให้เตรียมตัวที่จะนำหลักฐานไปแสดงกับเจ้าหน้าที่กองปราบดีกว่า

นายเทพไท กล่าวด้วยว่า กรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าเรื่องคลิปเสียงเป็นการออกมาเพื่อสร้างคะแนนนิยม เพราะคะแนนิยมในตัวนายอภิสิทธิ์ ตกต่ำนั้น ยืนยันว่ารัฐบาล และนายอภิสิทธิ์ สร้างคะแนนนิยมจากผลงานการบริหาร จึงคิดว่ารัฐบาลไมจำเป็นต้องทำคลิปเสียงสร้างคะแนนิยมอย่างนั้น ถ้าจะสร้างคะแนนนิยมแล้วเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย เป็นการสร้างคะแนนนิยมด้วยหรือไม่ ซึ่งพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการทำลายชาติ

ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเผยแพร่คลิปเสียงว่า หากยังมีการเผยแพร่คลิปเสียงนายกรัฐมนตรี ที่ตรวจสอบซึ่งนักวิชาการหลายฝ่ายว่าเป็นการตัดต่อแล้ว ด้วยการส่งต่อผ่านทาง e-mail และในอินเตอร์เน็ท บุคคลนั้นย่อมมีความผิดต้องรับโทษ ตาม พ.ร.บ.การกระทำคอมพิวเตอร์ ขณะที่ซีดีนั้นก็ได้สั่งเก็บเพื่อยุติการเผยแพร่ด้วย

ขณะที่นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัวสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อ้างว่าต้นตอการเผยแพร่คลิปเสียงมาจากคนในกองทัพ ว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับคนในกองทัพ ได้รับการยืนยันว่าไม่มีวันที่กองทัพจะกระทำการดังกล่าว ทั้งนี้ ขอตั้งข้อสังเกตว่า การเผยแพร่คลิปคนที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดเป็นใคร เพราะหารือกับฝ่ายกองทัพยืนยันว่าไม่ได้ทำซีดีนี้ และเมื่อดูจากขั้นตอนการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง พบว่ามีการแบ่งรับลูกเล่นกัน ซึ่งพฤติกรรมนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกโดยช่วงสงกรานต์กลุ่มเสื้อแดงมีความพยายามสร้างสถานการณ์ขยายความรุนแรงโดยสร้างศพจากน้ำลายจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ในที่สุดก็ชัดเจนว่าผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดคือกลุ่มสีเสื้อบางสี การเมืองบางกลุ่ม

ด้านนายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากขั้นตอนการเคลื่อนไหวเห็นว่าเป็นการสร้างสถานการณ์สอดคล้องกับการนัดชุมนุมใส่ชุดดำเมื่อวันที่ 26 ส.ค. จากนั้นจึงนัดหมายรวมตัวใหญ่ 30 ส.ค.นี้ โดยมีกลุ่ม ส.ส.บางกลุ่ม พยายามนำคลิปเสียงตัดต่อเผยแพร่ในสภาระหว่างการอภิปรายการประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2553 มีการแบ่งทำงานเป็นขั้นตอน แต่ก็ถูกตัดตอนเสียก่อน จึงเป็นที่มาของคลิปเสียงตัดต่อดังกล่าว และเกิดแรงสวิงที่มีคำถามกลับสู่กลุ่มของสื้อแดงเอง และที่สุดเลื้อแดงจึงยกเลิกกการชุมนุม ขณะที่ตลอดการประชุม 3 วัน 2 คืนในการอภิปรายพรรคร่วมรัฐบาลมีเอกภาพ รวมพลังเหนียวแน่น โดยเหตุการณ์ต่างๆ ไม่สามารถเสี้ยมพรรคร่วมรัฐบาลแตกคอ จนถึงล้มรัฐบาลได้ตามแผนที่วางไว้ และการลงเสียงมติ ใน 34 มาตรา ของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเอกภาพตลอด จึงเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าการทำงานรัฐบาลยืนยันไม่มีการยุบสภา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook