WHO เตือน “การ์ดอย่าตก” หลังพบ “ไวรัสไข้หวัดหมู” สายพันธุ์ใหม่ในจีน
โฆษกขององค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงเตือนให้ประชาชนระมัดระวังตัวเอง หลังมีการพบเชื้อไวรัสไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่ในโรงฆ่าสัตว์ในประเทศจีน ท่ามกลางสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร American journal Proceedings of the National Academy of Sciences เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นถึงสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดหมู ที่มียีนที่เรียกว่า G4 ซึ่งทำให้เชื้อไวรัสตัวนี้มีโอกาสพัฒนาเป็นโรคระบาดใหญ่ได้ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนมองว่าเชื้อดังกล่าวยังไม่มีโอกาสที่จะเป็นภัยคุกคามในเร็ววันนี้ แต่นักชีววิทยาชาวจีนที่ทำการวิจัยก็ได้เตือนว่า ควรมีการเฝ้าระวังในหมู่ประชากรมนุษย์อย่างใกล้ชิดและเร่งด่วน โดยเฉพาะกลุ่มคนงานในอุตสาหกรรมสุกร
ด้านคริสเตียน ลินด์ไมเออร์ จากองค์การอนามัยโลก ก็ระบุว่า จะมีตรวจสอบงานวิจัยเกี่ยวกับโรคไข้หวัดหมูชนิดนี้อย่างละเอียด และจำเป็นต้องมีการสร้างความร่วมมือในการศึกษาวิจัย รวมทั้งการเฝ้าระวังประชากรสัตว์อย่างใกล้ชิด
“ขอเน้นย้ำว่าเราไม่ควรการ์ดตกในขณะที่มีการระบาดของโรคไข้หวัด และจำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในสถานการณ์การระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนาก็ตาม” ลินด์ไมเออร์กล่าว
นักวิจัยชาวจีนได้วิเคราะห์ตัวอย่างที่เก็บจากจมูกของหมูในโรงฆ่าสัตว์ จำนวน 30,000 ตัวอย่าง ในช่วงปี 2011 – 2018 และพบสายพันธุ์ไวรัส H1H1 ซึ่งก่อให้เกิดโรคไข้หวัดหมู ที่ระบาดใหญ่ในปี 2009 นอกจากนี้ ในงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในจีน 2 แห่ง ร่วมกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน และมหาวิทยาลัยน็อตติงแฮม พบว่า คนงานในฟาร์มหมูมีระดับเชื้อไวรัสในเลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถเพิ่มโอกาสให้เชื้อไวรัสสามารถปรับตัวเข้ากับร่างกายมนุษย์ และนำไปสู่การระบาดใหญ่ได้
นอกจากนี้ งานวิจัยดังกล่าวยังชี้ว่า หมูเป็นพาหะผสมที่สำคัญของเชื้อไวรัสไข้หวัด และจำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังโรคนี้ในสัตว์อย่างเป็นระบบ เพื่อการเตือนภัยและการเตรียมการล่วงหน้า สำหรับการระบาดใหญ่
ด้านโฆษกของกระทรวงการต่างประเทศของจีน ก็ได้แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า รัฐบางมีการติดตามความคืบหน้าที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด และจะใช้มาตรการที่จำเป็นในการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัส ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม