จอย ศิริลักษณ์ โร่แจ้งตร.สงสัยรถถูกสวมทะเบียน

จอย ศิริลักษณ์ โร่แจ้งตร.สงสัยรถถูกสวมทะเบียน

จอย ศิริลักษณ์ โร่แจ้งตร.สงสัยรถถูกสวมทะเบียน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แจ้งความร้องทุกข์ว่ารถถูกสวมทะเบียนแล้วนำไปขับฝ่าไฟแดง ที่แยกนิด้า จนถูกตำรวจจราจรออกหมายเรียกไปที่บ้านให้ไปเสียค่าปรับ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 29 ส.ค. น.ส.ศิริลักษณ์ ผ่องโชค หรือ จอย อายุ 32 ปี ดารานักร้อง นักแสดงชื่อดัง เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.วรวิทย์ วรรณา พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.วังทองหลาง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่ารถของตนถูกสวมทะเบียนแล้วนำไปขับฝ่าไฟแดง ที่แยกนิด้า จนถูกตำรวจจราจรออกหมายเรียกไปที่บ้านให้ไปเสียค่าปรับในข้อหาขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง

น.ส.ศิริลักษณ์ กล่าวว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ตนไปถ่ายละครที่ปากช่อง จ.นครราชสีมา และที่ย่านรังสิต จากนั้นก็ได้ขับรถกลับมาที่บ้านพักย่านลาดพร้าว ก่อนมาเปิดตู้จดหมายดูก็พบหนังสือจาก กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.02) จ่าหน้าซองถึงตน เมื่อเปิดอ่านดูก็พบว่าเป็นหมายเรียกให้ไปเสียค่าปรับฐานขับรถฝ่าไฟแดง โดยในรายละเอียดหมายเรียกนั้น มีข้อความและรูปถ่ายรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง หมายเลขทะเบียน ศอ-6000 กทม. ขณะกำลังขับฝ่าไฟแดงบริเวณแยกนิด้า ถนนเสรีไทย แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. เวลา 10.28 น. วันที่ 16 ส.ค.52

เมื่อเปิดดูก็พบว่า ในวันและเวลาที่เกิดเหตุตนไม่ได้ขับรถคันดังกล่าวไปเส้นทางนั้นเลย หลังจากนั้นตนจึงตรวจสอบรายละเอียด รถก็พบว่ามีลักษณะเหมือนกับรถตน แต่จะมีจุดที่ผิดสังเกตหลายจุดที่เห็นชัดคือ ตรงแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งของตนแผ่นป้ายทะเบียนหมวดอักษรและตัวเลขตรงกัน แต่ต่างกันตรงที่ทะเบียนรถในหมายเรียกเป็นป้ายทะเบียนสีขาว และมีกรอบล้อมรอบแผ่นทะเบียน ส่วนของตนเป็นป้ายทะเบียนลายกราฟฟิก ไม่มีกรอบ ส่วนรถของตนมีเสาอากาศบนหลังคาแต่ในรูปไม่มี ไฟท้ายก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งของตนเองเป็นชุดแต่งของญี่ปุ่น นอกจากนี้ตัวอักษรรุ่นยาริส ตนได้เปลี่ยนเป็นอักษรรุ่นวิท witz แล้ว

"ครั้งแรกที่ได้รับหมายเรียกรู้สึกตกใจเหมือนกัน และยังสับสนว่าไปขับฝ่าไฟแดงตอนไหน แต่หลังจากตรวจดูรูปอย่างละเอียดแล้วพบว่ารถคันที่ขับฝ่าไฟแดงไม่ใช่รถจอยแน่นอน อาจเป็นไปได้ว่ากรอบแผ่นป้ายทะเบียนอาจจะไปบดบังตัวหมวดอักษรทำให้ดูเพี้ยนไปก็ได้ จึงมาขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งในเรื่องค่าปรับจอยไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว แต่อยากให้เป็นบรรทัดฐานว่า หากใครที่มีหมายเรียกส่งมาที่บ้านขอให้ตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน เพราะมันเป็นสิทธิของเรา" น.ส.ศิริลักษณ์ กล่าว

ด้าน ร.ต.ท.วรวิทย์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้ผู้เสียหายลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อน และจะให้ผู้เสียหายนำเอกสารการแจ้งความและรายละเอียดต่างๆ ไปตรวจสอบและยืนยันอีกครั้ง ที่กองบังคับการตำรวจจราจร บก.02 เพื่อดำเนินการต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook