เอาแล้ว! ประธานาธิบดีบราซิล ติดโควิด-19 ผลยืนยันเป็นบวก หลังเริ่มไอออกสื่อหลายวันก่อน
นายไชร์ โบวโซนารู ประธานาธิบดีบราซิล วัย 65 ปี มีผลตรวจหาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ในร่างกายออกมาเป็นบวก หรือ พบเชื้อ หลังจากไปตรวจร่างกายมาเมื่อไม่นานมานี้
ถึงอย่างนั้น นายโบวโซนารู ก็ยังเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ว่าตนแข็งแรงดี แม้ว่าผลตรวจดังกล่าวจะยืนยืนแล้วว่าตนเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ก็ตาม
ผู้นำบราซิลรายนี้ บอกกับซีเอ็นเอ็นอีกว่า ตนกำลังทานยาไฮดรอกซิคลอโรควิน ซึ่งเป็นยาที่ปกติแล้วใช้รักษาโรคมาลาเรีย และพูดต่อไปว่า ยาดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แม้ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขทั่วโลกจะไม่ยืนยันก็ตาม เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงที่อันตรายได้
ชาวบราซิลจำนวนมากเห็นว่านายโบวโซนารูเริ่มมีอาการไอระหว่างไลฟ์ผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (2 ก.ค.) ทั้งยังนั่งติดกับคนอื่นๆ อีก 6 คน และคนเหล่านี้ก็ไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัยเลย ซึ่งในกลุ่มนี้ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาภูมิภาค นายโฮเชริอู มาริญู และประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ธนาคารไกชา เอโกโนมิกะ เฟเดเรา นายเปดรู กีมาราเอส อยู่ด้วย
ไม่ใช่แค่นั้น ผู้นำบราซิลรายนี้ ยังเข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับคนในรัฐบาลอีกหลายคน เรื่อยไปจนถึงประชาชนทั่วไป ทั้งยังร่วมทานอาหารเที่ยงกับเอกอัครทูตสหรัฐประจำบราซิลเมื่อวันเสาร์ (4 ก.ค.) อีกต่างหาก
ที่ผ่านมา นายโบวโซนารู พยายามสื่อสารกับชาวบราซิลว่าโรคโควิด-19 ไม่ร้ายแรง และเป็นแค่ "ไข้หวัดธรรมดา" เท่านั้น และผู้นำบราซิลรายนี้ไม่ทำตามคำแนะนำทางการแพทย์หลายครั้งด้วย อย่างเช่น การเข้าไปร่วมประท้วงกับประชาชน ในช่วงที่บราซิลเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรง โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย และยังจับมือกับประชาชนหลายคนอีก
อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 ก.ค.) มีผู้โพสต์คลิปคลิปหนึ่งลงในเว็บไซต์ยูทูบ เป็นภาพที่นายโบวโซนารูสวมหน้ากากอนามัย และพยายามไม่เข้าไปใกล้ผู้สนับสนุน ที่รออยู่ด้านหน้าทำเนียบประธานาธิบดี ทั้งยังบอกกับผู้สนับสนุนเหล่านี้ว่าตนกำลังทำตามคำสั่งของแพทย์ ที่ให้ตนเว้นระยะห่างทางสังคม หลังจากตนเริ่มแสดงอาการว่าติดเชื้อไวรัส แต่ก็ยังปฏิเสธว่าตนไปตรวจมาแล้ว และปอดของตน "สะอาด" ไร้โรค
บราซิลกลายเป็นแหล่งแพร่ไวรัสแหล่งใหญ่ที่สุดของโลก เป็นรองเพียงแค่สหรัฐประเทศเดียวเท่านั้น เพราะตัวเลขจนถึงวันนี้ (7 ก.ค.) พบว่าบราซิลมีผู้ติดเชื้อดังกล่าวแล้วกว่า 1.64 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้อย่างน้อย 65,000 คน
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้บราซิลเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เป็นเพราะที่ผ่านมา ประธานาธิบดีรายนี้มักจะขัดแย้งกับบรรดาผู้ว่าการรัฐหลายรัฐ และแม้แต่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับมาตรการการกักกันโรค จนทำให้การตอบสนองต่อโรคนี้ในบราซิลเอาแน่เอานอนไม่ได้ และขณะนี้ผู้ที่บริการกระทรวงสาธารณสุขของบราซิล ก็เป็นเพียงรักษาการรัฐมนตรีเท่านั้น เพราะนายโบวโซนารูไล่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนี้ออกไปแล้ว 1 คน ส่วนคนต่อมาก็ทนไม่ได้ จนต้องขอลาออกไปเอง