สมเจตน์ ชี้ แม้ว ไม่เสร็จกิจบ้านเมืองไม่สงบ
สมเจตน์ เชื่อตราบใด ทักษิณ ไม่บรรลุเป้าหมายบ้านเมืองสงบยาก แนะรัฐต้องใช้กฎหมายให้เป็นกฎหมาย เชื่อคลิปเสียงอภิสิทธิ์หลุดเป็นการจัดฉากทำลายความเชื่อถือผู้นำประเทศ
(30 ส.ค.)พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงการเลื่อนชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันเสาร์ที่ 5 ก.ย.นี้ว่า วัตถุประสงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเครือข่ายยังไม่บรรลุเป้าหมาย ซึ่งเป้าหมายของกลุ่มคนเสื้อแดงคือไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ติดคุก และอยากจะได้เงินจำนวน 7.6 หมื่นพันล้านที่ถูกอายัดทรัพย์คืน ถ้าเป้าหมายไม่บรรลุไม่มีหนทางที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และ เครือข่ายจะหยุดพฤติกรรมสร้างความปั่นป่วนให้กับประเทศชาติได้ การชุมนุม หรือการแต่งชุดดำประท้วง เป็นวิธีการทำให้เกิดความวุ่นวายในประเทศ คนที่บริหารประเทศไม่มีโอกาสบริหารประเทศไปได้ ก็จะมัวแต่มายุ่งกับขบวนการที่ก่อความวุ่นวาย
"การชุมนุมเป็นพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นชัดอีกครั้งหนึ่งว่า ขบวนการหรือแนวความคิดของเขาที่จะสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศชาติไม่ยุติลง และเป้าหมายระหว่างทางที่ก่อนจะเกิดนั่นก็คือต้องการเปลี่ยนแปลงอำนาจการบริหารงานของรัฐบาลให้ไปสู่กลไกหรือพรรคการเมืองที่ตัวเอง สามารถมีอำนาจบงการ หรือสั่งการได้ ฉะนั้นก็จะมาสู่การขับไล่รัฐบาลให้รัฐบาล ซึ่งผมเชื่อว่ามือที่สามไม่มีหรอก มันก็เป็นมือของเขานั่นแหละ ที่เขาพยายามจะก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้น และจะอ้างเอาสาเหตุของความวุ่นวายที่จะเกิดการปราบปราม หรือยับยั้งเหตุ มาอ้างว่าทหาร หรือตำรวจทำลายประชาชน เหมือนกับเดือน เม.ย.จราจล" พล.อ.สมเจตน์ ระบุ
พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า เมื่อดูพฤติกรรมย้อนหลังจะเห็นได้ว่าไม่เคยมีที่ไหนที่พรรคการเมืองจะไปเชิญทูตต่างประเทศต่าง ๆ และเอาเหตุการณ์ในบ้านเมืองไปฟ้องเขา จุดประสงค์ของเขาคือต้องการให้ต่างประเทศมาบีบประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่วิธีการของคนรักประเทศชาติ แต่เป็นวิธีที่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายจนรัฐบาลไม่มีโอกาสบริหารประเทศชาติ ส่วนเรื่องคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีที่นำมาเผยแพร่นั้น ก็เป็นวิธีการทำลายความน่าเชื่อถือ รัฐบาล ตอนนี้มันมีเทคโนโลยีหลายอย่างมีการแอบอ้าง แม้กระทั่งการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ก็มีการแอบอ้างอะไรสารพัด ดังนั้นจะต้องใคร่ครวญให้ดีว่าเหตุการณ์แต่ละ เหตุการณ์มันจะเกิดขึ้นได้หรือไม่
"ผมไม่ได้ดูหรือฟังคลิปเสียงดังกล่าว แต่ก็จะต้องดูพฤติกรรมของนายกรัฐมนตรีว่าเป็นคนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวแบบนั้นหรือเปล่า หรืออย่างไรที่จะไปทำแบบนั้น พฤติกรรมของคนมันเป็นอย่างไรก็จะต้องเป็นแบบนั้น พฤติกรรมของคนที่สุภาพเรียบร้อย จะไปพูดให้มันรุนแรงโอกาสก็เป็นไปไม่ได้ ขณะที่คนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงจะมาพูดให้ดีก็เป็นไปไม่ได้ ผมไม่อยากยกตัวบุคคลขึ้นมาพูด แต่จะต้องไปดูให้ชัดเจนว่าคนไหนที่เป็นตัวอย่างความก้าวร้าวรุนแรงที่จะทำให้เกิดขึ้น หรือคนไหนที่เป็นตัวอย่างของความเป็นสุภาพเรียบร้อย จะทำให้ก้าวร้าวรุนแรงก็เป็นไปไม่ได้" พล.อ.สมเจตน์ กล่าว
พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ตอนนี้กลุ่มคนเสื้อแดงแยกกันเดินเพื่อที่จะไปสู่เป้าหมายเดียวกัน และอีกส่วนหนึ่งเป็นการแยกเพื่อใบเสร็จในการที่จะรับเงินรับทองมันจะได้หลาย ๆ โครงการ แต่ละโครงการก็เสนอใบเสร็จไปรับเงินได้ ดังนั้นอย่าเชื่อว่าจะสงบเดี๋ยวก็จะต้องมีอะไรขึ้นมาอีก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เป็นคนน่าสงสาร แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องสงสารตัวเองมากกว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ คิดว่าคุณงามความดีที่เขาสร้างไป กับสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสียหายให้กับประเทศชาติไม่สามารถลบล้างกันได้
"การที่รัฐบาลนำ พรบ.ด้านความมั่นคงมาควบคุมการชุมนุมนั้น จะยับยั้งได้ขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่ใช้อำนาจเข้าไปดำเนินการ เหมือนกฎหมายทุกกฎหมายถ้าผู้รักษากฎหมายไม่ใช้อำนาจตรงนั้นกฎหมายนั่นก็ไม่มีผล ดังกฎหมายจะต้องประกอบด้วยกฎหมาย มีผู้รักษาอำนาจ และสามารถใช้กฎหมายให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎหมายถึงจะมีประสิทธิภาพ ถ้าหากกฎหมายสั่งการไปแล้วผู้ใช้อำนาจทางกฎหมายไม่เข้าไปดำเนินการกฎหมายก็ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นเราจะต้องดำเนินการให้เด็ดขาด" พล.อ.สมเจตน์ กล่าว