ว่าที่นายกฯใหม่ญี่ปุ่นชม โอบามา เยี่ยม
ว่าที่นายกฯใหม่ญี่ปุ่นชม โอบามา ดำเนินนโยบายต่างประเทศดีเยี่ยม ผ่านช่องทางเจรจาและสร้างสมานฉันท์ในเวทีโลก พร้อมแก้ปัญหาพิพาทเหนือหมู่เกาะที่ยืดเยื้อหลายสิบปีกับรัสเซีย ทำเนียบขาวคาดความสัมพันธ์ทวิภาคีสหรัฐ-ญี่ปุ่นแข็งแกร่งขึ้นในรัฐบาลชุด ใหม่
(31ส.ค.) นายยูกิโอะ ฮาโตยามา หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น(ดีพีเจ)ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแดนซามูไร กล่าวชื่นชมนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ว่า บริหารนโยบายการเมืองระหว่างประเทศได้อย่างดีเยี่ยม ผ่านการเจรจาและสร้างความสมานฉันทน์ให้เกิดขึ้นในเวทีการเมืองโลก พร้อมทั้งกล่าวพาดพิงถึงรัสเซียในการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับนโยบายหลังการ เลือกตั้งครั้งแรกวานนี้ (31ส.ค.)
ทั้งนี้ นายฮาโตยามา ซึ่งสังกัดพรรคฝ่ายค้าน จะก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นภาย ในสองสัปดาห์นี้ หลังจากผลหยั่งคะแนนเสียงนอกคูหาเลือกตั้ง หรือเอ็กซิท โพลล์หลายสำนักบ่งชี้ตรงกันว่าพรรคดีพีเจสามารถเอาชนะพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลได้ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น
"นายโอบามาบริหารนโยบายต่างประเทศของสหรัฐได้อย่างดีเยี่ยมผ่านการเจรจาและสร้าง ความสมานฉันท์ในกิจการการเมืองโลก เป็นความจริงที่ ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆทั่วโลกมีความหลากหลาย รวมทั้งปัญหาในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ความมั่นคงแห่งชาติเป็นเรื่องสำคัญ แต่ผมก็เชื่อว่าสถานการณ์การเมืองโลกในขณะนี้ควรใช้การเจรจาและการสร้างความ สมานฉันท์เป็นเครื่องมือ"ว่าที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวตอบคำถามเกี่ยวกับการดำเนินนโยบาบต่างประเทศ เมื่อขึ้นมาเป็นรัฐบาล
ด้านกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ได้ออกแถลงการณ์ ภายหลังจากผลเอ็กซิท โพลล์ชี้ชัดว่าพรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่นชนะเลือกตั้งว่า นายโอบามา คาดหวังว่าจะได้เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่นที่ มีแนวทางซ้ายกลาง และหวังว่าจะได้หารือกับรัฐบาลชุดใหม่ในประเด็นปัญหาต่างๆทั้งในระดับทวิภาคี และระดับพหุภาคี รวมถึง การผลักดันการเจราจาอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือที่ประสบปัญหาชะงักงัน
นอกจากนี้ ทำเนียบขาว ยังระบุว่าการเลือกตั้งในญี่ปุ่นครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศประชาธิปไตยชั้นนำของโลก
"เรามั่นใจว่าความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันก็จะแนบแน่นยิ่งขึ้น ภายใต้การทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ที่ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งครั้งนี้"นาย โรเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบขาว ระบุในแถลงการณ์
ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่น มีนโยบายด้านการต่างประเทศที่ยังคงเดินหน้าสร้างสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับ สหรัฐต่อไปแต่เน้นในลักษณะเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกันมากขึ้น พร้อมทั้งเตรียมทบทวนแผนคงกำลังทหารสหรัฐในญี่ปุ่นจำนวน 47,000 นายเสียใหม่
นอกจากนี้ นายฮาโตโยมา ยังกล่าวด้วยว่า จะหาทางแก้ปัญหาพิพาทเขตแดนเหนือหมู่เกาะที่ยืดเยื้อมานานหลายทศวรรษกับรัสเซีย ซึ่งกรณีพิพาทนี้ทำให้ทั้งสองประเทศไม่สามารถลงนามสนธิสัญญาสันติภาพ ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ร่วมกันได้
"ปัญหานี้เกิดขึ้น ตั้งแต่สมัยคุณปู่ของผม ผมจึงอยากหาทางแก้ปัญหาข้อพิพาทการอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะดังกล่าวกับรัส เซียให้จบสิ้นลง ทั้งรัสเซียและญี่ปุ่นยัง มีโอกาสอีกมากที่จะร่วมมือกัน เพราะหากไม่เร่งแก้ปัญหาเหล่านี้ ทั้งสองประเทศก็จะสูญเสียผลประโยชน์ของประเทศเหมือนๆกัน"นายฮาโตยามา กล่าว
เอ็กซิท โพลล์ ของสำนักต่างๆรายงานตรงกันว่า พรรคฝ่ายค้านของนายฮาโตยามา ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย โดยสถานีโทรทัศน์อาซาฮีระบุว่า พรรคดีพีเจ จะกวาดที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้มากถึง 315 ที่นั่งจากทั้งหมด 480 ที่นั่ง
ด้านโตเกียว บรอดแคสติ้ง ซิสเต็ม คาดว่าพรรคดีพีเจ จะได้ 321 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าจากปัจจุบัน 115 ที่นั่ง นับเป็นชัยชนะด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ซึ่งจะเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของพรรคดีพีเจ ที่ก่อตั้งได้เพียง 11 ปีและจะทำให้นายฮาโตยามา เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ไม่ได้มาจากพรรคแอลดีพี นับตั้งแต่ปี 2537
ขณะที่เอ็กซิท โพลล์ของเอ็นเอชเค ชี้ว่า พรรคแอลดีพีของนายกรัฐมนตรีทาโร อาโซ จะได้เพียง 84-131 ที่นั่งจากที่มีอยู่ 302 ที่นั่ง และเอ็กซิท โพลล์ของ นิปปอน เทเลวิชั่น คาดว่าพรรคแอลดีพีจะได้เพียง 96 ที่นั่ง
ขณะเดียวกัน นายทาโร อาโซะ นายกรัฐมนตรีสังกัดพรรคแอลดีพี ที่ปราชัยในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ กล่าวว่า จะลาออกจากหัวหน้าพรรคและลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทแพร่ภาพกระจายเสียง เอ็นเอชเค เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้น