รักครั้งใหม่ของ พิ้งกี้
พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช เคืองข่าวสัมพันธ์ สงกรานต์ เตชะณรงค์ เจอโจมตีว่าดี๊ด๊า-จับไฮโซ ยันยืนเองได้ไม่เกาะใคร วอนสื่ออย่าตั้งแง่
กำลัง มีผลงานละครเรื่อง "วงเวียนหัวใจ" ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องฉากเลิฟซีนกับ "เวียร์"ศุกลวัฒน์ คณารศ แถมข่าวรักร้างกับ "อั้ม" อธิชาติ ชุมนานนท์ ยังไม่ทันจางหาย โมงยามนี้ นางเอกสาว "พิงค์กี้" สาวิกา ไชยเดช ยังมีกระแสข่าวที่หลายคนพูดถึงอยู่ในขณะนี้มากที่สุด นั่นก็คือเรื่องความรักครั้งใหม่กับไฮโซหนุ่ม สงกรานต์ เตชะณรงค์ ทายาทเจ้าของโบนันซ่า เขาใหญ่ นั่นเอง
กลายเป็นสาวฮอตร้อนแรงขนาดนี้ ทั้งเรื่องงาน เรื่องความรัก "บันเทิง คม ชัด ลึก" เลยขอคว้าตัวเธอมาเปิดอกอย่างหมดเปลือก...ว่าแล้วมากะเทาะหัวใจของเธอกัน เลย...
* เรื่องงานในวงการบันเทิง
กระแสตอบรับจากละครเรื่อง 'วงเวียนหัวใจ' เป็นอย่างไรบ้าง
ดีมากนะ เวลาไปไหนจะมีแต่คนเรียกว่าโบว์ ถามว่ามันแรงในเรื่องตบจูบไหม กี้ว่ามันไม่ได้แรง แต่ด้วยเนื้อเรื่องมันแรง คนในอินเทอร์เน็ตก็เลยพูดถึงเยอะ คือส่วนใหญ่เขาก็จะชอบกัน
เรื่องนี้มีจูบจริงกับ เวียร์ ศุกลวัฒน์ ด้วย
มันเป็นเรื่องปกติ เราเป็นนักแสดงก็ต้องทำงานให้เต็มที่ แล้วอีกอย่าง บทมันก็มีเหตุมีผล คือจริงๆ ด้วยความเป็นละคร มันก็ไม่มีอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ต้องบอกก่อน ว่าการที่มีฉากแบบนี้ขึ้นมา เราไม่ได้ทำเพื่อดึงเรตติ้ง คือละครไทยมันไม่มีอะไรมากไปกว่านี้หรอก การจูบก็ถือว่าเยอะแล้ว สำหรับละครไทย มันทำไปไม่ได้มากกว่านี้แล้ว เพราะด้วยวัฒนธรรมไทยของเราด้วย
มีข่าวว่าแม่ถึงกับสั่งคัตเองเลยกับฉากจูจุ๊บ
(หัวเราะ) มันเป็นเรื่องแซวๆ กันมากกว่า ตอนที่ถ่ายฉากนั้นแม่เขาดูมอนิเตอร์อยู่ แต่พอถ่ายๆ อยู่ แม่เขาก็เลยสั่งคัตเล่นๆ เสียงมันก็เลยเข้าไปในมอนิเตอร์พอดี ก็แค่นั้นเอง จริงๆ แม่เขาก็ไม่ได้ห้ามให้ถ่ายฉากแบบนี้ เพราะมันเป็นงาน แล้วเราก็โตแล้วอายุ 23 ปีแล้ว
หลังจากนี้จะมีงานอะไรให้ได้เห็นอีก ก่อนจะเดินทางไปถ่ายหนังที่ประเทศอินเดียในเดือนกันยายน
คือเรื่องไปอินเดีย น่าจะไม่เกินปลายปีนี้แน่นอน ตอนนี้ละคร "วงเวียนหัวใจ" ปิดกล้องไปแล้ว ผู้ใหญ่ให้งานละครมาอีกเรื่อง ก่อนจะไปถ่ายหนังที่อินเดีย
ณ ตอนนี้คิดว่าตัวเองเป็นนักแสดงที่มีฝีมือแล้วหรือยัง
กี้ก็ถือว่าเราสะสมประสบการณ์มาบ้างแล้ว และได้การยอมรับ ถามว่าเป็นมืออาชีพไหม กี้อยากให้ประชาชนเขาพูดดีกว่า เราอยู่วงการมานาน 12 ปี กี้มองว่าเป็นอาชีพหนึ่ง ที่เราไม่ได้ฉาบฉวย เวลาเราเล่นเราก็ตั้งใจ ทุ่มเท ไม่ได้เล่นเอาแค่เงินอย่างเดียว แล้วเราก็รู้สึกภูมิใจที่คนดูแล้วชื่นชมเรา
กับคำว่า 'นางเอก' ตอนนี้ยังรู้สึกกดดันอยู่ไหมที่ถูกจับตามองในทุกๆ เรื่อง
ถึงแม้เราจะเป็นนางเอกมาหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองเป็นดาราด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อคนตอบรับเรา กี้ก็เหมือนกับทุกคน เพียงแต่สังคมให้เราเป็นนางเอก ให้เราเป็นตัวนั้นตัวนี้
ผ่านงานละคร งานภาพยนตร์ ถ่ายแบบ เดินแบบ ยังมีงานอะไรที่อยากทำอีกไหม
คงจะเป็นงานดีเจ พิธีกร แต่คงทำไม่ได้หรอก (หัวเราะ) เพราะกี้รู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวเรา ยอมรับว่ามันเป็นงานที่ท้าท้าย ถามว่ามีทาบทามมาบ้างไหม ก็มีขำๆ มาถามว่าลองทำไหม คือให้พากย์เสียง อาดาว (ดวงดาว จารุจินดา) แนะนำให้ไปลองดู ก็ถือว่าเป็นงานที่ท้าทาย ถามว่ากี้อยากทำไหม ก็อยากทำนะ เพราะมันก็เป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่น่าลอง แต่ตอนนี้ยังไม่มีเวลาไปลองทำดูเลย ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองบ้างเหมือนกัน
อยู่วงการมา 12 ปี ข่าวไหนที่คิดว่าแรงที่สุดสำหรับพิงค์กี้
ไม่มี...เพราะไม่เคยอ่านหนังสือพิมพ์ ถ้าเขาเขียนดี กี้ก็รับฟัง แต่ถ้าเขียนแล้วแตกคอกัน กี้จะไม่เอามาใส่สมอง เพราะที่ผ่านมาเราพูดความจริง ใครจะใส่อะไรกี้ไม่สนใจ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นยังไง เราพูดอะไรไป เราไม่ใช่คนโกหก เป็นคนเปิดเผย คือที่ไม่อ่านข่าวเลย เพราะกี้ปล่อยวางด้วย แต่ก็มีคนมาเล่าให้ฟังว่ามีข่าวโน้นข่าวนี้นะ อาจจะเป็นเพราะกี้เป็นคนไม่คิดอะไรมากด้วยมั้ง
เวลาเจอข่าวแรงๆ พิงค์กี้ได้กำลังใจจากใคร
กี้ให้กำลังใจตัวเอง มีพ่อแม่ พี่น้อง คือคนรอบข้างเข้าใจก็พอแล้ว ไม่คิดมาก
* เรื่องความรักครั้งใหม่
ถูกจับตามองความรักครั้งใหม่กับไฮโซหนุ่ม สงกรานต์ เตชะณรงค์
กี้เฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย ปล่อยไปเรื่อยๆ ตามเวลา ทำตามความรู้สึกของกี้ไปเรื่อยๆ
ดูเหมือนว่าการคบหากับสงกรานต์ จะเป็นการเปิดตัวเร็วเกินไปหรือเปล่า ทั้งๆ ที่เพิ่งเลิกกับ 'อั้ม' อธิชาติ ได้ไม่นาน
ไม่เร็วไปหรอก ของแบบนี้มันบอกกันไม่ได้หรอก มันไม่รู้หรอก ว่าจะเร็วหรือช้า กี้ไม่ได้คิดอย่างนั้น ทุกคนเลิกกันไปแล้ว คงไม่มีใครอยากทำให้ตัวเองทุกข์หรอก ส่วนหนึ่งพี่ๆ นักข่าวก็เขียนกันเอง ว่าหนูยังงั้นยังงี้ เขียนว่าหนูกระดี๊กระด๊า เวลาพี่นักข่าวถามหนูก็ตอบ จะให้หนูหน้าบึ้งเหรอ...หนูทำในสิ่งที่หนูมีความสุข คนรอบข้างโอเคก็พอแล้ว ไม่ได้คิดมากว่าจะเป็นการเปิดตัวเร็วหรือช้า หรืออะไร
กดดันไหม
ไม่กดดัน มันเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่มีอะไรต้องเครียด แต่คนทำให้เป็นประเด็นกันไปเอง ซึ่งเราไม่ได้ทำ แต่กี้ก็งงว่าทำไมเขียนไปแบบนั้นด้วย ทั้งๆ ที่เราก็พูดความจริง กลับกลายเป็นว่าเราที่เราพูดความจริงมันดูไม่ดีเหรอ
ถูกมองว่าคบกับสงกรานต์ เพราะฐานะและความร่ำรวย
อยากจะบอกคนคิด คนที่คิดได้แบบนี้แย่มาก มันเป็นการหยามเกียรติศักดิ์ศรีของคน เรายืนด้วยตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นยังไง ก็ยืนหยัดด้วยตัวเอง ไม่ได้จะไปจับไฮโซ เรื่องแบบนี้เมืองนอกเขาไม่คิดกันหรอก
แสดงว่าโดนกระแสทำนองนี้เยอะ
ส่วนใหญ่ก็จะมาถามจับไฮโซเหรอ...กี้ว่ามันไร้สาระ เขาไม่ได้เป็นไฮโซ กี้ว่าพวกพี่นั่นแหละตั้งให้เขาเอง เขาก็เป็นคนธรรมดานี่ล่ะ กี้เลยกลายเป็นผู้หญิงจับผู้ชาย ซึ่งกี้ไม่ชอบเลย กี้ว่าเป็นใครก็คงไม่ชอบหรอกที่โดนมองแบบนี้ ถ้ามาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็คงรู้สึกไม่ดี กี้อยากให้มองในทางที่ดีบ้าง ไม่ใช่ตั้งแง่อะไรขึ้นมามากมาย
อึดอัดไหมที่ถูกจับตามองเรื่องความรักครั้งนี้
ไม่อึดอัดหรอก...คือถามกี้มา กี้ก็ตอบแบบชัดเจน ไม่มีอะไรที่ซับซ้อนเยอะแยะ แต่เราก็เข้าใจ เพราะอยู่วงการนี้มานาน ก็ต้องถูกถามเป็นเรื่องธรรมดา
คาดหวังกับรักครั้งนี้อย่างไรบ้าง
กี้ไม่อยากพูดเยอะ เพราะพูดไปมันก็เป็นดาบสองคม ไม่ขอแสดงความคิดเห็น ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า คือกี้ไม่อยากพูดเยอะ เพราะกลัวคนหมั่นไส้ พอพูดเยอะก็กลายว่าเราดี๊ด๊า อย่างที่กี้บอกว่า ณ ตอนนี้กับพี่สงกรานต์ก็เป็นพี่ที่สนิทกัน ต้องดูกันไปเรื่อยๆ
คุณแม่พิงค์กี้ว่าอย่างไรบ้างกับสงกรานต์
คุณแม่ไม่ว่าอะไร เพราะเราโตแล้ว อายุ 23 ปีแล้ว ก็ปล่อยเรา แต่ขอให้ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ต้องแยกแยะให้ดี คือแม่กี้เขาก็เรื่อยๆ ไม่ได้ไฟเขียวหรือไฟแดงอะไร แต่เขาก็จะบอกว่าขอให้เป็นคนดี
สงกรานต์ให้สัมภาษณ์ว่าจะไปบวชที่ประเทศอินเดียปลายปีนี้ จะประจวบเหมาะกับช่วงที่พิงค์กี้ไปถ่ายหนังที่นั่นด้วยหรือเปล่า
กี้ยังไม่รู้เรื่องเลย คือกี้ไปกี้ไปทำงาน คือเรายังไม่ได้พูดกันถึงเรื่องนี้ อีกตั้งหลายเดือนกว่ากี้จะไป
ตอนนี้มุมมองความรักเปลี่ยนไปไหม
ไม่เปลี่ยนนะ เป็นเหมือนเดิม ยังไงก็อย่างงั้น เพราะกี้ไม่ได้ตั้งไว้เป๊ะๆ อะไรมากมาย กี้เชื่อในพระเจ้า