"บุ๋ม ตรีรัก" แฉเพื่อนรัก "เอ้ ชุติมา" เธอคนนี้คือสายเปย์ตัวแม่ของวงการบันเทิง

เป็นเพื่อนคู่ซี้ที่มิตรภาพยังเหนียวแน่นมาโดยตลอด สำหรับคู่ของสองสาวแซ่บ บุ๋ม-ตรีรัก รักการดี และ เอ้-ชุติมา นัยนา ที่เรียกได้ว่าไม่เคยมีความลับต่อกันเลยสักเรื่องในชีวิต ล่าสุด ทั้งคู่ได้มาเยือน รายการต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ในชุดที่เรียบๆ แต่ดูเผ็ดแซ่บตามสไตล์ ที่นอกจากจะมาคุยอัปเดตเรื่องงานแล้ว งานนี้ เอ้ ก็ได้ถูกเพื่อนซี้แฉกลางรายการว่าเมื่อก่อนตอนที่งานล้นมือ เงินฟูฟ่าช่วงนั้น เอ้ ขึ้นแท่นสายเปย์ ตัวแม่ตัวจริงเลย เพราะถ้ารักใครถึงขั้นกับแจกรถ แจกบ้าน คว้าเงินจ่ายแบบทุ่มไม่อั้น 

บุ๋ม : "เอ้ เหรอ สายเปย์ตัวแม่เลย เปย์ทุกอย่างเวลานางรักใคร คือ นางเปย์หมด (แต่เป็นในสมัยก่อนนะคะ ) ไม่ใช่คนปัจจุบัน เดี๋ยวๆต้องบอกไว้ก่อนเดี๋ยวเข้าใจผิด เมื่อสมัยก่อน คือ เปย์หนักมาก"

เอ้ : "สารภาพค่ะ ว่าใช่ เมื่อก่อนนะคะ เมื่อก่อนตอนที่เราฮอตมากๆเราก็อยากให้แฟนเราสบายเนอะ คือ เอ้ กับ บุ๋ม เราทั้งคู่เป็นเสือปืนไว แล้วเราไปกินอะไร แล้วเขามาเก็บเงินเราก็รีบควักก่อนเลย แมนไงๆ" 

ถ้าไปกับผู้หญิงจ่ายไหม

เอ้ : "ช่วยกันแชร์ ไม่จ่าย แต่คืองี้ ถ้าไปกับผู้หญิง เราจะต้องแชร์ หรือแบบใครพกเงินมาน้อยเราก็จ่ายแทนได้หมด" 

เปย์ให้ถึงขนาดซื้อรถให้เลยไหม

เอ้ : "สมัยก่อนๆ คือ ไม่ใช่เอ้ คนเดียว บุ๋ม ก็ด้วยคือนิสัยเหมือนกันมาก คือใครที่เข้ามาจีบ เขาจะรู้เกียรติศักดิ์มากว่าสองคนนี้เป็น เสือปืน ไว คือเราไม่คิดมาก ของใหญ่กับแฟนเราก็ซื้อให้ได้อย่างเป็นรถเป็นอะไรแบบนี้ ของชิ้นใหญ่ๆเราก็ซื้อให้ได้กับแฟนเมื่อก่อนนะคะ" 

เคยนับไหมว่าที่เราเปย์ไปเท่าไหร่

เอ้ : "นับไม่ได้ค่ะ ไม่ใช่ไม่นับ แต่ไม่กล้านับ เพราะเรามีสิ่งดีๆให้กัน เราก็เคยถามบุ๋มว่าทำไมต้องให้เขาขนาดนี้ทั้งรถ ทั้งบ้าน เราทั้งคู่ก็มานั่งจับเข่าคุยกันหลังๆว่าเราทั้งสองคนคงต้องหยุดแล้วล่ะ เพราะเราไม่เห็นได้สิ่งดีๆกลับคืนมาเลย"

เอ้ : "จะบอกว่า บุ๋ม เปย์เร็วกว่า เอ้ อีก เพราะอย่างเรายังคิดแล้วคิดอีก รถให้เข้าจะดีไหม จะเบิกเงินให้เอ้ ยังคิดแล้วคิดอีก"

บุ๋ม : "คือเมื่อก่อนเราดังมา เงินก็เข้ามาเยอะ อย่างเราไปซื้อของแบรนด์โน้น นี่ แล้วข้างๆเราไม่มี เราก็อ้าว !! จะเอาอะไรล่ะ ซื้อให้ๆ อย่างจะไปต่างจังหวัดกัน ซื้อตั๋วเครื่องบินให้ ค่าโรงแรมออกไปก่อน ถามว่าได้คืนไหม ไม่ได้คืนค่ะ"

บุ๋ม : "แต่ตอนนี้ไม่เป็นแล้วค่ะ เข็ดแล้ว พี่ฉลาดแล้วค่ะ"

เอ้ : "ฉลาดมากแล้วค่ะ ตอนนี้ไม่กินหญ้าแล้วค่ะ กินข้าว ตอนนี้เราอยู่กับแฟนคนปัจจุบันเราแบบ บุฟเฟต์ไง กับ ฟรองค์ เราแชร์กันค่ะ เพราะน้องเข้าวงการแล้ว เราจะไม่สอนให้น้องเป็นเหมือนคนเก่าๆที่เราผ่านมา"

แล้วบ้านที่อยู่ปัจจุบันนี้กับฟรองค์ใครจ่าย

เอ้ : "คอนโดค่ะ ซื้อด้วยกัน รถก็เงินใครเงินมันซื้อค่ะ"

ถึงตอนนี้เลือกเปย์แล้ว แต่ยังคงสร้างเครือข่ายกับหนุ่มๆผู้ชายอยู่จริงไหม 

บุ๋ม : "จริงๆ เอ้ เขาเป็นเสือซ่อนเล็บ เขาอยู่ชอบสร้างเครือข่ายจากเราแบบว่า พี่ๆน้องๆ คือ เขาเป็นคนที่คอนเนชั่นเยอะมาก เขาเป็นคนทำมาหากินเก่ง"

คือเป็นคนหาคอนเนชั่นเก่ง

บุ๋ม : "คือ พูดตรงๆ เลยนะ เอ้ เป็นคนไม่ชอบจัดการ คือ เอ้ เขาจะโยนมาให้เราจัดการ คืออย่างที่เราทำสบู่สู้โควิดด้วยกัน เอ้ รู้จักคนเยอะ เอ้ ก็จะโยนมาให้เราจัดการทุกอย่าง เครือข่ายเขาเยอะมากเลย"

บุ๋ม : "คนอาจจะมองว่า เอ้ ขี้เล่น แต่เขาเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เพราะเขาเป็นคนที่คิดคำนวณมาแล้วว่าเวลาคุยกับคนนี้ จะไปต่อยอดยังไง รู้จักกับคนนี้จะช่วยอะไรเราได้บ้าง  ถึงได้ใช้คำว่า เสือซ่อนเล็บ ถ้า เอ้ ไม่เก่ง เขาคงมาไม่ถึงจุดนี้"

เอ้ : "เราทำสบู่ กับ บุ๋ม แล้วก็กับเพื่อนๆอีก 10 คน เราก็มานั่งคุยกัน ว่าเราอยากทำสบู่ช่วยคุณหมอ คุณพยาบาล เราก็ออกตัวเลยว่าเราไม่เก่งเรื่องเอกสาร จะให้เราส่งรายละเอียดพวกนี้เราไม่ถนัดนะ แต่ บุ๋ม จะเก่งมากเรื่องพวกนี้ แต่เราสามารถหาคอนเนชั่นโรงงานดีๆที่ผลิตเจลดีๆแบบนี้เราถนัด โดยเป็นสปอนเซอร์มาร่วมแบบนี้โอเค" 

คือต่างคนต่างถนัดคนละแบบเลยมาร่วมกันได้

เอ้ : "ใช่ค่ะ"

เอ้ : "เราจะมีกฎกันอยู่ 2 อย่าง อันแรกเลย เรื่องส่วนตัวของเพื่อนที่มันลึกมาก ที่มันไม่สมควร ให้คนทั้งประเทศไทยรู้ นักข่าวรู้เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องที่เราเคยบอบช้ำมา เราจะไม่ย้ำคิดย้ำทำเราจะไม่ตอกย้ำเพื่อน จะไม่มีใครได้ยินจากปากเอ้ หรือ บุ๋มเลย ความลับจะตายไปกับเราสองคน เราจะไม่แทงข้างหลังกัน เราจะพูดเลยว่า บุ๋ม ถ้าแกได้ยินใครพูดอะไรแกมาถามฉันตรงๆนะ ถ้าฉันผิดฉันจะยกมือขอโทษ ถ้าฉันทำผิด แต่ถ้าฉันไม่ผิดฉันจะไม่ยอมนะ" 

แล้วพี่บุ๋มประทับใจอะไรพี่เอ้

บุ๋ม : "เอ้เขาเป็นคนจริงใจ มองโลกดีกว่าพี่อีก เอ้ เป็นคนที่ว่าทุกคนดีหมดก่อน แต่พี่ไม่ใช่ พี่จะเป็นคนที่ว่า ตัวเองระวังตัวก่อนนะ เดี๋ยวเสียใจอีกนะ เพราะความที่เราเป็นห่วงเพื่อนอย่างที่เรากลับมาจากต่างกประเทศแล้วรู้ว่า เอ้ กำลังคบเด็กที่อายุห่างกันมากๆคือเราเลิกกินเด็กแล้วเราก็ห่วงเพื่อนเรา" 

เอ้ : "ใช่ๆ ตอนที่เขากลับมาไทย แล้วเขารู้ว่าเราคบ ฟรองซ์ เขามาถามเราใหญ่เลยว่าเป็นใครยังไงถามทุกอย่าง เขาสกรีนให้เราทุกอย่างเพราะเขาห่วงเรา เขาเรียก ฟรองซ์ มาคุยส่วนตัวด้วยว่าอย่าหลอกเพื่อนพี่นะ บุ๋ม เขาเรียกมานั่งคุยเลยเป็นชั่วโมงๆ"

บุ๋ม : "ใช่ค่ะ เพราะเราไม่อยากให้เพื่อโดนหลอก แต่พอเราได้คุยกับฟรองซ์ เราเรียกเขามานั่งคุยแบบจ้องหน้าจ้องตาเลยแล้วเขาก็จ้องเรากลับด้วยนะ ถ้าคนไม่จริงใจเขาจะไม่กล้าสู้สายตาเรา แต่พอเขาสู้เรา ได้คุยด้วย เราก็โอเคผ่าน"

นอกจากจะเป็นเพื่อนซี้ที่รักกันมากรู้ทุกอย่างในชีวิตของกันและกันแล้ว คู่นี้ ยังคอยดูแลห่วงใย ไม่เคยทิ้งกันคอยให้กำลังใจ และให้คำปรึกษากันอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่า บุ๋ม เอ้ คือ แบบอย่างเพื่อนแท้ที่ขอยกให้เป็นแบบอย่างอีกคู่ ติดตามชมคลิปย้อนหลังของเพื่อนรักคู่นี้ได้ใน รายการต้มยำอมรินทร์